ทั่วไป

ความร่วมมือร่วมใจของทีมงาน ส่งผลต่อความสำเร็จขององค์กร นี่คือ “รางวัลที่ยิ่งใหญ่”

รองศาสตราจารย์ ดร.พรสวรรค์ เหลืองวุฒิวงษ์ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ได้รับรางวัลอาจารย์ตัวอย่างของสภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล (สาขาวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี) ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองคณบดีฝ่ายมาตรฐานการวิจัย อาจารย์สำเร็จปริญญาตรีวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารังสีเทคนิค ปริญญาโทวิทยาศาตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาอายุรศาสตร์เขตร้อน และปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาอายุรศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล

ตลอดระยะเวลากว่าสองทศวรรษ รองศาสตราจารย์ ดร.พรสวรรค์ เหลืองวุฒิวงษ์ เริ่มต้นการทำงานวิจัยด้านไวรัสมาโดยตลอด และได้รับโอกาสจากผู้บริหารคณะเวชศาสตร์เขตร้อน ให้ดูแลห้องปฏิบัติการอ้างอิงด้านโรคเขตร้อน (Tropical Medicine Diagnostic Reference laboratory: TMDR) ซึ่งช่วยในการวินิจฉัยโรคติดเชื้อ เช่น ไข้เลือดออกเดงกี่ โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และชิคุนกุนยา นอกจากนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.พรสวรรค์ เหลืองวุฒิวงษ์ ได้ดูแลงานด้านคุณภาพของการตรวจวินิจฉัยเชื้อไวรัส และการตรวจปรสิตหนอนพยาธิ รวมถึงดูแลห้องปฏิบัติการที่มีความปลอดภัยทางชีวภาพระดับ 2 และ ระดับ 3 อีกทั้ง ยังเป็นประธานคณะกรรมการความปลอดภัยทางชีวภาพ คณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในคนดูแลห้องปฏิบัติการ กลาง และหน่วยสัตว์ทดลอง ของคณะ ฯลฯ

รองศาสตราจารย์ ดร.พรสวรรค์ เหลืองวุฒิวงษ์ มุ่งเน้นงานวิจัยเกี่ยวกับการตรวจวินิจฉัยเชื้อไวรัส การหาความชุกของโรค และการค้นหาไบโอมาร์คเกอร์ (Biomarker) เพื่อพยากรณ์ความรุนแรงของโรค ในช่วงสถานการณ์
โควิด-19 ซึ่งเป็นวิกฤตสุขภาพระดับโลก เนื่องจากชุดตรวจจากต่างประเทศขาดแคลนและต้องรอการนำเข้า คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ
(ไบโอเทค) ได้คิดค้นและพัฒนาชุดตรวจโควิด-19 ภายในประเทศ เพื่อทดแทนชุดตรวจใช้เทคนิค Real-time PCR ซึ่งมีราคาสูงและต้องพึ่งพาน้ำยาจากต่างประเทศ ชุดตรวจใหม่นี้ใช้เทคนิคที่ชื่อว่า “ชุดตรวจโรคโควิด-19 ด้วยเทคนิคแลมป์เปลี่ยนสีในขั้นตอนเดียว” COXY-AMP ซึ่งสามารถลดระยะเวลาและลดราคาการตรวจลงได้ ผลงานนี้ได้ร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในการผลิตชุดตรวจ โดย รองศาสตราจารย์ ดร.พรสวรรค์ เหลืองวุฒิวงษ์ และคณะทำงาน ได้ทำหน้าที่ในการตรวจสอบความถูกต้อง (Method Validation) โดยใช้ตัวอย่างจริง ชุดตรวจที่ได้พัฒนาขึ้นได้รับอนุสิทธิบัตรและได้รับเลือกเป็นชุดตรวจเดียวของประเทศในเอเชียที่ผ่านเข้ารอบการประกวดระดับโลก งานตรวจวินิจฉัยจึงเป็นเรื่องที่ท่านให้ความสนใจ ประกอบกับมหาวิทยาลัยมหิดลได้สนับสนุนในการทำนวัตกรรมมากขึ้น ขณะนี้ ยังมีอีกผลงานที่ดำเนินการทำอยู่ ได้แก่ การผลิตชุดตรวจไข้เลือดออกชนิดซีโรไทป์ 4 (Dengue Serotype 4) โดยใช้วิธี Realtime RT-PCR  ซึ่งผลการวิจัยออกมาค่อนข้างดี ในอนาคตอาจจะมีการขยายชุดตรวจสำหรับโรคติดเชื้อที่มียุงเป็นพาหะ เช่น ไวรัสซิกา และชิคุนกุนยา เพื่อให้เกิดนวัตกรรมที่สามารถใช้ได้จริงในราคาที่เหมาะสม และอาจเป็นแหล่งรายได้สู่มหาวิทยาลัย และประเทศหากสามารถจำหน่ายให้ประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาเดียวกันได้

