“เราได้ของดี ไม่ปล่อยแล้ว เสน่ห์ของ KUML เมล็ดโต เก็บง่าย ทำให้ดินสมบูรณ์ ไม่ต้องพึ่งเคมี” ถนัด ขันติวงษ์ รองประธานกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวชุมชนอำเภอเมืองจันทร์ ต.เมืองจันทร์ อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ เล่าถึงถั่วเขียว KUML#8 ที่เขาและสมาชิกกลุ่มฯ ได้นำมาปลูกเป็นพืชหลังนา


ไม่ต่างจากพื้นที่ทำนาแห่งอื่น พันธุ์ถั่วเขียวที่เกษตรกรในอำเภอเมืองจันทร์ปลูกสืบกันมามีขนาดเมล็ดเล็ก เก็บเกี่ยวยาก ให้ผลผลิตน้อยและราคาต่ำ จึงทำให้เกษตรกรหันไปปลูกพืชหลังนาชนิดอื่น จนเมื่อช่วงปี พ.ศ. 2565 เกษตรอำเภอเมืองจันทร์ได้นำถั่วเขียวเข้ามาส่งเสริมในพื้นที่อีกครั้ง แต่เป็นพันธุ์ KUML ซึ่ง ถนัด เป็นหนึ่งในเกษตรกรที่ได้รับเมล็ดพันธุ์ 5 กิโลกรัม สำหรับปลูกในพื้นที่ 1 ไร่ ด้วยเหตุผลที่ต้องการลด ละ เลิกการใช้สารเคมี
“อยากออกจากการใช้สารเคมีอยู่แล้ว เพราะแพ้เคมี ใช้แล้วปวดตัว ไม่มีแรง และปีนั้นราคาปุ๋ยเคมีแพงด้วย จึงตัดสินใจลองปลูกถั่วเขียวอีกครั้งเพื่อบำรุงดิน”
ถนัด ลงมือปลูกถั่วเขียวก่อนทำนารอบใหม่ แต่ไม่ทันได้เก็บผลผลิต เขาต้องไถกลบต้นถั่วไปก่อนด้วยฝนที่มาเร็วกว่าทุกปี แต่ต้นข้าวที่ปลูกหลังจากนั้นกลับสร้างความฉงนให้เขา
“ปีนั้นฝนมาเร็ว ถั่วกำลังเริ่มสุกก็ต้องไถกลบ พอหว่านข้าวแล้ว ข้าวโตงามผิดปกติ ลองไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ฉีดยา ผลผลิตข้าวออกมาดีอยู่ ที่สำคัญไม่มีต้นทุนเคมี ปีต่อมาอยากลองอีก ไปยืมเมล็ดพันธุ์ KUML จากร้านศิริบูรณ์[1] 5 กิโลกรัม แล้วก็เก็บเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวไว้ด้วย ส่วนข้าวปีนั้นโตงาม เมล็ดโต อ้วน กลิ่นหอม ต่างจากเคมี ประทับใจมาก”
จากที่เคยต้องใช้ปุ๋ยเคมี 1 กระสอบ/ไร่ ได้ผลผลิตข้าว 12-13 กระสอบ/ไร่ แต่หลังจากปลูกถั่วเขียว KUML ถนัด ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีและได้ผลผลิตข้าว 20 กระสอบ/ไร่ ทำให้เขาพบทางออกจากสารเคมีและยังรู้วิธีบำรุงดิน
“เคยเอาดินในนาไปตรวจพบว่าธาตุไนโตรเจนน้อย พอมาอบรมเรื่องถั่วเขียว ทำให้ได้ความรู้และเข้าใจมากขึ้น การปลูกถั่วเขียวและใช้ไรโซเบียมช่วยเพิ่มธาตุไนโตรเจนให้ดินเราได้”
[1] สวทช. เชื่อมโยงห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิริบูรณ์จงเจริญไพศาล เป็นตลาดรับซื้อผลผลิตถั่วเขียว KUML ในจังหวัดศรีสะเกษ


