การพัฒนาพันธุ์ข้าว

ข้าวเป็นพืชเศรษฐกิจหลักและเป็นอาหารสำคัญของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน มีบทบาทพื้นฐานต่อความมั่นคงทางอาหารและเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญสำหรับเกษตรกรจำนวนมาก การพัฒนาพันธุ์ข้าวและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก พร้อมทั้งรับมือกับความท้าทายที่หลากหลาย เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืช และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยเฉพาะศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ได้เข้ามามีบทบาทนำในการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาภาคเกษตร โดยเน้นการวิจัยเชิงลึกด้านพันธุวิศวกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ และการปรับปรุงพันธุ์ เพื่อให้ได้ข้าวที่มีคุณสมบัติโดดเด่น ตอบสนองความต้องการของเกษตรกร ผู้บริโภค และอุตสาหกรรมในภาพรวม และเพื่อให้เห็นถึงวิวัฒนาการและความก้าวหน้าของงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (2563, 16 พฤศจิกายน). ไบโอเทค สวทช. สร้างความเข้มแข็งชุมชนโดยถ่ายทอดข้าวเหนียว “พันธุ์หอมนาคา” สู่เกษตรกรโดยให้สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวเองตามเกณฑ์มาตรฐาน. https://www.nstda.or.th/home/news_post/hom-naka/

พ.ศ. 2553

ใน พ.ศ. 2553 หน่วยปฏิบัติการค้นหาและใช้ประโยชน์ยีนข้าว ซึ่งเป็นหน่วยวิจัยร่วมระหว่างไบโอเทค สวทช. และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่น ประเภทกลุ่ม จากผลงาน “เทคโนโลยีการเพิ่มกลิ่นหอม (2-acetyl-pyrroline) เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับปรุงพันธุ์ข้าวหอมและข้าวเหนียว” โครงการนี้มีเป้าหมายในการพัฒนาพันธุ์ข้าวหอมและข้าวเหนียวที่มีกลิ่นหอมและคุณสมบัติเด่นอื่นๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าและขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดข้าว

จุดเด่นของเทคโนโลยีที่ใช้ในโครงการนี้คือ การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเครื่องหมายดีเอ็นเอ (DNA marker) ซึ่งช่วยให้นักวิจัยสามารถคัดเลือกพันธุ์ข้าวที่หอมและต้านทานโรค-แมลงศัตรูพืช รวมถึงสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ภาวะน้ำท่วมฉับพลัน ได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว นอกจากนี้ คณะวิจัยยังได้ค้นพบยีนควบคุมความหอมหลักของข้าวขาวดอกมะลิโดยใช้วิธี map-based cloning (ซึ่งไม่ใช่การดัดแปลงพันธุกรรม หรือ GMO) ทำให้เข้าใจกระบวนการสะสมสาร 2-acetyl-1-pyrroline (2-AP) ซึ่งเป็นสารหอมหลักในข้าวทุกสายพันธุ์ การค้นพบนี้ได้นำไปสู่การพัฒนา functional marker (Aromarker) ที่สามารถถ่ายทอดลักษณะความหอมของข้าวหอมมะลิไปสู่พันธุ์ข้าวอื่นที่มีผลผลิตสูงแต่ไม่มีกลิ่นหอม

ผลจากการวิจัยและพัฒนาในโครงการนี้คือการปรับปรุงพันธุ์ข้าวหอมและข้าวเหนียวรวม 8 สายพันธุ์ ซึ่งทั้งหมดอยู่ระหว่างการยื่นจดสิทธิบัตร พันธุ์ข้าวที่ได้รับการพัฒนาและเป็นที่นิยมในการนำไปปลูกจริงจากเกษตรกร ได้แก่ ข้าวหอมชลสิทธิ์ ซึ่งทนน้ำท่วมฉับพลัน ข้าวปิ่นเกษตร ข้าวสินเหล็ก และข้าวเหนียวหอม กข 6 ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรส่วนใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ เช่น จังหวัดชัยภูมิ อุดรธานี สกลนคร แพร่ และน่าน ได้ใช้ในการเพาะปลูกประมาณ 80% ของพื้นที่ ข้าวหอมเหล่านี้ยังให้ผลผลิตมากกว่า 1 ตันต่อไร่ในนาชลประทาน ซึ่งสูงกว่าการปลูกโดยข้าวพันธุ์เดิมกว่า 50% การค้นพบยีนที่ควบคุมการสร้างสารหอม 2-AP ในระดับสูงยังได้รับการรับรองสิทธิบัตรในต่างประเทศแล้ว

การดำเนินงานในโครงการนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนผ่านจากการปรับปรุงพันธุ์ข้าวแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้เวลานานและอาศัยการสังเกตลักษณะภายนอกเป็นหลัก ไปสู่การประยุกต์ใช้เครื่องมือทางชีวโมเลกุลที่แม่นยำและรวดเร็วกว่า การที่ รศ.ดร.อภิชาติ วรรณวิจิตร หัวหน้าคณะวิจัย ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีชีวภาพในการปรับปรุงพันธุ์พืชในฐานะการลงทุนในขั้นแรกที่นำไปสู่การขยายผลเชิงพาณิชย์ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการสร้างรากฐานทางวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาข้าวไทยในอนาคต

พ.ศ. 2554

ยุทธศาสตร์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวในช่วง พ.ศ. 2554-2559 จัดทำขึ้นโดย สวทช. ภายใต้แผนกลยุทธ์การวิจัยและพัฒนา สวทช. ระยะที่ 2 (Strategic Planning Alliance II: SPAII) เป้าหมายหลักของยุทธศาสตร์นี้คือ การใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเกษตรกรไทยและการแข่งขันของอุตสาหกรรมข้าวของประเทศตลอดห่วงโซ่การผลิต รวมถึงการส่งเสริมการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

กรอบยุทธศาสตร์นี้ประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์หลักที่ครอบคลุมมิติที่หลากหลายของการพัฒนาอุตสาหกรรมข้าว ดังนี้

