สำนักข่าวไทยนำเสนอข่าวเศรษฐกิจ
16 พ.ค. 2556 – ต้นแก่นตะวัน พืชเศรษฐกิจอนาคตไกลที่ไม่มีปัญหาด้านการตลาด เพราะมีการจัดการอย่างเป็นระบบและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีจนผลิตไม่ทันกับความต้องการ

แก่นตะวันเป็นพืชล้มลุกอายุประมาณ 120 วัน เป็นพืชท้องถิ่นของสหรัฐและแคนาดา โดยเป็นพืชอาหารที่ชาวอินเดียนแดงคุ้นเคยมานาน เริ่มมีผู้นำเข้ามาทดลองปลูกในไทยเมื่อ 15 ปี แล้ว ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์คือหัวที่อยู่ใต้ดิน เป็นที่ฮือฮากันในหมู่ผู้รักสุขภาพมาก เมื่อมีผลงานวิจัยหัวแก่นตะวันที่ปลูกในประเทศไทยอุดมไปด้วยอินนูลีนที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร  และมักเพิ่มเป็นส่วนผสมในอาหารเด็กอ่อนป้องกันท้องอืดเฟ้อได้ดี

แก่นตะวันมีน้ำตาลฟรุกโตสที่ต่อกันเป็นโมเลกุลสายยาว ทำให้เมื่อทานเข้าไปแล้วจะทำให้คงความอิ่มอยู่ได้นาน ใยอาหารสูงและให้พลังงานต่ำ อีกคุณสมบัติสุดยอดคือ ลดความดันโลหิต  ลดคอเลสเตอรอล ลดน้ำตาลในเลือด และป้องกันการเกิดโรคมะเร็งในลำใส้
ส่วนการผลิต นางสุนี ชมชื่น ประธานสหกรณ์ผู้ปลูกพืชผักผลไม้สระบุรี อาศัยประสบการณ์จากการเคยทำงานเป็นพยาบาล ตีโจทย์คุณสมบัติแก่นตะวันที่เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ  จึงดูแลตั้งแต่กระบวนการปลูกที่จะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับสารเคมีทั้งยาฆ่าหญ้า ปุ๋ย และยาฆ่าแมลง เพราะพืชกินหัวที่จะเป็นแหล่งสะสมสารเคมีและสารพิษตกค้าง และแม้การไม่ใช้ปุ๋ยเคมี  จะทำให้ผลผลิตได้ไม่มากเท่าการใช้เคมี  แต่ถือเป็นจุดแข็ง เป็นที่เชื่อถือของผู้บริโภค จนผลิตไม่ทันกับความต้องการ ราคารับซื้อจากสมาชิกราคา 30 บาท/กิโลกรัม และขายส่งที่สหกรณ์ กิโลกรัมละ 100 บาท หากไปหาซื้อตามห้าง ราคาจะสูงไปถึงกิโลกรัมละ 180-200 บาท

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและภาพข่าวได้ที่เว็บไซต์ สำนักข่าวไทย อสมท. -
http://www.mcot.net/site/content?id=51941986150ba0e9790002b1#.UZQ9N8phsa8– ( 301 Views)