บ้านนางอย-โพนปลาโหล ตำบลเต่างอย อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร ชุมชนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (ในหลวงรัชกาลที่ 9) ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงทอดพระเนตรเห็นความเป็นอยู่ที่แร้นแค้นของราษฎร และทรงดำเนินการพระราชทานแนวทางเพื่อยกระดับและเปลี่ยนชีวิตผู้คน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีรายได้ที่มากขึ้น สามารถรักษาสภาพการพัฒนาและความเป็นอยู่ที่ดีต่อไปได้ด้วยกลุ่มชาวบ้านเอง ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2523 จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 40 ปี หลายหน่วยงานได้สืบสานพระราชดำริของพระองค์ท่าน ส่งผลให้แม้ในช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19) คนทั่วโลกได้รับผลกระทบ แต่คนในชุมชนแห่งนี้สามารถฝ่าวิกฤตได้ด้วย “เศรษฐกิจพอเพียง” และ “การพึ่งพาตนเอง”

ตั้งแต่ปี 2551 “ศูนย์การเรียนรู้วิสาหกิจชุมชนอำเภอเต่างอย” เป็นศูนย์กลางจัดกิจกรรมให้คนในอำเภอเต่างอย เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของชุมชน เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีการปลูกพืชและแปรรูป การฝึกอบรมและศึกษาดูงาน ก่อให้เกิดชุมชนแห่งการเรียนรู้แบบพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน โดยร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรและชุมชน ดำเนินโครงการวิสาหกิจชุมชน-โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูป อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร เพื่อให้เกษตรกรในพื้นที่พึ่งพาตนเอง สนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน โดยมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลผลิตเกษตร ช่วยรับซื้อผลผลิตที่ไม่สามารถจำหน่ายได้เข้าสู่กระบวนการแปรรูป ได้แก่ มะเขือเทศ แปรรูปเป็นมะเขือเทศแช่อิ่มอบแห้ง หม่อน แปรรูปเป็นเครื่องดื่ม กระเจี๊ยบ นำมาแปรรูปเป็นน้ำกระเจี๊ยบ ถวายพญาเต่างอยแทนน้ำอัดลม กล้วยน้ำว้า แปรรูปเป็นกล้วยอบแห้ง

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนข้าวกล้องงอกบ้านนางอย-โพนปลาโหล กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผ้าย้อมคราม-สีธรรมชาติ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่บ้านกระเช้าเถาวัลย์บ้านเต่างอยเหนือ กลุ่มอาชีพผู้ผลิตไม้กวาดบ้านเต่างอยใต้ ที่ช่วยให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้คนในชุมชน ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของชุมชนที่มีการบริหารจัดการตนเอง

ที่ผ่านมาเกษตรกรมีโอกาสเรียนรู้จากการสาธิต การฝึกอบรมการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ตามหลักวิชาการ โดยเฉพาะการส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ยากจนไม่มีที่ดินทำกินได้เข้ามาใช้ประโยชน์จากแปลงเรียนรู้เกษตรนาฮีของศูนย์ฯ นอกจากได้รับความรู้แล้ว ยังได้รับปัจจัยการผลิตทางการเกษตรเพื่อลดต้นทุนการผลิตและช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิต สร้างรายได้ของครอบครัว ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนให้สามารถเลี้ยงตนเอง ประกอบอาชีพอยู่ในท้องถิ่นโดยไม่ต้องอพยพไปทำมาหากินที่อื่น ใช้ชีวิตแบบพึ่งพาอาศัยธรรมชาติ ทำนาปลูกข้าวไว้บริโภค เมื่อเหลือจึงนำออกจำหน่าย อยากกินเห็ดก็เข้าป่าใกล้บ้านเก็บมาบริโภคและแบ่งจำหน่ายช่วงฤดูเห็ดออกดอก อยากกินปลาก็ลงสระ ที่ก่อนหน้านี้ศูนย์ฯ ได้ส่งเสริมให้นำพันธุ์ปลาไปปล่อย ชุมชนจึงไม่ได้รับความเดือดร้อนเรื่องพืชผักและโปรตีนจากสัตว์ในช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (Covid-19)

การพึ่งพาตนเองโดยน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชุมชนบ้านนางอย-โพนปลาโหล และทุกชุมชน จึงเป็นทางรอดของประเทศไทย โดยเฉพาะเรื่องความมั่นคงทางอาหาร ชุมชนไม่ได้รับผลกระทบเรื่องอาหารการกิน สามารถปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์ ปลา ไก่ (ไข่) ไว้กินเอง และยังหาอาหารจากป่า เช่น เห็ด ไข่มดแดง มีการซื้อขายพืชผลเกษตรตามฤดูกาลได้ที่ตลาดกลางสินค้าเกษตรภายในท้องถิ่น ไม่ต้องพึ่งพาตลาดภายนอก และเกิดการจ้างงานในชุมชนของศูนย์ฯ ซึ่งช่วยรองรับแรงงานคืนถิ่นจากผลกระทบที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ได้ด้วย

“บ้านนางอย-โพนปลาโหล” ชุมชนพึ่งพาตนเองในสถานการณ์ Covid-19