สท.-ไบโอเทค จับมือศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ เติมความรู้เกษตรกรรู้จัก-จัดการศัตรูข้าวด้วยเทคโนโลยี

สท.-ไบโอเทค จับมือศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ เติมความรู้เกษตรกรรู้จัก-จัดการศัตรูข้าวด้วยเทคโนโลยี

เมื่อวันที่ 21-23 กรกฎาคม 2568 สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) และศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. ร่วมกับศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การวินิจฉัยศัตรูข้าวและการป้องกันกำจัดโดยใช้เทคโนโลยีไลน์บอทโรคข้าวและชีวภัณฑ์” ณ อำเภอชุมพลบุรีและอำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ให้เกษตรกรแกนนำรวม 80 คนจากเครือข่ายผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้จากทั้งสองอำเภอ โดยมี น.ส.ธนัฐดา อินทร์ทัต นักวิชาการโรคพืช ศูนย์วิจัยข้าวสุรินทร์ เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่อง “โรคข้าว: การวินิจฉัยโรคข้าวและการป้องกันกำจัดโรคที่เหมาะสม” ดร.บุญเฮียง พรมดอนกอย นักวิจัยอาวุโส ไบโอเทค เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่อง “แมลงศัตรูข้าวและการป้องกันกำจัดโดยใช้สารชีวภัณฑ์” และ น.ส.ทิฆัมพร แสงโสภา นักวิชาการ สท. เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่อง “การใช้ไลน์บอทโรคข้าวและการใช้ DAPBOT”

ภูมิปัญญาผสานนวัตกรรม ยกระดับ “ผ้าทอพื้นเมืองทุ่งกุลา”

ภูมิปัญญาผสานนวัตกรรม ยกระดับ “ผ้าทอพื้นเมืองทุ่งกุลา”

“เดี๋ยวนี้ทำนาก็สู้ทำผ้าไม่ได้” คำบอกเล่าจาก ลำไพร ยางสุข ประธานกลุ่มอาชีพทอผ้าไหมบ้านม่วงสวรรค์ ต.ไพรขลา อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ สะท้อนถึงความสำคัญของงานทอผ้าพื้นเมืองที่มีบทบาทต่อเศรษฐกิจครัวเรือน ไม่ต่างจาก สุภา อิ่มบุตร ประธานกลุ่มทอผ้าแม่สุภาผ้าไทย ต.ทุ่งหลวง อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ที่ส่งเสริมให้สมาชิกกลุ่มสร้างรายได้จากงานทอผ้าเดือนละไม่ต่ำกว่าหมื่นบาท จากงานอดิเรกหลังเสร็จสิ้นการทำนาในแต่ละวัน ทอผ้าไว้ใช้เองในครัวเรือนสู่การค้าซื้อขายและสร้างรายได้ที่จับต้องได้เร็วกว่าทำนา กลายเป็นอาชีพหลักของเธอทั้งสองที่ต่างผ่านช่วงเวลากินอยู่หลับนอนคากี่ทอ เพื่อสร้างสรรค์ชิ้นงานให้เป็นเม็ดเงินส่งลูกเรียนจบปริญญา เติมความรู้ เสริมงานศิลป์ สร้างอัตลักษณ์ลายผ้าประจำถิ่น “บ้านม่วงสวรรค์เป็นหมู่บ้านปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและผลิตผ้าไหมเยอะ จากเป็นอาชีพเสริมมีแม่ค้ามารับซื้อ 300-500 บาท/ผืน เดี๋ยวนี้เป็นอาชีพหลัก ราคาผ้าก็หลักพัน ถ้าย้อมสีธรรมชาติบางผืนก็เป็นหมื่น” เดิมทีในหมู่บ้านต่างคนต่างทอผ้า แต่หลังจากได้รวมกลุ่มและขึ้นทะเบียนกลุ่มทอผ้าเมื่อปี พ.ศ. 2550 เปิดโอกาสให้ได้ออกร้านจำหน่ายและเรียนรู้จากหน่วยงานต่างๆ ปัจจุบันกลุ่มอาชีพทอผ้าไหมบ้านม่วงสวรรค์มีสมาชิก 24 คน แต่ละคนทอผ้าเองทุกกระบวนการเป็นวิถีประจำวัน

พัฒนายกระดับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม

พัฒนายกระดับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม

โคเนื้อที่เกษตรกรเลี้ยงส่วนใหญ่เป็นพันธุ์พื้นเมืองและลูกผสมอเมริกันบราห์มัน ซึ่งนิยมส่งออกเป็นโคมีชีวิตไปเวียดนามและจีน แต่ในช่วงที่ผ่านมาเกษตรกรได้รับผลกระทบจากการส่งออกทำให้เกิดวิกฤติราคาโคเนื้อตกต่ำ ขณะที่โคเนื้อลูกผสมแองกัส วากิวและชาร์โรเล่ส์เป็นที่ต้องการของตลาดในประเทศและขายได้ราคาดี เพื่อใช้ผลิตเนื้อโคตอบโจทย์ความต้องการบริโภคเนื้อโคขุนคุณภาพไขมันแทรก แต่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคยังคงประสบปัญหาการเลี้ยงในหลายด้าน ทั้งองค์ความรู้และเทคโนโลยี ต้นทุนอาหาร โรคระบาด และการตลาด สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) ร่วมกับหน่วยงานปศุสัตว์จังหวัดในเขตพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้และหน่วยงานพันธมิตร ดำเนินโครงการพัฒนายกระดับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีให้เกษตรกรสามารถผลิตโคคุณภาพดี พัฒนากระบวนการเลี้ยงตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ได้รับมาตรฐานฟาร์ม พัฒนาโคลูกผสมสู่ตลาดพรีเมียมและสร้างนวัตกรชุมชน (นักผสมเทียมอาสา) ปลูกพืชอาหารสัตว์ ลดต้นทุนค่าอาหารเลี้ยงโคเนื้อ  ในยุคที่ข้าวของมีราคาแพง ไม่เว้นแม้แต่ฟางอัดก้อน หญ้าอาหารโคหรืออาหารสัตว์สำเร็จรูป ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคที่ต้องแบกรับต้นทุนการผลิตที่สูง ด้วยระยะเวลาการเลี้ยงโคเนื้อที่ค่อนข้างนานกว่าจะได้รับผลตอบแทน ขณะที่พื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ประสบภัยแล้ง ขาดแคลนพืชอาหารสัตว์ เกษตรกรจำต้องกักตุนฟางอัดก้อนเพื่อใช้เลี้ยงโคเนื้อตลอดทั้งปี แต่การให้ฟางเป็นอาหารเพียงอย่างเดียว ทำให้โคได้รับโภชนะไม่ครบถ้วน ส่งผลต่อคุณภาพของโคและราคาจำหน่าย ปัญญา เชื้อกล้า ผู้ใหญ่บ้านบ้านโนนสังข์ ต.ด่าน อ.ราษีไศล

“บ้านไตรโค” จุดผลิตชีวภัณฑ์จัดการโรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน

“บ้านไตรโค” จุดผลิตชีวภัณฑ์จัดการโรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียน

“ใช้เคมี โรคหาย แต่ไม่นานก็เป็นอีก ใช้ขีวภัณฑ์เห็นผลช้า แต่ยั่งยืนกว่า” ถ้อยคำจาก พงษ์ธร เกษรบัว เกษตรกรวัย 75 ปี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ผู้ผ่านประสบการณ์จัดการโรครากเน่าโคนเน่าในทุเรียนด้วยราไตรโคเดอร์มา ตลอดชีวิตการทำสวน พงษ์ธร ยึดแนวทางการทำเกษตรปลอดภัย ลด ละการใช้สารเคมีตั้งแต่ทำสวนผสมผสานทั้งพริกไทย เงาะ ลองกอง ก่อนลงมือทำทุเรียนจริงจังได้ 10 กว่าปี ในช่วงที่ทุเรียนราคาดี โดยเขาให้ความสำคัญกับดินเพื่อป้องกันการเกิดโรครากเน่าโคนเน่า โรคพืชสำคัญของทุเรียนที่เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งสภาพแวดล้อม (เช่น ความชื้นสูง การระบายน้ำในแปลงไม่ดี ดินเป็นกรดสูง) และการจัดการสวนที่ไม่เหมาะสม  (เช่น การใช้สารเคมีมากเกินไป ความอ่อนแอของต้นทุเรียน เครื่องมือการเกษตรที่ไม่สะอาด) “ใช้ไตรโคเดอร์มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว ซื้อแบบสำเร็จจากร้าน ก็เห็นผลอยู่

