1. ผู้สมัครขอรับทุนในระดับปริญญาโท ต้องมีผลการเรียนระดับปริญญาตรี ไม่น้อยกว่า 2.75
ผู้สมัครขอรับทุนในระดับปริญญาเอก ต้องมีผลการเรียนระดับปริญญาโท ไม่น้อยกว่า 3.50
(กรณีผู้สมัครมีผลการเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด แต่มีผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ หรือจดอนุสิทธิบัตร สิทธิบัตร
มาก่อน และได้รับการรับรองจากอาจารย์ที่ปรึกษา ว่ามีคุณสมบัติพร้อมที่จะศึกษาต่อได้ ผู้สมัครสามารถยื่นข้อเสนอโครงการเพื่อเข้ารับการพิจารณาขอรับทุนได้)
2. นักศึกษาจะต้องมีความสนใจในโครงงานวิจัยระดับัณฑิตศึกษาร่วมกับภาคอุตสาหกรรม โดยจะต้องมีหัวข้อเรื่องโครงงานหรืองานวิจัย
ที่ผ่านความเห็นชอบจากภาคอุตสาหกรรม และมีหนังสือรับรองจากภาคอุตสาหกรรมมาพร้อมกับใบสมัคร
3. ผู้รับทุนควรจะผ่านการสอบคัดเลือกให้เข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาแล้ว โดยจะต้องเรียนรายวิชาต่างๆ
ตามหลักสูตรของมหาวิทยาลัย และสามารถเดินทางมาทำวิจัยร่วมกับภาคอุตสาหกรรม ได้ตามความเหมาะสมของงานวิจัย
(สามารถสมัครในระหว่างรอผลการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อได้ แต่หากนักศึกษาไม่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัย
นักศึกษาจะไม่มีสิทธิ์ได้รับทุน ทั้งนี้อาจารย์ที่ปรึกษาจะต้องหานักศึกษาคนใหม่ที่มีคุณสมบัติตรงหลักเกณฑ์ที่โครงการกำหนดไว้มารับทุนแทน
ภายใน 1 ภาคการศึกษา)
4.หากผู้รัทุนกำลังศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา ต้องศึกษามาแล้วไม่เกิน 2 ภาคการศึกษา อยู่ระหว่างการเริ่มทำงานวิจัย หรือหลังสอบ
หัวข้อวิทยานิพนธ์ ที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัยดังกล่าวไม่เกิน 30 วัน โดยนักศึกษาจะต้องศึกษาในรายวิชาที่เกี่ยวข้องและสนับสนุนการทำข้อหัววิจัย
(วิทยานิพนธ์) โดยให้อาจารย์หัวหน้าโครงการเป็นผู้แนะนำและระบุในใบสมัคร
5. นักศึกษาไม่ควรมีข้อผูกมัดจากทุนประเภทอื่น และต้องไม่ได้รับทุนการศึกษาซ้ำซ้อน ในหมวดค่าเล่าเรียน และ ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
รายเดือนจากทุนอื่น (ให้รับเพิ่มเติมได้เฉพาะทุนที่สนับสนุนเงินทุนวิจัย และต้องแจ้งให้ทางโครงการฯ ทราก่อนรับทุนนั้น)
6. ต้องศึกษาและทำวิจัยเพื่อวิทยานิพนธ์ที่ได้รับทุนเต็มเวลาจนสำเร็จการศึกษาใระดับที่ได้รับทุน ในกรณีเป็นข้าราชการ
หรือ ผู้ทำงานมีเงินเดือนประจำ ต้องลาศึกษาต่อ หรือมีหนังสือรับรองจากต้นสังกัดให้สามารถให้ศึกษาต่อได้ไม่น้อย 3 วันทำการ
โดยต้องส่งรายงานความก้าวหน้าศึกษาวิจัยให้โครงการทุน 6 เดือน ตลอดระยะเวลาที่ศึกษาในหลักสูตรจนสำเร็จการศึกษา
|