Write It Right? ศัพท์วิทย์สะกิดใจ คอลัมน์ประจำ

ทุ่งน้ำหลากกับหลากคำศัพท์

เรื่องโดย กองบรรณาธิการ


ทุ่งน้ำหลาก หรือ ที่ราบน้ำท่วมถึง คือ พื้นที่ราบลุ่มที่มีน้ำไหลหลากไปท่วมขังอยู่ช่วงระยะหนึ่งเป็นประจำทุกปีเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก ภาษาอังกฤษคือ floodplain เป็นคำที่บัญญัติอยู่ในพจนานุกรมหลายสำนัก เช่น Oxford, Cambridge, Merriam-Webster แต่ในเอกสารหลายฉบับโดยเฉพาะในเอกสารเก่า อาจพบว่ามีการเขียน flood plain แบบเว้นวรรค Collins บรรจุไว้ทั้งสองคำ โดยระบุว่าแบบเว้นวรรคเป็นการเขียนแบบอเมริกัน ส่วนแบบติดกันเป็นแบบอังกฤษ ในพจนานุกรมศัพท์บัญญัติของสำนักงานราชบัณฑิตยสภาเองก็เขียนแบบเว้นวรรคเช่นกัน ว่า flood plain คือ ที่ราบน้ำท่วมถึง อย่างไรก็ตามการเขียนแบบติดกันมักพบได้บ่อยกว่า

บางคนอาจสงสัยว่าน้ำหลากกับน้ำท่วมกับมันเหมือนกันไหม ตามพจนานุกรมศัพท์บัญญัติสาขาภูมิศาสตร์ของสำนักงานราชบัณฑิตยสภา คำว่า น้ำหลาก ตรงกับศัพท์คำว่า spate, freshet โดยคำว่า หลาก มีความหมายว่า อาการที่น้ำไหลแรงและแผ่เป็นบริเวณกว้างผิดปกติ ส่วนคำว่า น้ำท่วม ตรงกับ flood โดย ท่วมมีความหมายว่า ไหลหลาก บ่า หรือเอ่อท้นจนลบพื้นที่หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ทางอุทกวิทยา คำว่าน้ำท่วมจะมีความหมายไปในเชิงภัยธรรมชาติที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่พื้นที่ปกติที่ไม่ควรจะมีน้ำเข้าไปท่วม

ขณะที่ลักษณะของทุ่งน้ำหลากนั้น มีน้ำท่วมขังเหมือนกัน แต่น้ำที่ไหลหลากมาท่วมขังแต่ละปีนั้นให้ผลเชิงบวกกับพื้นที่เสียมากกว่า จึงมีแนวคิดทางนิเวศวิทยาที่เรียกว่า ชีพจรน้ำท่วม หรือ flood pulse เกิดขึ้น แนวคิดนี้มองการขึ้นลงของน้ำในแม่น้ำและทุ่งน้ำหลากตามฤดูกาลว่าเป็นจังหวะธรรมชาติ ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ เป็นกระบวนการที่ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนสารอาหารและคงความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศ

อีกหนึ่งคำที่น่าสนใจคือ ภูมินาม (toponym) หมายถึงชื่อสถานที่ที่ตั้งตามลักษณะภูมิประเทศหรือธรรมชาติที่เกิดขึ้นตามท้องถิ่นนั้น ทุ่งน้ำหลากเองก็เป็นหนึ่งในปรากฏการณ์ที่ก่อให้เกิดลักษณะทางกายภาพเฉพาะตัวของพื้นที่หลายแห่ง จนผู้คนตั้งชื่อสถานที่เหล่านั้นตามสภาพที่ปรากฏ เช่น ทุ่ง… (ที่ราบโล่งใช้เพาะปลูก) หนอง… (แหล่งน้ำขังในทุ่ง) บาง… (ทางน้ำเล็ก ๆ หรือพื้นที่ติดน้ำ) บึง… (แหล่งน้ำขนาดใหญ่) ชื่อเหล่านี้จึงเป็นเสมือนบันทึกเรื่องราวของธรรมชาติที่เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตผู้คนในพื้นที่

About Author