  1. การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงพันธุ์ข้าวและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาพันธุ์ข้าวที่สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (เช่น น้ำท่วม แล้ง ดินเค็ม) และการระบาดของโรคและแมลงศัตรูข้าวได้ดีขึ้น รวมถึงพันธุ์ข้าวและเทคโนโลยีการผลิตที่ใช้ทรัพยากร (น้ำ ปุ๋ย) อย่างมีประสิทธิภาพ และพันธุ์ข้าวลูกผสมที่ให้ผลผลิตต่อพื้นที่มากกว่า 1 ตันต่อไร่ แนวทางการดำเนินงานครอบคลุมการประเมินเชื้อพันธุกรรม การศึกษาหน้าที่ยีนและการพัฒนาเครื่องหมายโมเลกุล การปรับปรุงพันธุ์โดยใช้เครื่องหมายโมเลกุลร่วมกับวิธีมาตรฐาน การวิจัยพัฒนาข้าวลูกผสม การพัฒนาเครื่องจักรกลการเกษตร (เช่น เครื่องเพาะกล้าอัตโนมัติ เครื่องกะเทาะเปลือก) การประยุกต์ใช้ Precision farming การพัฒนาบุคลากร และระบบเตือนภัย ผลลัพธ์ที่คาดการณ์ไว้คือ หากนำพันธุ์ข้าวที่ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ทนน้ำท่วม และทนแล้งไปปลูกทดแทนพันธุ์ข้าวไม่ต้านทานในพื้นที่เสี่ยงเพียง 10% ของพื้นที่เสียหาย จะเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 11,100 ล้านบาท
  2. การปรับปรุงประสิทธิภาพโรงสีข้าว มุ่งเป้าไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพการสีข้าวของโรงสี เช่น ปริมาณข้าวสารเต็มเมล็ด และประสิทธิภาพการใช้พลังงาน แนวทางประกอบด้วยการสร้างผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมให้คำปรึกษา การจัดฝึกอบรมบุคลากรของโรงสีข้าว และการสนับสนุนการปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงสีข้าวขนาดกลางและขนาดเล็ก คาดการณ์ว่าหากปรับปรุงประสิทธิภาพโรงสีข้าวเพิ่มอีก 100 แห่ง จะเกิดผลกระทบมูลค่าประมาณ 540 ล้านบาทต่อปี โดยแต่ละโรงสีจะมีกำไรเพิ่มขึ้น 5.4 ล้านบาทต่อปี
  3. การพัฒนาเทคโนโลยีการแปรรูปและผลิตภัณฑ์จากข้าว มีเป้าหมายเพื่อสร้างความหลากหลายและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ข้าว แนวทางการดำเนินงานรวมถึงการจัดทำฐานข้อมูลคุณสมบัติทางเคมีและกายภาพของข้าวพันธุ์ต่างๆ การพัฒนาเทคโนโลยีการปรับเปลี่ยนคุณสมบัติแป้งข้าวเพื่อประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเคมี การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป และการใช้ประโยชน์จากผลพลอยได้จากการแปรรูปขั้นต้น เช่น ไขรำข้าว
  4. การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ด้านนวัตกรรมบริการที่มีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดต้นทุนการผลิต การเก็บเกี่ยว และการขนส่ง แนวทางประกอบด้วยการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศสำหรับเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงข้อมูลด้านการเพิ่มผลผลิต ชลประทาน การคาดการณ์ภัยธรรมชาติ ราคาตลาด และสินเชื่อ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบชุมชนในรูปแบบสหกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรองและลดต้นทุนโลจิสติกส์ และการพัฒนาระบบควบคุม ติดตาม และสอบกลับ (Traceability) อัตโนมัติโดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เช่น RFID
  5. การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการกีดกันทางการค้า มีเป้าหมายเพื่อสร้างข้อมูลวิทยาศาสตร์สนับสนุนการส่งออกและลดการกีดกันทางการค้า การจัดทำฐานข้อมูล LCI (Life Cycle Inventory Database) สำหรับข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าว และการประเมินค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์และวอเตอร์ฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์จากข้าว แนวทางประกอบด้วยการประเมินค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์/วอเตอร์ฟุตพริ้นท์/LCIA การสร้างผู้เชี่ยวชาญ และการสนับสนุนภาคเอกชนในการจัดทำและลดค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์จากข้าว

ยุทธศาสตร์นี้ ได้รับการพิจารณาและเห็นชอบในหลักการจากการประชุมคณะกรรมการบริหารคลัสเตอร์เกษตรและอาหาร และคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (กวทช.) ใน พ.ศ. 2553 และ 2554 ตามลำดับ การวางแผนเชิงกลยุทธ์นี้ไม่ได้มองแค่การปรับปรุงพันธุ์ข้าวในไร่นา แต่เป็นการมองภาพรวมของ “อุตสาหกรรมข้าว” ทั้งห่วงโซ่มูลค่า ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปจนถึงปลายน้ำ และคำนึงถึงปัจจัยภายนอกอย่างสิ่งแวดล้อมและการค้าอย่างครบวงจร ซึ่งเป็นการวางรากฐานที่สำคัญสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว และสอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) ที่จะปรากฏชัดเจนขึ้นในอนาคต

พ.ศ. 2555

การพัฒนาพันธุ์ข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวเสริมธาตุเหล็ก เนื่องจากภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็กเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว หญิงวัยเจริญพันธุ์ และหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต เพื่อแก้ไขปัญหานี้ หน่วยปฏิบัติการค้นหาและใช้ประโยชน์ยีนข้าว ซึ่งเป็นหน่วยวิจัยร่วมระหว่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์และไบโอเทค สวทช. ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ ในการปรับปรุงพันธุ์ข้าวเจ้าสีขาวและสีม่วงเข้มให้มีธาตุเหล็กสูง นอกจากนี้ ไบโอเทค สวทช. ยังได้สนับสนุนนักวิจัยจากสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมธาตุเหล็กสูง 2 รูปแบบ

ในการพัฒนาพันธุ์ข้าว ได้มีการปรับปรุงพันธุ์ข้าวเจ้าสีขาวและสีม่วงเข้มสายพันธุ์ใหม่ที่มีธาตุเหล็กสูง โดยข้าวเจ้าสีขาวพันธุ์ใหม่มีธาตุเหล็กสูงถึง 2.08 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม และข้าวเจ้าสีม่วงเข้มมีธาตุเหล็กสูงถึง 3.05 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม นอกจากนี้ ยังมีการผลิตข้าวเจ้าหอมนิลที่มีปริมาณไฟเทตต่ำโดยวิธีการกลายพันธุ์ เนื่องจากไฟเทตเป็นสารที่ยับยั้งการดูดซึมธาตุเหล็กในกระเพาะอาหาร การลดปริมาณไฟเทตจึงช่วยเพิ่มประโยชน์ของธาตุเหล็กในข้าว

สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวเสริมธาตุเหล็ก ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นมี 2 รูปแบบ ได้แก่ เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และขนมขบเคี้ยวชนิดสุกพอง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ใช้แป้งข้าวทดแทนแป้งสาลีบางส่วนและเสริมธาตุเหล็กในปริมาณมากกว่า 20% ของปริมาณที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน (RDI) แป้งข้าวที่ใช้ผลิตมาจากข้าวกล้องพันธุ์สุพรรณบุรี 90 (มีธาตุเหล็ก 1.24 มก. ต่อ 100 กรัม) ข้าวกล้องพันธุ์หอมนิล 313 (2.04 มก. ต่อ 100 กรัม) และพันธุ์หอมนิล 1000 (2.22 มก ต่อ 100 กรัม)

