จากที่เคยเลี้ยงโคแม่พันธุ์ เพื่อผลิตลูกวัวส่งขายให้ สุรสิงห์ฟาร์ม นำไปขุนต่อ มาวันนี้ ภุมรินทร์ สมานมิตร-สุนันทา สังข์ทอง สองสามีภรรยา เจ้าของ FP Samanmit Farm อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พัฒนาการเลี้ยงโคเนื้อและขยับบทบาทการเลี้ยงโคเนื้อตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ และยังคงเป็น “ฐานเรียนรู้การผลิตอาหารโคคุณภาพ”[1] ให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อจากทั่วประเทศมาศึกษาดูงาน อีกทั้ง ภุมรินทร์ ยังเป็นนวัตกรที่ถ่ายทอดความรู้ด้านอาหารโคขุน การเลี้ยงโคขุน และการผสมเทียมโคเนื้อในพื้นที่ด้วย
[1] ได้รับการสนับสนุนความรู้เทคโนโลยีการผลิตอาหารโค ภายใต้โครงการ “การผลิตอาหารโคเพื่อความยั่งยืนด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม” เมื่อปี พ.ศ. 2562 เป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) สวทช. และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)


“เราเป็นสมาชิกสหกรณ์แม็กบีฟ[2]อยู่แล้ว พอจบโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำของ ธ.ก.ส. เราก็รับซื้อจากสมาชิกกลุ่มโคเนื้อทาจิมะมาขุนต่อส่งให้สหกรณ์ฯ แปรรูป”
เกือบ 11 ปีที่ทั้งคู่ใช้ชีวิตกับการเลี้ยงโคเนื้อ จากเป็นอาชีพเสริมหนุนงานประจำกลายเป็นอาชีพหลักในปัจจุบัน พร้อมๆ กับสั่งสมความรู้และประสบการณ์การเลี้ยงโคเนื้อ
“ในระยองทำสวนทุเรียนสวนยางพาราเป็นหลัก เลี้ยงโคเป็นอาชีพเสริม แต่สำหรับเราเป็นอาชีพหลัก ตอนนี้มีโค 120 ตัว เป็นโคขุน 40-50 ตัว ที่เหลือเป็นโคแม่พันธุ์และโครุ่น ครึ่งหนึ่งเป็นสายพันธุ์วากิว ที่เหลือเป็นชาร์โรเล่ส์และแองกัส นอกจากขุนโคส่งให้สหกรณ์ฯ แปรรูป เรามีรายได้อื่นจากฟาร์ม เช่น รับผสมเทียม รักษาสุขภาพสัตว์ ขายอาหารหยาบอาหารข้นให้เกษตรกรรายย่อย หรือแม้แต่ขายขี้วัวให้คนทำสวนผลไม้”
เมื่อเลี้ยงโคเนื้อทั้งแม่พันธุ์และโคขุน ภุมรินทร์ ต้องเปลี่ยนสูตรอาหารให้เหมาะกับโคในแต่ละช่วงวัย โดยเฉพาะโคขุนที่เขามุ่งเป้าผลิตเป็นเนื้อโคขุนคุณภาพเกรดไขมันแทรก (premium)
“โคแม่พันธุ์เน้นโปรตีนและพลังงาน โคขุนเน้นไขมัน โปรตีน แร่ธาตุ และต้องให้อาหารตรงเวลา เช้า 8 โมงและบ่ายสามโมง เพราะมีผลต่อการย่อยของจุลินทรีย์ในกระเพาะ เราประยุกต์จากอาหาร TMR เราไม่ได้ผสมอาหารหยาบและอาหารข้นเข้าด้วยกัน เพราะมีกลิ่นเหม็นหืน โคไม่กิน เราจะนำอาหารหยาบ เช่น หญ้า ฟาง กากมัน เปลือกมัน มาผสมกันแล้ววางอาหารข้นไว้ด้านบน โคกินดีกว่า โคจะกินอาหารข้นก่อนแล้วตามด้วยอาหารหยาบ วิธีนี้ทำให้เราควบคุมอาหารได้และรู้สภาพร่างกายโค ตัวที่กินอาหารข้นเต็มที่แล้ว จะเขี่ยอาหารข้นออกและกินแต่อาหารหยาบ แสดงว่าโคเต็มแล้ว คือ พร้อมไปแปรสภาพเป็นเนื้อคุณภาพที่มีไขมันแทรกในเนื้อ”
[2] สหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อ จำกัด หรือ แม็กบีฟ (MAX Beef)