รองศาสตราจารย์ ดร.พรสวรรค์ เหลืองวุฒิวงษ์ กล่าวถึงบทบาทในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสของคณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ว่า ทีมงานและห้องปฏิบัติการฯ ได้รับความเชื่อถือจากสถาบันชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) มหาวิทยาลัยศิลปากร รวมทั้ง ภาคเอกชนที่นำผลงาน ผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมต่าง ๆ มารับการตรวจสอบคุณสมบัติในฆ่าเชื้อที่ห้องปฏิบัติการของคณะฯ และในช่วงโควิด-19 มีการทดสอบสารฆ่าเชื้อ ชุด PPE และสมุนไพรที่นำมาใช้ป้องกันการติดโรค และสารทำความสะอาดพื้นผิว เพื่อนำผลการวิเคราะห์จากห้องปฏิบัติการนำไปใช้ในการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการวิเคราะห์ให้ อาทิ น้ำยาซักผ้า น้ำยาฉีดพ่นฆ่าเชื้อ และน้ำยาล้างห้องน้ำ เป็นต้น

รองศาสตราจารย์ ดร.พรสวรรค์ เหลืองวุฒิวงษ์ ได้กล่าวถึงการเรียนการสอนด้านวิทยาศาสตร์ว่า ในยุคที่นักศึกษาสามารถเข้าถึงความรู้จาก AI ได้อย่างง่ายดาย อยากให้มองในมุมใหม่ว่า ปัจจุบันนี้ ครูไม่ได้เป็นเพียงผู้สอนแล้ว แต่บทบาทของครูได้เปลี่ยนไป แต่เป็น ผู้ให้แนวทาง” หรือ “ผู้ช่วย” ที่เปิดโลกในชีวิตจริงให้กับนักศึกษา การถ่ายทอดประสบการณ์จากครูสู่ศิษย์นั้นเป็นสิ่งความสำคัญอย่างยิ่งในการชี้แนะและช่วยนักศึกษาลดระยะเวลาในการลองผิดลองถูก เพราะข้อมูลจาก AI บางครั้งอาจไม่ถูกต้อง 100% การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน เช่น การใช้ AI เพื่อสร้างสไลด์ที่น่าสนใจ การใช้ Google Classroom หรือใช้แบบสอบถาม ต่างๆ รวมถึงการตั้งคำถามในห้องเรียน เช่น Kahoot ก็จะทำให้การเรียนการสอนน่าสนใจมากขึ้น อย่างไรก็ตามสิ่งที่อาจารย์ยังคงมีความจำเป็นและ AI ไม่สามารถทดแทนได้ คือ ด้านจริยธรรม การใช้ชีวิตจริงในสังคม และการปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ ผู้สอนต้องสอดแทรกเรื่องการอ้างอิงข้อมูล การขออนุญาตในการวิจัยในคนและสัตว์ และเรื่องความปลอดภัยทางชีวภาพ ซึ่งเป็นทักษะที่ต้องอาศัยประสบการณ์จริง การใช้ชีวิต และการเข้าสังคม นอกจากนี้ การทำงานวิจัยในห้องปฏิบัติการ ไม่สามารถใช้ AI ได้เช่นกัน อาจช่วยได้แค่การวิเคราะห์ผล แต่การลงมือทำการทดลอง (Hands-on) ซึ่งนักศึกษาต้องทำการปฏิบัติจริง เพื่อให้ได้ผลการทดลองที่ถูกต้อง ต้องอาศัยประสบการณ์จากผู้สอนและผู้มีประสบการณ์ในห้องปฏิบัติการ แม้ว่า AI อาจเข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ผลให้เร็วและแม่นยำขึ้นได้ โดยสรุปแล้ว ครูยังคงต้องเป็นผู้ให้ความรู้ ประสบการณ์ และคำแนะนำควบคู่ไปกับการที่นักศึกษาใช้ AI ไปด้วย