จากการทดสอบผลิตภัณฑ์ เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเสริมธาตุเหล็กใช้แป้งข้าวจากการโม่แห้งและบดละเอียดทดแทนแป้งสาลีประมาณ 30% และเสริมธาตุเหล็กเฟอร์รัสซัลเฟตในปริมาณประมาณ 32% RDI โดยมีธาตุเหล็กในผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปประมาณ 28-29% RDI ขนมขบเคี้ยวสุกพองผลิตด้วยเครื่องเอกซ์ทรูดเดอร์ชนิดสกรูคู่ และเสริมธาตุเหล็กชนิดเฟอร์รัสซัลเฟตไม่น้อยกว่า 20% RDI โดยมีต้นทุนต่อหน่วยบรรจุ (30 กรัม) ประมาณ 3.88 บาท ผลิตภัณฑ์อาหารธาตุเหล็กสูงจากข้าวเหล่านี้ได้รับการวิเคราะห์คุณค่าอาหารในรูปแบบฉลากโภชนาการ และสามารถเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องในถุงเมทัลไลซ์ขนาด 50 มิลลิกรัมได้นาน 4 เดือน โดยไม่มีกลิ่นหืนหรือกลิ่นแปลกปลอมจากเหล็ก และปริมาณธาตุเหล็กไม่เปลี่ยนแปลง

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกประยุกต์ใช้เพื่อตอบสนองผู้บริโภคในกลุ่มวัยเรียนอายุ 6-14 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการขาดธาตุเหล็กและภาวะโลหิตจาง. การวิจัยนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเพิ่มผลผลิตหรือคุณสมบัติทางกายภาพของข้าว แต่ขยายไปสู่มิติของคุณค่าทางโภชนาการและสุขภาพ ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อสร้าง “ข้าวฟังก์ชัน” และ “อาหารฟังก์ชัน” ที่ตอบสนองความต้องการด้านสาธารณสุขของประเทศ การดำเนินการนี้แสดงให้เห็นถึงบทบาทของ สวทช. และไบโอเทคในการใช้ วทน. เพื่อสร้างผลกระทบทางสังคม นอกเหนือจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยการนำข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักมาเป็นพาหะในการแก้ปัญหาสุขภาพพื้นฐานของประชากร ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าของข้าวในมิติที่สำคัญยิ่งขึ้น

พ.ศ. 2559

โครงการการปรับปรุงพันธุ์ข้าวด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นโครงการที่หน่วยปฏิบัติการวิจัยค้นหาและใช้ประโยชน์ยีนข้าว ซึ่งเป็นหน่วยวิจัยร่วมระหว่าง ไบโอเทค สวทช. และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ดำเนินงานวิจัยปรับปรุงพันธุ์ข้าวโดยใช้เทคนิคเครื่องหมายโมเลกุล (Marker Assisted Selection หรือ MAS) เพื่อพัฒนาคุณภาพเมล็ดและความสามารถในการทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น น้ำท่วม ดินเค็ม ทนแล้ง รวมถึงการต้านทานต่อโรคและแมลง รวมทั้งมีความร่วมมือกับกรมการข้าวในการปลูกทดสอบสายพันธุ์ข้าวที่ได้ปรับปรุงพันธุ์แล้วในสถานีวิจัยของศูนย์วิจัยข้าวต่างๆ ของกรมการข้าว และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

  • พันธุ์ข้าวหอมชลสิทธิ์ทนน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวเจ้าพื้นนุ่ม ไม่ไวต่อช่วงแสง ที่ผลผลิตสูงซึ่งเผยแพร่ให้เกษตรกรในภาคใต้ โดยเฉพาะ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งสร้างความมั่นคงด้านอาหาร
  • ข้าวเหนียวหอมนาคา พันธุ์ข้าวเหนียวใหม่สำหรับนาปีและนาปรัง มีคุณสมบัติพิเศษเหนือข้าวเหนียวชนิดไม่ไวต่อช่วงแสง เช่น ทนต่อน้ำท่วม ทนแล้ง ต้านทานโรคไหม้และขอบใบแห้ง มีความหอมและนิ่ม มีระยะเวลาในการปลูกประมาณ 130–140 วัน ให้ผลผลิตสูง พื้นที่ภาคเหนือมีผลผลิต 800–900 กิโลกรัม และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีผลผลิต 700–800 กิโลกรัมต่อไร่ สำหรับข้าวเหนียวหอมนาคานี้ ไบโอเทค ได้ยื่นขอหนังสือรับรองพันธุ์พืชขึ้นทะเบียน ตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 และได้รับการขึ้นทะเบียนพันธุ์จากกรมวิชาการเกษตรเรียบร้อยแล้ว ลักษณะเด่นของพันธุ์ข้าวเหนียวหอมนาคา คือ ลำต้นเตี้ย แข็งแรง ไม่หักล้มง่าย
  • ข้าวเหนียวพันธุ์ธัญสิริน เป็นข้าวพันธุ์แรกที่ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยนำเทคโนโลยีชีวภาพมาปรับปรุงพันธุ์ข้าวเหนียว กข6 โดยพัฒนาเครื่องหมายพันธุกรรมที่ควบคุมลักษณะสำคัญ คือ ความสามารถต้านทานโรคไหม้ ลักษณะเด่นคือ ลำต้นแข็งแรงทนการหักล้ม ให้ผลผลิตอยู่ที่ 800 กิโลกรัมต่อไร่ ลดเปอร์เซ็นต์ข้าวหัก โดยพื้นที่ปลูกที่เป็นออร์แกนิกส์ สามารถให้ผลผลิตได้ถึง 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ โดยทดลองปลูกในนาข้าวของเกษตรกร 5 จังหวัด ได้แก่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดน่าน เชียงราย ลำปาง ชัยภูมิ และสกลนคร โดยปลูกแทนข้าวเหนียวพันธุ์ กข6 เดิม ในช่วงเวลา 3 ปี พบว่าสามารถลดความเสียหายในนาข้าวได้ถึง 30% ในการทดลองปลูกพบว่า การปลูกแบบปักดำ ข้าวแตกกอได้เยอะ รวงใหญ่ ลำต้นใหญ่ ไม่ล้ม หากจะขยายพันธุ์ต่อควรใช้วิธีปักดำ ซึ่งพันธุ์ธัญสิรินต้นแข็งแรง รวงข้าวตั้ง ใบตั้ง ผลผลิตอยู่ที่ 700 กิโลกรัมต่อไร่ ธัญสิรินต้นไม่ล้ม ต้นสูงเสมอ ไม่เจอปัญหาเรื่องโรค เมล็ดธัญสิรินอ้วนกลมหน่อยๆ จับเมล็ดถี่ หนึ่งรวงมี 348 เมล็ด แตกกอได้ 8-28 ต้น และเมื่อเอาไปนึ่งกิน ปล่อยให้เย็น ก็ยังนุ่ม พันธุ์ข้าวนี้พัฒนาโดยหน่วยปฏิบัติการค้นหาและใช้ประโยชน์ยีนข้าว ไบโอเทค สวทช. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับ สำนักวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา โดยพัฒนาสายพันธุ์ข้าวเหนียวต้านทานโรคไหม้ ใช้เครื่องหมายโมเลกุลคัดเลือกร่วมกับการปรับปรุงพันธุ์แบบวิธีมาตรฐาน จนได้ข้าวเหนียวที่มีคุณภาพใกล้เคียงกับพันธุ์ กข6 แต่มีความต้านทานโรคไหม้ ให้ผลผลิต 500–800 กิโลกรัมต่อไร่ (ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ปลูก)