สำหรับวัตถุดิบอาหารข้น ภุมรินทร์ ใช้จากในพื้นที่ เช่น กากปาล์มเนื้อใน กากข้าวโพดหมักยีสต์อบแห้ง แป้งเหง้าสับปะรด ส่วนกากเบียร์ กากถั่วเหลือง ผิวถั่วเหลือง ต้องซื้อจากที่อื่น ส่วนอาหารหยาบ เขาใช้วัตถุดิบในพื้นที่ทั้งหมด เช่น ขี้เค้กปาล์ม หญ้าเนเปียร์ เปลือกข้าวโพดหวาน เปลือกสับปะรด
“อาหารหยาบขึ้นอยู่กับฤดูกาล หลักๆ ที่มีจะเป็นเปลือกมันล้าง หญ้าเนเปียร์ ซึ่งเรารู้ว่าโปรตีนเท่าไหร่ อย่างเปลือกข้าวโพดหวานมีตามฤดูกาลก็จะผสมพอประมาณ ขี้เค้กโปรตีนสูง ก็จะลดหญ้าและฟางลง ตอนนี้เราทำสูตรไว้ 4 สูตร ถ้าวัตถุดิบไหนไม่มี ต้องเอาอะไรมาแทนในปริมาณเท่าไหร่ เราทำข้อมูลไว้”
ภุมรินทร์ และ สุนันทา เริ่มผสมอาหารเองได้ 4 ปีแล้ว อาศัยความรู้และประสบการณ์จากการเลี้ยงมา 7 ปี พัฒนาสูตรอาหารพร้อมๆ กับวิเคราะห์คุณภาพเนื้อเพื่อปรับสูตรอาหารให้เหมาะสม
“ต้นทุนการเลี้ยงโคขุนอยู่ที่อาหาร 50% การทำอาหารเองช่วยคุมต้นทุนได้ 30%[3] จากวัตถุดิบที่เราเลือก และหลังจากที่เริ่มส่งเนื้อขุน เราเห็นหน้าเนื้อว่าเป็นอย่างไร โคอ้วนมาก แต่เนื้อไม่ได้คุณภาพ ให้อาหารขนาดนี้แต่ทำไมเกรดไม่ได้ เราจึงส่งตัวอย่างเนื้อไปตรวจที่ห้องแล็บ เพื่อดูว่ามีคุณค่าโภชนะตัวไหนมากน้อยไปมั้ย ยิ่งบางวัตถุดิบเป็นตามฤดูกาล ก็ต้องปรับสูตร”
คุณภาพการเลี้ยงโคขุนที่ดีประกอบด้วย อาหาร สภาพแวดล้อม และการจัดการฟาร์ม ซึ่งการเลี้ยงโคขุนคุณภาพเกรดไขมันแทรก (premium) ก็อยู่ภายใต้เงื่อนไขนี้เช่นกัน
“การเลี้ยงโคขุนเกรดไขมันแทรก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอาหารอย่างเดียว การเพิ่มปริมาณไขมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งพันธุกรรม อากาศ อาหาร อากาศร้อน โคไม่กินหรือกินน้อย นอนเยอะ เนื้อโคขุนที่เราส่งให้สหกรณ์ฯ เฉลี่ยแล้วจะได้เกรด 3-4 ราคาประมาณ 80,000-90,000 บาท/ตัว”


เมื่อก้าวเดินบนเส้นทางอาชีพการเลี้ยงโคขุนมากว่า 10 ปี จำนวนโคเนื้อที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บวกกับความต้องการตลาดบริโภคเนื้อโคขุนเกรดไขมันแทรกที่มีต่อเนื่อง ภุมรินทร์ และ สุนันทา เตรียมขยับขยายฟาร์มไปที่ตั้งแห่งใหม่บนพื้นที่ 50 ไร่ กั้นคอกสำหรับเลี้ยงโคเนื้อประมาณ 10 ไร่ และตั้งเป้าที่จะเลี้ยงโคขุน 1,000 ตัว นอกจากนี้ ภุมรินทร์ ยังเป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรบ้านค่าย จำกัด และเป็นแกนนำขับเคลื่อนการเลี้ยงโคแม่พันธุ์และขุนโคตามแผนงานส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อของสหกรณ์ฯ ด้วย
“ความต้องการโคขุนเกรดไขมันแทรกในประเทศอยู่ที่ประมาณ 50,000 ตัว แต่ยังทำได้ที่ 10,000-15,000 ตัว ก็เป็นโอกาสของเราที่จะค่อยๆ ขยายไป หลายๆ ฟาร์มกำลังตื่นตัวเลี้ยงโคขุน เราไม่ได้มองเป็นคู่แข่ง แต่เรามองเป็นมิตร เป็นเครือข่ายกันเพื่อช่วยเหลือกัน” ภุมรินทร์ กล่าวทิ้งท้าย
[3] จากข้อมูลผลกระทบเชิงเศรษฐกิจของ สท. เกษตรกรกลุ่มโคเนื้อทาจิมะนำวัตถุดิบผลพลอยได้ทางการเกษตรเป็นส่วนผสมผลิตอาหาร TMR ช่วยลดต้นทุนค่าอาหารเลี้ยงโคเนื้อ 10 บาท/ตัว/วัน จากเดิมค่าใช้จ่ายด้านอาหารโค 80 บาท/ตัว/วัน และมีรายได้เพิ่มจากการขุนโคเนื้อคุณภาพเมื่อนำเข้าเชือดจากนั้นจะตัดเกรดไขมันแทรกในเนื้อโคทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 5,000 บาท/ตัว
# # #
FP Samanmit Farm
186/7 หมู่ที่ 8 ต.หนองบัว อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
โทรศัพท์ 09 0962 7228, 08 6848 5596
(ข้อมูลสัมภาษณ์เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568)