จุดหมายนั้นสำคัญ แต่ระหว่างทางที่เดินด้วยกัน…สำคัญกว่า

จุดหมายนั้นสำคัญ แต่ระหว่างทางที่เดินด้วยกัน…สำคัญกว่า

ประโยคที่ว่า จุดหมายนั้นสำคัญ แต่ระหว่างทางที่เดินด้วยกันนั้นสำคัญกว่า เป็นบทสรุปที่ไม่เกินจริงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนใต้ร่มบุญเกษตรอินทรีย์ จังหวัดสงขลา ที่ น.ส.เลอทีชา เมืองมีศรี นักวิชาการ สท. ได้บอกเล่าเรื่องราวดีๆ จากการทำงานกับเกษตรกรกลุ่มนี้ ภายใต้ “โครงการการยกระดับเครือข่ายผู้ผลิตผักปลอดภัย/อินทรีย์ด้วยเทคโนโลยีโรงเรือนและการบริหารจัดการผลิตพืชผัก ภายใต้สภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง ปี 2” ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก.  ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระหว่างที่พวกเราลงพื้นที่ติดตามผลการปรับใช้องค์ความรู้และเทคโนโลยีโรงเรือนปลูกพืชและการบริหารจัดการการผลิตผักในพื้นที่จังหวัดสงขลา ตานูน–มนูญ แสงจันทร์ศิริ ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนใต้ร่มบุญเกษตรอินทรีย์ จังหวัดสงขลา ได้พาพวกเราไปรู้จักกับ พี่บูรณ์–ฐิติพร บุญพรรณ หญิงสาวพิการขาขาดที่ตำบลเขามีเกียรติ อำเภอสะเดา พี่บูรณ์ ยึดอาชีพแปรรูปทุกอย่างที่ขายได้ เน้นนำวัตถุดิบในท้องถิ่นมาเพิ่มมูลค่า ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกกุ้งเสียบ น้ำพริกนรก กระท้อนทรงเครื่อง มะม่วงหาวมะนาวโห่แช่อิ่ม ตานูนบอกว่าพี่บูรณ์สนใจปลูกผักส่งห้างโดยผ่านเครือข่ายฯ

สท.-ม.เกษตรศาสตร์ ผนึกกรมส่งเสริมการเกษตร-จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดตัว “ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์ KUML ระดับชุมชน”

สท.-ม.เกษตรศาสตร์ ผนึกกรมส่งเสริมการเกษตร-จังหวัดเพชรบูรณ์ เปิดตัว “ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์ KUML ระดับชุมชน”

เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) สวทช. ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน กลุ่มส่งเสริมพืชน้ำมันและพืชตระกูลถั่ว สำนักส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร และสำนักงานเกษตรจังหวัดเพชรบูรณ์ จัดกิจกรรมเปิดตัว “ศูนย์เรียนรู้การผลิตเมล็ดพันธุ์ระดับชุมชน: ถั่วเขียว KUML จากงานวิจัยสู่แปลงผลิตด้วยความรู้และเทคโนโลยี” ณ กลุ่มแปลงใหญ่ถั่วเขียว หมู่ 5 ต.ท่าแดง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ โดยได้รับเกียรติจาก นายกกชัย ฉายรัศมีกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นประธานเปิดงาน และมอบป้ายศูนย์เรียนรู้ฯ ให้กลุ่มเกษตรกรวิสาหกิจแปลงใหญ่ถั่วเขียวตำบลท่าแดง ที่ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการผลิตถั่วเขียว KUML และยกระดับเป็นกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพตามหลักวิชาการ ซึ่งมีนายสมศักดิ์ จันทร์เรียน ประธานกลุ่มฯ  นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมตามรอยการผลิตเมล็ดพันธุ์ (seed)

ถั่วเขียวพันธุ์ดี KUML 4 ที่ ‘หนองไผ่ เพชรบูรณ์’

ถั่วเขียวพันธุ์ดี KUML 4 ที่ ‘หนองไผ่ เพชรบูรณ์’