จากความสำเร็จนี้ ไบโอเทค ได้ดำเนินการถ่ายทอดความรู้การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี โดยให้ความรู้ทั้งในด้านการปลูก การดูแลรักษา การตรวจคัดพันธุ์ปน แก่เกษตรกรในพื้นที่ภาคต่างๆ โดยการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในประเทศ ในการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์และถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์ให้ชุมชนและเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ เพื่อเพิ่มผลผลิตและยกระดับความเป็นอยู่ จึงเป็นการขยายฐานในการต่อยอดสร้างประโยชน์ เพิ่มมูลค่า นำไปสู่การพัฒนา และเติบโตของชุมชนอย่างยั่งยืน

พ.ศ. 2563

เมื่อวันที่ 16–17 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ไบโอเทคได้นำพันธุ์ข้าว 6 สายพันธุ์เข้าร่วมจัดแสดงในงาน “การประกวดข้าวเพื่อรองรับและส่งเสริมการส่งออกของตลาดข้าวโลก ประจำปี 2563” ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมการข้าว วัตถุประสงค์หลักของงานคือ การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับข้าว ประชาสัมพันธ์การพัฒนาพันธุ์ข้าวเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการส่งออกข้าวสู่ตลาดโลก และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และความคิดเห็นระหว่างนักวิชาการ นักวิจัย เกษตรกร และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันพัฒนาพันธุ์ข้าวให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางการตลาดข้าวไทย ไบโอเทคมีบทบาทสำคัญในการนำเสนอพันธุ์ข้าวที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์โดยใช้เครื่องหมายโมเลกุลในการคัดเลือก

พันธุ์ข้าว 6 สายพันธุ์ที่ไบโอเทคนำมาจัดแสดงและมีคุณสมบัติเด่น ดังนี้

  • ข้าวเจ้าพันธุ์หอมจินดา
    มีลักษณะเด่นคือ เมล็ดหุงสุกนุ่ม ต้านทานโรคขอบใบแห้ง ลำต้นแข็งแรงไม่หักล้มง่าย ต้นสูงปานกลาง และให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย 838 กิโลกรัมต่อไร่
  • ข้าวเหนียวพันธุ์ กข18
    มีลักษณะเด่นคือ ต้านทานโรคไหม้ในระยะกล้า เหมาะสำหรับพื้นที่นาน้ำฝนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือตอนบนที่มีการระบาดของโรคไหม้ ให้ผลผลิตประมาณ 500-800 กิโลกรัมต่อไร่
  • ข้าวเหนียวพันธุ์ธัญสิริน
    มีลักษณะเด่นคือ ทนทานต่อการหักล้ม เหมาะสำหรับปลูกในพื้นที่นาน้ำฝนในเขตภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคไหม้ ให้ผลผลิตเฉลี่ย 600 กิโลกรัมต่อไร่
  • ข้าวเหนียวพันธุ์น่าน 59
    มีลักษณะเด่นคือ ต้านทานโรคไหม้แบบกว้างกับเชื้อทุกกลุ่มในประเทศไทย, ข้าวเหนียวนุ่ม หอม เย็นแล้วไม่แข็ง ได้ผลผลิตประมาณ 600-700 กิโลกรัมต่อไร่
  • ข้าวเหนียวพันธุ์ กข6 ต้นเตี้ย (TS2)
    มีลักษณะเด่นคือ ต้านทานโรคไหม้ ต้านทานโรคขอบใบแห้ง ลำต้นแข็งแรงไม่หักล้มง่าย ต้นสูงปานกลาง มีผลผลิตข้าวแห้งเฉลี่ย 700-800 กิโลกรัมต่อไร่
  • ข้าวเหนียวพันธุ์หอมนาคา
    มีลักษณะเด่นคือ ทนน้ำท่วมฉับพลัน ต้านทานโรคไหม้ ต้านทานโรคขอบใบแห้ง ลำต้นแข็งแรงไม่หักล้มง่าย ต้นสูงปานกลาง ให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย 930 กิโลกรัมต่อไร่

การที่ไบโอเทคนำพันธุ์ข้าวที่มีคุณสมบัติเฉพาะทางเหล่านี้เข้าร่วมงานประกวดระดับโลก แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดต่างประเทศที่ซับซ้อนขึ้น ไม่ใช่แค่ปริมาณ แต่ยังรวมถึงคุณภาพและคุณสมบัติที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง การดำเนินการนี้เป็นการตอกย้ำว่างานวิจัยพันธุ์ข้าวของไทยไม่ได้มองแค่ความต้องการภายในประเทศ แต่กำลังปรับตัวเพื่อแข่งขันในตลาดโลกที่เผชิญกับความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมข้าวที่ได้กล่าวถึงก่อนหน้านี้ และเป็นภาพสะท้อนของการเตรียมพร้อมสำหรับ “พันธุ์ข้าวรับโลกรวน” ในอนาคต

พ.ศ. 2564

ใน พ.ศ. 2564 สวทช. ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับ “จีโนมข้าว” โดยระบุว่าเป็น “ตัวเร่งการพัฒนาพันธุ์ข้าวไทย” จีโนมข้าวคือชุดข้อมูลพันธุกรรมที่สมบูรณ์ของข้าว ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการทำความเข้าใจกลไกทางชีวภาพต่างๆ ของข้าวในระดับโมเลกุล การเข้าถึงข้อมูลจีโนมข้าวช่วยให้นักวิจัยสามารถระบุยีนที่ควบคุมลักษณะสำคัญทางเศรษฐกิจได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วขึ้น เช่น ยีนที่เกี่ยวข้องกับผลผลิต ความต้านทานโรค หรือความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม ทำให้กระบวนการปรับปรุงพันธุ์มีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น

ในปีเดียวกันนั้น “ข้าวหอมสยาม” ซึ่งเป็นข้าวเจ้าหอมพื้นนุ่มพันธุ์ใหม่ ได้รับการพัฒนาโดยทีมนักวิจัยจากไบโอเทค สวทช. ร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน และหน่วยงานพันธมิตร การพัฒนาพันธุ์นี้ใช้เวลากว่า 10 ปี โดยใช้วิธีการปรับปรุงพันธุ์แบบผสมกลับร่วมกับเทคโนโลยีเครื่องหมาย DNA สายพันธุ์แม่ที่ใช้คือ “RGD03068-2-9-1-B (RGD03068)” ซึ่งเป็นข้าวเจ้าหอมนุ่มที่มีลักษณะทนแล้ง ส่วนสายพันธุ์พ่อคือ “แก้วเกษตร” ซึ่งมีคุณสมบัติต้านทานต่อโรคไหม้และทรงกอตั้ง เป้าหมายของการพัฒนาข้าวหอมสยามคือการตอบโจทย์ทั้งเกษตรกร (ให้ผลผลิตสูงและสู้โรค) โรงสี (คุณภาพดี) ผู้บริโภค (หอมและนุ่ม) และมีศักยภาพในการส่งออกตลาดต่างประเทศ