ถนัด ยังได้เข้าร่วมอบรมการผลิตถั่วเขียว KUML กับ สวทช. พร้อมๆ กับเกษตรกรจากตำบลโกน ตำบลหนองใหญ่ ตำบลเมืองจันทร์ และเกิดการรวมกลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวชุมชนอำเภอเมืองจันทร์ มีสมาชิก 40 คน มี นิยม สุขจันทร์ เป็นประธานกลุ่มฯ โดยในปี พ.ศ. 2566 กลุ่มฯ ได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว KUML#4 จำนวน 100 กิโลกรัม ปลูกในพื้นที่ 20 ไร่ กลุ่มฯ ใช้กลไกการยืม-คืนเมล็ดพันธุ์บริหารจัดการ ยืม 10 กิโลกรัม คืน 15 กิโลกรัม และผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวได้ประมาณ 700 กิโลกรัม ขายเมล็ดพันธุ์ราคา 40 บาท/กิโลกรัม และในปี พ.ศ. 2567 กลุ่มฯ ได้รับการอบรมหลักสูตร “เทคโนโลยีการเก็บเกี่ยวและการผลิตเมล็ดพันธุ์ระดับชุมชน: ถั่วเขียวพันธุ์ KUML” จาก สวทช. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกรมส่งเสริมการเกษตร และได้รับสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว KUML#8 จำนวน 200 กิโลกรัม ปลูกในพื้นที่ 40 ไร่ เพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพ โดยกลุ่มฯ ได้รับการยกระดับเป็น “ศูนย์ผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว KUML ระดับชุมชน” ของ สวทช. ปัจจุบันกลุ่มฯ จำหน่ายเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว KUML ที่เก็บเกี่ยวด้วยมือได้ราคากิโลกรัมละ 60 บาท
“เราเคยใช้ KUML#4 และได้มาลองปลูก KUML#8 ก็ชอบมากกว่า ฝักยาว เมล็ดใหญ่ อายุเก็บเกี่ยวสั้น ลำต้นสีม่วง ขณะที่ KUML#4 ก้านสีขาว ทำให้คัดพันธุ์ปนง่าย” นิยม บอกถึงจุดเด่นของ KUML#8 และเป็นพันธุ์ที่สมาชิกกลุ่มฯ เห็นพ้องที่จะผลิตเป็นหลัก ขณะที่ ถนัด เสริมว่า การคัดพันธุ์ปนสำคัญ ทำได้ตั้งแต่ต้นเริ่มโต แล้วการเก็บมือ ฝักและเมล็ดไม่เสียหาย ถ้าคัดแยกเบอร์ 4 และ 8 ได้ดี ราคาขายก็สูงขึ้นด้วย


นิยม เล่าว่า การรวมกลุ่มทำให้ช่วยเหลือกัน ดูแลกัน การมีกรรมการกลุ่มฯ ไปสุ่มตรวจแปลงเพื่อให้สมาชิกได้ประเมินการปลูกของตัวเองและพัฒนาให้ดีขึ้น สมาชิกให้ความร่วมมือและทำได้ดี
“ได้เพิ่มทักษะความรู้จาก สวทช. และอาจารย์หลายอย่าง แต่ก่อนเราหว่าน แต่เดี๋ยวนี้ใช้วิธีหยอด ทำให้ดูแลง่าย ทั้งตัดพันธุ์ปนและจัดการหนอน แล้วการทำเมล็ดพันธุ์ เราเก็บมือ เก็บมาแล้วต้องตากแดดให้แห้งไม่เกิน 3 แดดจัด จัดเก็บในถุง 2 ชั้น วางบนไม้พาเลท เราทำเมล็ดพันธุ์ข้าวกันอยู่แล้ว ก็ใช้แนวทางเดียวกัน”
ด้วยเป็นกลุ่มแปลงใหญ่ข้าวบ้านไผ่ หมู่ 7 ทำให้มีเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ ถนัด และ นิยม นำมาประยุกต์ใช้จัดการหลังเก็บเกี่ยวถั่วเขียวได้ ดังเช่น เครื่องร่อนคัดแยกเมล็ด หรือเครื่องคัดแยกที่ดัดแปลงจากเครื่องสีข้าวกล้อง นำมาเป่าเปลือกถั่วเขียวออกได้ถึง 60-70%
การหวนกลับมาปลูกถั่วเขียวเป็นพืชหลังนาอีกครั้งของ ถนัด และ นิยม ทั้งคู่ต่างวาดหวังให้ถั่วเขียว KUML ขยายพื้นที่ปลูกให้ทั่วอำเภอ ทั้งเป็นรายได้เสริมหลังนาและที่สำคัญบำรุงดินสำหรับนาข้าว ซึ่งเป็นพืชหลักของชาวบ้าน
“เราทำแล้วเห็นผล ชอบและเป็นแฟนตัวยง ก็อยากให้เกษตรกรได้ใช้เหมือนเรา ถั่วเขียวช่วยบำรุงดินให้สมบูรณ์ ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ทำให้ประหยัดต้นทุน มีกำไรเพิ่มขึ้น และยังมีรายได้เสริมจากการเมล็ดและเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวด้วย”
# # #
กลุ่มผู้ผลิตเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียวชุมชนอำเภอเมืองจันทร์
ต.เมืองจันทร์ อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ
โทรศัพท์ 06 5312 6291
(ข้อมูลสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 14 และ 21 มีนาคม 2568)