รองศาสตราจารย์ ดร.พรสวรรค์ เหลืองวุฒิวงษ์ ได้กล่าวถึง การทำงานด้านบริหารและการสอนนักศึกษาไปพร้อม ๆ กัน โดยเน้นย้ำถึงหลักการสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1. การบริหารเวลา ต้องแบ่งเวลาและเข้าใจว่าสิ่งใดควรให้ความสำคัญก่อนหลัง บางอย่างถ้าต้องการการตัดสินใจจากเรา เพื่อให้งานเดินไปข้างหน้าได้ เราก็ต้องให้เวลา และรีบจัดการก่อน เพื่อให้ทีมหรือนักศึกษาได้ไปปฏิบัติงานต่อ 2. ทีมงาน การทำงานทุกวันนี้จะไม่สำเร็จเลยหากปราศจากทีมที่ดี ทั้งคณาจารย์ในภาควิชาที่ช่วยสนับสนุน ทีมงานในห้องปฏิบัติการอ้างอิงด้านโรคเขตร้อน และทีมงานด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosafety) ซึ่งทุกงานต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมใจ ในการทำงานให้ลุล่วงไปด้วยกัน 3. ใจ ในฐานะผู้นำ ต้องทำให้ทีมงานให้รู้สึกมั่นใจในการทำงานกับเรา มั่นใจว่าผู้นำไม่ได้หายไปไหน และสามารถให้คำแนะนำและตอบสนองต่อปัญหาอย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องมี “ใจ” ในการทำงาน โดยเฉพาะในช่วงที่ทีมงานต้องทำงานหนัก ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ถ้าน้อง ๆ ในทีมยังอยู่ เราก็ต้องอยู่ ต้องพร้อมที่จะกลับบ้านค่ำมืดไปด้วยกัน หรือในสมัยที่เป็นหัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยาและอิมมิวโนโลยี เมื่อหลายปีก่อนที่ระบบไฟฉุกเฉินยังไม่ดีพอ และเกิดปัญหาไฟดับที่ภาควิชาฯ ในช่วงเวลาตี 3 แต่เนื่องจากสิ่งส่งตรวจและเชื้อต่าง ๆ ในตู้อาจเกิดความเสียหาย ก็ต้องมาดูหน้างาน เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นให้ได้รวดเร็วที่สุด ซึ่งการเป็นผู้นำนั้นต้องมีเวลา มีใจ คิดว่าความสุขส่วนตัวอาจถูกเบียดบังไปบ้าง เพื่อทุ่มเทให้งานทุกส่วนออกมาดี ให้ทีมงานรู้สึกว่ามีผู้นำอยู่ด้วยไม่ทอดทิ้งพวกเขา และพร้อมที่จะทำงานไปด้วยกันอย่างเต็มที่ ซึ่งจะนำไปสู่เป้าหมายและผลลัพธ์ที่ดีต่อองค์กร

ขอขอบคุณสภาคณาจารย์มหาวิทยาลัยมหิดล และผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างยิ่ง ที่ได้มอบรางวัลอันทรงเกียรตินี้ ในการทำงานไม่ได้หวังผลตอบแทน อยากทำทุกอย่างที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด และขอบคุณที่ได้มองเห็นความตั้งใจนี้ ซึ่งจะเป็นกำลังใจให้แก่อาจารย์รุ่นน้องและนักวิจัยรุ่นใหม่ว่า หากมีความตั้งใจในสิ่งที่ทำจริง ๆ สักวันจะมีคนมองเห็น ที่สำคัญที่สุด รางวัลที่ได้รับนี้ ไม่ใช่รางวัลส่วนตัว แต่เป็น “รางวัลกลุ่ม” ซึ่งต้องอาศัยการสนับสนุนจากผู้บริหาร และทีมงาน ขอบคุณทีมงานทุกคนในห้องปฏิบัติการไวรัสวิทยา ห้องปฏิบัติการอ้างอิงด้านโรคเขตร้อน และงานมาตรฐานการวิจัยและบริหารความปลอดภัยทางชีวภาพที่ได้ช่วยกันอย่างเต็มที่มาคอยช่วยเหลือและสนับสนุนมาโดยตลอด แม้ว่างานจะหนักเพียงใด

About Author