ข้าวหอมสยามมีคุณลักษณะเด่นหลายประการ ดังนี้

  • ต้นเตี้ยและลำต้นแข็งแรง
    มีความสูงประมาณ 120 เซนติเมตร ซึ่งเตี้ยกว่าข้าวขาวดอกมะลิ 105 ที่สูงประมาณ 150 เซนติเมตร การที่ต้นเตี้ยและลำต้นแข็งแรงช่วยให้ทนทานต่อการหักล้ม ลดความเสียหายต่อผลผลิต และเก็บเกี่ยวง่ายด้วยเครื่องจักร ซึ่งสอดรับกับการทำนาสมัยใหม่
  • ต้านทานโรค
    มีความต้านทานต่อโรคใบไหม้และโรคไหม้คอรวงได้ดี เมื่อเทียบกับข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และพันธุ์ กข15 ที่อ่อนแอต่อโรคไหม้ คุณสมบัตินี้ช่วยลดการใช้สารเคมีในการป้องกันกำจัดโรค   
  • ผลผลิตสูง
    ให้ผลผลิตสูงกว่าข้าวขาวดอกมะลิ 105 ประมาณ 2 เท่า โดยจากการปลูกทดสอบในแปลงเกษตรกรในจังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ และศรีสะเกษ ใน พ.ศ. 2563 ได้ผลผลิตเฉลี่ยประมาณ 530 กิโลกรัมต่อไร่ (ความชื้น 14%) ซึ่งสูงกว่าข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ที่ปลูกในแปลงเดียวกันถึง 2.1 เท่า ปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นมาจากการแตกกอที่ดีและมีจำนวนเมล็ดต่อรวงมากกว่า
  • การปรับตัว
    มีระบบรากลึก ทำให้สามารถปรับตัวได้ดีในสภาพน้ำน้อย (ทนแล้ง) และไวต่อช่วงแสง จึงเหมาะสมสำหรับพื้นที่ปลูกข้าวอาศัยน้ำฝนซึ่งมักประสบปัญหาน้ำแล้ง 
  • คุณภาพการหุงต้ม
    เมื่อหุงสุกแล้ว ข้าวสวยมีความหอม นุ่ม อร่อยเทียบเคียงข้าวหอมมะลิ

ข้าวหอมสยามถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งเกษตรกร (ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต) โรงสีและผู้ค้าข้าว (คุณภาพดีเป็นที่ต้องการ) และผู้บริโภค (ข้าวหอมนุ่มอร่อย) ไบโอเทคได้ดำเนินการขึ้นทะเบียนพันธุ์พืชตามพระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 กับกรมวิชาการเกษตรเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังมีการทำงานร่วมกับเครือข่ายเกษตรกรของบริษัทบางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จำกัด ในการนำพันธุ์ข้าวไปปลูกทดสอบในแปลงเกษตรกรในหลายจังหวัดตั้งแต่ พ.ศ. 2563 และขยายผลใน พ.ศ. 2564

พ.ศ. 2566

ผลงาน “พันธุ์ข้าวรับโลกรวน” ถูกจัดแสดงในงานเกษตรแฟร์กำแพงแสน พ.ศ. 2566 ระหว่างวันที่ 1-11 ธันวาคม พ.ศ. 2566 การพัฒนาพันธุ์ข้าวเหล่านี้เป็นผลงานการวิจัยและพัฒนาของศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และทีมวิจัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีชีวภาพพืชและการเกษตรแม่นยำ ไบโอเทค ซึ่งมีความร่วมมือกันมานานกว่า 20 ปี

ที่มาของการพัฒนาพันธุ์ข้าวเหล่านี้เกิดจากความจำเป็นในการรับมือกับสภาวะโลกรวน (climate change) ที่ส่งผลให้สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เกิดปัญหาด้านการเกษตร เช่น น้ำท่วม ภัยแล้ง โรคและแมลงศัตรูพืช ซึ่งกระทบต่อผลผลิตข้าวอย่างรุนแรง จุดเด่นโดยรวมของพันธุ์ข้าวเหล่านี้คือถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมปัจจุบันได้ดีขึ้น โดยมีคุณสมบัติเด่นในการต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีปัญหา (น้ำท่วมและภัยแล้ง) ให้ผลผลิตสูง มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดี และสามารถเพิ่มมูลค่าเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ได้ครบวงจรมากขึ้น

สายพันธุ์เด่นที่จัดแสดงในงานเกษตรแฟร์กำแพงแสน พ.ศ. 2566 ประกอบด้วย

  • กลุ่มข้าวเจ้า
    • ข้าวหอมสยาม
      เป็นข้าวนาปี มีจุดเด่นที่ทนแล้ง ต้านทานต่อโรคไหม้ และมีกลิ่นหอม
    • ข้าวหอมสยาม 2
      เป็นข้าวนาปี เป็นไฮไลท์สำคัญ มีคุณสมบัติเหมือนข้าวหอมมะลิ แต่ให้ผลผลิตสูงกว่า มีกลิ่นหอม ทนต่อน้ำท่วมฉับพลัน และต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในระดับปานกลาง
    • ข้าวหอมมาลัยแมน
      เป็นข้าวนาปรัง มีจุดเด่นที่หอมนุ่ม ไม่ไวต่อช่วงแสง เมล็ดเรียวยาวพิเศษ และให้ผลผลิตดีในการปลูกแบบเกษตรอินทรีย์
    • ข้าวหอมจินดา
      เป็นข้าวนาปรัง มีจุดเด่นที่ต้านทานโรคขอบใบแห้ง ลำต้นแข็งแรงไม่หักล้มง่าย ต้นสูงปานกลาง และให้ผลผลิตสูง
    • ข้าวหอมนาเล
      เป็นข้าวนาปรัง มีจุดเด่นที่พื้นนุ่ม ไม่ไวต่อช่วงแสง ทนน้ำท่วมฉับพลัน ต้านทานโรคขอบใบแห้ง และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
  • กลุ่มข้าวเหนียว
    • ข้าวเหนียวพันธุ์น่าน 59
      เป็นข้าวเหนียวไวแสง มีจุดเด่นที่มีกลิ่นหอม ต้นเตี้ย ทนการหกล้ม ต้านทานโรคไหม้และโรคขอบใบแห้ง
    • ข้าวเหนียวพันธุ์หอมนาคา
      เป็นข้าวเหนียวไม่ไวแสง มีจุดเด่นที่ลำต้นแข็งแรง มีกลิ่นหอม และนุ่มเหนียวเมื่อหุงสุก สามารถปลูกได้ตลอดปี

ผลงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวเหล่านี้พร้อมเผยแพร่เพื่อการใช้ประโยชน์ทั้งในเชิงสาธารณะและเชิงพาณิชย์ เกษตรกรสามารถนำพันธุ์ข้าวเหล่านี้ไปปลูกเพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป ลดความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติและศัตรูพืช และเพิ่มผลผลิตข้าว