“ถ้าต้องการเมล็ดพันธุ์ KUML เบอร์ 4 ก็ต้องมาที่หนองไผ่” สมศักดิ์ จันทร์เรียน ประธานวิสาหกิจแปลงใหญ่ถั่วเขียวตำบลท่าแดง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ บอกถึงเป้าหมายของกลุ่มฯ หลังจากที่ได้ยกระดับเป็น “ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว KUML ระดับชุมชน” อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ มีพื้นที่ปลูกถั่วเขียวมากที่สุดของจังหวัด นอกจากถั่วเขียวเป็นพืชบำรุงดิน  ช่วยลดการใช้ปุ๋ยในนาข้าว เพิ่มคุณภาพและปริมาณข้าวแล้ว ผลผลิตเมล็ดถั่วเขียวยังเป็นรายได้เสริมของเกษตรกรที่นี่มาเนิ่นนาน สมศักดิ์ คุ้นเคยกับพืชหลังนาชนิดนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่ด้วยพันธุ์ถั่วเขียวที่รุ่นพ่อแม่ปลูกให้ผลผลิตน้อย ไม่ต้านทานโรคและแมลง ทำให้เขาเริ่มมองหาสายพันธุ์ใหม่มาทดแทน “ช่วงปี 2559 เกษตรกรที่กำแพงเพชรบอกว่ามีถั่วเขียวพันธุ์ KUML เป็นพันธุ์ใหม่ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คุยกันอยู่หลายรอบ ก็ตัดสินใจลงทุนซื้อมา 200 กิโลกรัม เพราะอยากได้พันธุ์ใหม่” เมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวพันธุ์ใหม่ล็อตแรก สมศักดิ์ ปลูกในช่วงฤดูฝนบนพื้นที่เขา

สท.-สนง.เกษตรระยอง ติดอาวุธความรู้ “ระบบฟาร์มรักษ์น้ำ” ยกระดับการผลิตทุเรียนด้วยเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ

สท.-สนง.เกษตรระยอง ติดอาวุธความรู้ “ระบบฟาร์มรักษ์น้ำ” ยกระดับการผลิตทุเรียนด้วยเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) สวทช. ร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดระยอง จัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “การบริหารจัดการน้ำแปลงปลูกทุเรียนและการใช้เทคโนโลยีเกษตรแม่นยำ (Smart Farm) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตทุเรียน” ณ ห้องสร้อยเพชร โรงแรมโกลเด้น ซิตี้ ระยอง จ.ระยอง โดยได้รับเกียรติจากนางวรนุช สีแดง เกษตรจังหวัดระยอง เป็นประธานเปิดงาน กิจกรรมครั้งนี้มุ่งหวังให้เกษตรกรได้นำองค์ความรู้และเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนการผลิตทุเรียนอย่างยั่งยืน พร้อมต่อยอดสู่การพัฒนาภาคเกษตรกรรมไทยในยุคเกษตรอัจฉริยะ ซึ่งเกษตรกรและผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมรวม 200 คน ได้รับองค์ความรู้และทักษะด้านการจัดการน้ำและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเกษตรแม่นยำในแปลงปลูกทุเรียนจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ได้แก่ นายสุเทพ สหายา อดีตผู้อำนวยการกลุ่มกีฏและสัตว์วิทยา สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร บรรยายในหัวข้อ “การจัดการแมลงและไรศัตรูทุเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ เรียนรู้เข้าใจแคดเมียม

สท.-ม.แม่โจ้จับมือให้ความรู้ทหารพันธุ์ดี “สร้างโรงเรือนปลูกพืชต้นทุนต่ำและบริหารจัดการการใช้ประโยชน์”

สท.-ม.แม่โจ้จับมือให้ความรู้ทหารพันธุ์ดี “สร้างโรงเรือนปลูกพืชต้นทุนต่ำและบริหารจัดการการใช้ประโยชน์”

เมื่อวันที่ 16-18 มิถุนายน 2568 สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) สวทช. ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และโครงการทหารพันธุ์ดี กองพลทหารราบที่ 7 จัดอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “การสร้างโรงเรือนต้นทุนต่ำและการบริหารจัดการการใช้ประโยชน์” ณ กองพลทหารราบที่ 7 จ.เชียงใหม่ โดยมีนายทหารในโครงการทหารพันธุ์ดีและเกษตรกรในเครือข่ายการทำงานของ สท. เข้าร่วมเรียนรู้รวม 110 คน ผู้เข้าร่วมอบรมได้รับความรู้จาก ผศ.ฉันทนา วิชรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาพันธุ์พืชของมูลนิธิชัยพัฒนา เรื่อง “มุมมองการบริหารจัดการด้านการปลูกพืชให้ประสบความสำเร็จ” นายลิขิต มณีสินธุ์ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ลัคกี้ซีดส์อโกร เรื่อง “โรงเรือนปลูกพืช ความสำคัญ ความจำเป็นและการใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพ” ดร.สุเทพ วัชรเวชศฤงคาร และอาจารย์ทวีป เสนคำวงศ์