นอกจากนี้ ทีมวิจัยยังคงเดินหน้าพัฒนาพันธุ์ข้าวเพื่อรับมือภาวะโลกรวนอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนงานวิจัยในอนาคตที่สำคัญคือการร่วมมือกับศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในการลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่เหมาะสม ลดและจัดการไนโตรเจนจากการทำนา เพื่อให้เกิดศักยภาพในการลดก๊าซเรือนกระจก และร่วมขับเคลื่อนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ การวิจัยนี้ไม่ได้หยุดแค่การปรับตัวของข้าวให้รอดจากสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้น แต่ยังก้าวไปสู่การเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมระดับโลกด้วยการพัฒนา “ข้าวคาร์บอนต่ำ” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและแนวคิดการเกษตรที่ยั่งยืน การพัฒนา “พันธุ์ข้าวรับโลกรวน” และ “ข้าวคาร์บอนต่ำ” ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางอาหารและรายได้เกษตรกรในระยะสั้น แต่ยังสร้างโอกาสในการแข่งขันในตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งเป็นการผสานรวมมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกันอย่างแท้จริง

พ.ศ. 2567

การประชุมนานาชาติ ICRF2024 (3rd International Conference on Rice for the Future) จัดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ณ โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ การประชุมนี้จัดโดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับไบโอเทค สวทช. และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) รวมถึงเครือข่าย Hub of Rice

วัตถุประสงค์ของการประชุมคือเพื่อเผยแพร่งานวิจัยด้านข้าวในทุกมิติ การจัดการข้าวในอนาคต และเน้นย้ำบทบาทสำคัญของข้าวในการเลี้ยงดูประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางความท้าทายจากสภาพแวดล้อมและภาคอุตสาหกรรม หัวข้อการประชุมครอบคลุมการพัฒนาพันธุกรรมข้าว การปรับปรุงพันธุ์ข้าวที่ทนต่อภาวะโลกรวนและความเครียดทางชีวภาพ การแปรรูปและพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าวเพื่อสุขภาพ การใช้ประโยชน์จากข้าวเพื่อการแพทย์ ตลอดจนเทคโนโลยีการเกษตรที่เกี่ยวข้องกับข้าว เพื่อจะช่วยให้เห็นภาพและแนวทางในการสร้างพันธุ์ข้าวที่ทนต่อสภาพอากาศและมีโภชนาการสูงขึ้นสำหรับเกษตรกรและผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

พ.ศ. 2568

ใน พ.ศ. 2568 มีการดำเนินงานที่สำคัญ 2 ส่วนที่แสดงให้เห็นถึงการต่อยอดนวัตกรรมข้าวไทย

1. “FoodSERP” เพิ่มมูลค่าข้าวไทยด้วยเทคโนโลยีการหมักแบบแม่นยำ โดยโครงการ “FoodSERP” เป็นความร่วมมือระหว่างแพลตฟอร์มบริการผลิตอาหารและส่วนผสมฟังก์ชัน (FoodSERP) ของ สวทช. และสมาคมการค้าคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย (TCOS: Thai Cosmetic Cluster) โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางไทย โดยอาศัยการวิจัยและเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพยากรชีวภาพของประเทศ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิอินทรีย์ของไทย (Rice Biome) การดำเนินการนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์การพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อประเทศไทยที่ยั่งยืน (S&T Implementation for Sustainable Thailand) ของ สวทช. และแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model)

นักวิจัยได้พัฒนากระบวนการผลิตสารประกอบฟังก์ชันจากข้าวผ่านเทคโนโลยีการหมักแบบแม่นยำ ทำให้ได้สารสกัดจากข้าวเครื่องหมายการค้า “ARAMARA” โดยเป็นสารสกัดธรรมชาติที่มีเอกลักษณ์จากข้าวหอมมะลิอินทรีย์และต้นข้าวอ่อนหมัก (Rice ferment filtrate) สารสกัดนี้พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีสีเขียวที่ผนวกเทคโนโลยีการหมักแบบแม่นยำเข้ากับกระบวนการสกัดและกระบวนการปลายน้ำที่ไม่ใช้สารเคมีหรือความร้อน ทำให้มีคุณสมบัติที่ดีและโดดเด่นเหมาะกับการนำไปใช้เป็นส่วนประกอบฟังก์ชันในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง “ARAMARA” ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ สารช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดเลือนริ้วรอย รวมถึงมีฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ก่อโรคผิวหนัง

สารสกัด “ARAMARA” เป็นวัตถุดิบหลักสำหรับนวัตกรรมเวชสำอางต่างๆ ของผู้ประกอบการ เช่น โลชันและเอสเซนส์ ปัจจุบัน บริษัท สยาม เนเชอรัล โปรดักซ์ จำกัด ได้ต่อยอดพัฒนาสารสกัดนี้ไปใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวภายใต้แบรนด์ “ดร.เอจจี้ (Dr. Agei)” เพื่อผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ผลงานที่พัฒนาขึ้นนี้ได้ยื่นจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร ภายใต้ความร่วมมือระหว่างทีมวิจัยจากโรงงานต้นแบบชีวกระบวนการไบโอเทค (BBF) และบริษัท สยาม เนเชอรัล โปรดักซ์ จำกัด โดยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) สวทช. นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ประเภทแผนธุรกิจเพื่อการขยายโอกาสสินค้าข้าวจากกรมการข้าวอีกด้วย

2. นวัตกรรมข้าวไทยสู้โลกร้อน โครงการ “การใช้พหุเทคโนโลยีและนวัตกรรมขับเคลื่อน BCG Model ยกระดับเศรษฐกิจชุมชนฐานการผลิตข้าวรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแบบยั่งยืน”
ไบโอเทค สวทช. ได้ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดพิจิตร และสภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตร ในโครงการ “การใช้พหุเทคโนโลยีและนวัตกรรมขับเคลื่อน BCG Model ยกระดับเศรษฐกิจชุมชนฐานการผลิตข้าวรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแบบยั่งยืน” โครงการนี้มีเป้าหมายหลักในการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการผลิตข้าวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่ 5 อำเภอ ของจังหวัดพิจิตร  นอกจากนี้ยังมุ่งส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกข้าวพันธุ์ใหม่ที่ให้ผลผลิตสูงและทนทานต่อสภาพแวดล้อม เพื่อเพิ่มผลผลิตและรายได้ และเชื่อมโยงตลาดระหว่างเกษตรกรผู้ผลิตข้าวและผู้ประกอบการโรงสีเพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นและผู้ประกอบการได้พันธุ์ข้าวที่ตรงใจ

ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (2568, มีนาคม 21). ไบโอเทค สวทช. ร่วม ธ.ก.ส.พิจิตร และสภาเกษตรจังหวัด นำนวัตกรรมข้าวไทยสู้โลกร้อน ส่งตรงถึงชาวนาพิจิตร พร้อมสร้างห่วงโซ่ความมั่นคง เชื่อมโยงตลาดผู้ปลูกสู่มือโรงสี. https://www.biotec.or.th/home/rice-innovation-roadshow-in-phichit/

เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่นำมาใช้ในโครงการนี้รวมถึงการโรดโชว์ข้อมูลข้าวเจ้า 4 สายพันธุ์ที่เป็นนวัตกรรมพันธุ์ข้าวทางเลือกใหม่ที่รองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) ได้แก่ ข้าวไบโอเทค 1 ข้าวหอมสยาม ข้าวหอมสยาม 2 และข้าวหอมชลสิทธิ์ 2 คุณสมบัติเด่นของพันธุ์ข้าวเหล่านี้คือ ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง (ภัยแล้ง น้ำท่วม อุณหภูมิสูงขึ้น) ต้านทานโรคและแมลงศัตรูพืช และมีคุณภาพการสีและหุงต้มที่ดี นอกจากนี้ยังมีการแนะนำเทคนิคการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี เทคนิคการผลิตข้าวลดคาร์บอน (ข้าวคาร์บอนต่ำ) ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และการใช้แอปพลิเคชันและเทคโนโลยี AI ทางการเกษตร เช่น ไลน์บอทโรคข้าว เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว

การอบรมจัดขึ้นในพื้นที่ 5 อำเภอของจังหวัดพิจิตร และมีแผนขยายผลโครงการไปยังอำเภออื่นๆ ในจังหวัด เช่น อำเภอโพทะเล (เน้นการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไบโอเทค 1) อำเภอทับคล้อ (จัดตั้งศูนย์ข้าวชุมชนบ้านนิคมราษฎร์บำรุง พันธุ์ข้าวหอมสยาม) และอำเภอวชิรบารมี (จัดตั้งศูนย์ข้าวชุมชนหนองโสน พันธุ์ข้าวหอมชลสิทธิ์ 2) มีการหารือกับผู้ประกอบการและโรงสีข้าวในพื้นที่เพื่อสร้างห่วงโซ่ความมั่นคง เชื่อมโยงตลาดระหว่างเกษตรกรผู้ผลิตข้าวและผู้ประกอบการโรงสี ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือการเพิ่มรายได้เกษตรกร ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ยกระดับคุณภาพชีวิต และส่งเสริมการพัฒนาการเกษตรที่ยั่งยืน กรณีศึกษาจากนายนิพนธ์ ชังคะนาค ประธานศูนย์ข้าวชุมชนบ้านนิคม จังหวัดพิจิตร แสดงให้เห็นว่าการทดลองปลูกข้าวหอมสยามให้ผลผลิตสูงกว่าข้าวหอมมะลิถึง 2 เท่า และมีการขยายพื้นที่ปลูกพร้อมวางแผนการตลาดและการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า

การดำเนินงานใน พ.ศ. 2568 แสดงให้เห็นถึงการนำ “BCG Model” (Bio-Circular-Green Economy) มาใช้เป็นกรอบการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมในภาคข้าว โครงการ FoodSERP สะท้อนถึง “Bio-economy” (การใช้ชีวภาพสร้างมูลค่า) และ “Circular Economy” (การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า) ในขณะที่โครงการนวัตกรรมข้าวไทยสู้โลกร้อนเน้น “Green Economy” (การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม) การดำเนินการนี้คือจุดสูงสุดของการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ สวทช. และไบโอเทคในภาคข้าว โดยไม่ได้จำกัดแค่การผลิตอาหาร แต่ขยายไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มในอุตสาหกรรมใหม่ๆ (เวชสำอาง) และการจัดการสิ่งแวดล้อม (ลดคาร์บอน) ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรผ่านการถ่ายทอดเทคโนโลยีและสร้างความมั่นคงในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงการเติบโตแบบองค์รวมที่ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ตารางสรุปพันธุ์ข้าวที่พัฒนาโดย สวทช.

สำหรับตารางสรุปพันธุ์ข้าวที่พัฒนาโดย สวทช. นั้น ประกอบไปด้วย พ.ศ. ที่ประชาสัมพันธ์ ชื่อพันธุ์ข้าว หน่วยงานที่ร่วมพัฒนา จุดเด่น/คุณสมบัติหลักของแต่ละสายพันธุ์ และการนำไปประยุกต์ใช้ตามวัตถุประสงค์

พ.ศ. ชื่อพันธุ์ข้าว หน่วยงานพัฒนา จุดเด่น/คุณสมบัติหลัก การประยุกต์ใช้
2553 ข้าวหอมชลสิทธิ์ ไบโอเทค (ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ทนน้ำท่วมฉับพลัน มีกลิ่นหอม ปลูกในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม เพื่อผลิตข้าวหอม
2553 ข้าวปิ่นเกษตร ไบโอเทค (ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) มีกลิ่นหอม ผลผลิตสูง เพื่อผลิตข้าวหอมคุณภาพดี
2553 ข้าวสินเหล็ก ไบโอเทค (ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) มีกลิ่นหอม ผลผลิตสูง เพื่อผลิตข้าวหอมคุณภาพดี
2553 ข้าวเหนียวหอม กข 6 ไบโอเทค (ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) มีกลิ่นหอม ผลผลิตสูง ปลูกแพร่หลายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ/เหนือ
2555 ข้าวเจ้าสีขาวพันธุ์ใหม่ (ธาตุเหล็กสูง) ไบโอเทค (ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ธาตุเหล็กสูงถึง 2.08 มก. ต่อ 100 กรัม ใช้ในการผลิตอาหารเสริมธาตุเหล็ก
2555 ข้าวเจ้าสีม่วงเข้มพันธุ์ใหม่ (ธาตุเหล็กสูง) ไบโอเทค (ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ธาตุเหล็กสูงถึง 3.05 มก. ต่อ 100 กรัม ใช้ในการผลิตอาหารเสริมธาตุเหล็ก
2555 ข้าวเจ้าหอมนิล (ไฟเทตต่ำ) ไบโอเทค (ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ปริมาณไฟเทตต่ำ เพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก ใช้ในการผลิตอาหารเสริมธาตุเหล็ก
2563 ข้าวเจ้าพันธุ์หอมจินดา ไบโอเทค เมล็ดหุงสุกนุ่ม, ต้านทานโรคขอบใบแห้ง, ลำต้นแข็งแรง, ผลผลิตสูง (838 กก. ต่อ ไร่) ปลูกเพื่อผลิตข้าวเจ้าหอมพื้นนุ่ม
2563 ข้าวเหนียวพันธุ์ กข18 ไบโอเทค ต้านทานโรคไหม้ในระยะกล้า ปลูกในนาน้ำฝนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ/เหนือที่มีโรคไหม้ระบาด
2563 ข้าวเหนียวพันธุ์ธัญสิริน ไบโอเทค ทนทานต่อการหักล้ม ต้านทานโรคไหม้ ปลูกในนาน้ำฝนภาคเหนือ/ตะวันออกเฉียงเหนือที่มีความเสี่ยงโรคไหม้
2563 ข้าวเหนียวพันธุ์น่าน 59 ไบโอเทค ต้านทานโรคไหม้แบบกว้าง นุ่ม หอม เย็นแล้วไม่แข็ง ปลูกเพื่อผลิตข้าวเหนียวคุณภาพดี
2563 ข้าวเหนียวพันธุ์ กข6 ต้นเตี้ย (TS2) ไบโอเทค ต้านทานโรคไหม้/ขอบใบแห้ง ลำต้นแข็งแรง ผลผลิตสูง (700-800 กก. ต่อ ไร่) ปลูกเพื่อลดการหักล้มและเพิ่มผลผลิต
2563 ข้าวเหนียวพันธุ์หอมนาคา ไบโอเทค ทนน้ำท่วมฉับพลัน, ต้านทานโรคไหม้/ขอบใบแห้ง ลำต้นแข็งแรง ผลผลิตสูง (930 กก. ต่อ ไร่) ปลูกได้ตลอดปีในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม
2564 ข้าวหอมสยาม ไบโอเทค (ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ต้นเตี้ย (120 ซม.) แข็งแรง ต้านทานโรคไหม้ ผลผลิตสูง (2.1 เท่าของมะลิ 105) รากลึก ทนแล้ง หอมนุ่ม ลดต้นทุน เพิ่มรายได้เกษตรกร ส่งออกข้าวหอม
2566 ข้าวหอมสยาม 2 ไบโอเทค (ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) คุณสมบัติเหมือนข้าวหอมมะลิ ผลผลิตสูงกว่า ทนน้ำท่วมฉับพลัน ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลปานกลาง ปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิตและรับมือโลกรวน
2566 ข้าวหอมมาลัยแมน ไบโอเทค (ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) หอมนุ่ม ไม่ไวต่อช่วงแสง เมล็ดเรียวยาวพิเศษ ให้ผลผลิตดีในเกษตรอินทรีย์ ปลูกในนาปรัง เหมาะสำหรับเกษตรอินทรีย์
2566 ข้าวหอมนาเล ไบโอเทค (ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) พื้นนุ่ม ไม่ไวต่อช่วงแสง ทนน้ำท่วมฉับพลัน ต้านทานโรคขอบใบแห้ง/เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล ปลูกในนาปรัง รับมือสภาพอากาศแปรปรวน
2568 ข้าวไบโอเทค 1 ไบโอเทค ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ต้านทานโรค/แมลง คุณภาพการสี/หุงต้มดี ปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิตและรับมือโลกรวน
2568 ข้าวหอมชลสิทธิ์ 2 ไบโอเทค ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ต้านทานโรค/แมลง คุณภาพการสี/หุงต้มดี ปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิตและรับมือโลกรวน

หน่วยงานร่วมทำวิจัย

หน่วยงานที่ร่วมทำวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับข้าวและการพัฒนาพันธุ์ข้าว มีดังนี้

  • มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
  • สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
  • กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  • บริษัท บางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จำกัด
  • สมาคมการค้าคลัสเตอร์เครื่องสำอางไทย (TCOS)
  • บริษัท สยาม เนเชอรัล โปรดักซ์ จำกัด
  • ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดพิจิตร
  • สภาเกษตรกรจังหวัดพิจิตร
  • เครือข่าย Hub of Rice

การจดทะเบียนพันธุ์ข้าว

ตารางการจดทะเบียนพันธุ์ข้าวด้านล่างนี้ เป็นผลการสืบค้นข้อมูลจาก “รายการคำขอจดทะเบียนพันธุ์พืชใหม่” ของ สำนักคุ้มครองพันธุ์พืช กรมวิชาการเกษตร เว็บไซต์ https://www.doa.go.th/pvp/?page_id=478 (ข้อมูล ณ วันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2568)

ลำดับ วัน/เดือน/ปี เลขที่คำขอ ชนิดพืช ชื่อพันธุ์ ผู้ยื่นคำขอ สถานะ
1903 2 ม.ค. 2567 ก.ย. 2567 ข้าว แดงจรูญ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ปลูกตรวจสอบ
1806 15 ก.พ. 2566 มี.ค. 2566 ข้าว หอมมาลัยแมน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จดทะเบียน
1805 15 ก.พ. 2566 ก.พ. 2566 ข้าว ไรซ์เบอร์รี่ 2 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จดทะเบียน

ต้นแบบผลิตภัณฑ์

ไบโอเทคได้มีการปรับปรุงพันธุ์ข้าวมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและต้านทานต่อโรค ซึ่งที่ผ่านมาได้มีสายพันธุ์ที่อยู่ระหว่างการทดสอบทั้งในระดับห้องปฏิบัติการและระดับภาคสนาม และการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น

  • พ.ศ. 2566 ต้นแบบชุดควบคุมระดับหัวเกี่ยวรถเกี่ยวนวดข้าวแบบอัตโนมัติตามความสูงต้นข้าวด้วยเทคโนโลยีไลดาร์
  • พ.ศ. 2566 การระบุพื้นที่ปลูกข้าวและอ้อยระดับจังหวัด ด้วยเทคโนโลยี Deep learning บน Open Data Cube (KropMap)
  • พ.ศ. 2566 ชุดอุปกรณ์วัดพื้นที่เก็บเกี่ยวพร้อมระบบคำนวณค่าบริการในการเก็บเกี่ยวข้าว
  • พ.ศ. 2566 ระบบอนุมานโครงสร้างประชากรของกลุ่มพันธุ์ข้าวไทยทุกภูมิภาคจาก genetic admixture ด้วยวิธีการ Machine learning (Admix-ML)
  • พ.ศ. 2565 การระบุพื้นที่ปลูกข้าวด้วย Open Data Cube
  • พ.ศ. 2564 ระบบวินิจฉัยโรคข้าวโดยเทคนิคการประมวลผลภาพถ่าย
  • พ.ศ. 2564 ต้นแบบจำลองชุดคอลำเลียงของเครื่องเกี่ยวนวดข้าวที่สามารถปรับความกว้างของช่องรับฟ่อนข้าวและความเร็วในการลำเลียงแบบอัตโนมัติ
  • พ.ศ. 2564 แพลตฟอร์มเพื่อการวิเคราะห์โครงสร้างพันธุศาสตร์ประชากรและความสัมพันธ์จีโนไทป์-ฟีโนไทป์ด้วยเทคนิค GWAS ของข้าวไทย
  • พ.ศ. 2564 ข้าวดัชนีน้ำตาลต่ำ ปิ่นเกษตร+4
  • พ.ศ. 2563 ซอฟต์แวร์วัดและจำแนกสัณฐานวิทยาของข้าวแบบ 3 มิติ
  • พ.ศ. 2563 ต้นแบบการใช้เทคโนโลยีไลดาร์วัดความสูงต้นข้าว
  • พ.ศ. 2563 ระบบวินิจฉัยโรคข้าวโดยเทคนิคการประมวลผลภาพถ่าย
  • พ.ศ. 2563 “ข้าวธัญสิริน” พันธุ์ข้าวเหนียว ไวต่อช่วงแสง ต้านทานโรคไหม้ ที่มีผลผลิตสูง และคุณภาพการหุงต้มดี อ่อนเหนียวนุ่ม ข้าวสุกเมื่อเย็นคงความนิ่ม
  • พ.ศ. 2563 ข้าวสายพันธุ์คู่แฝดขาวดอกมะลิ 105 ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
  • พ.ศ. 2563 ข้าวก่อกลายพันธ์ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
  • พ.ศ. 2563 ต้นแบบจำลองชุดหัวเกี่ยวของเครื่องเกี่ยวนวดข้าวปรับระดับตามความสูงต้นข้าวแบบอัตโนมัติ
  • พ.ศ. 2563 ระบบจำแนกพันธุ์ข้าว
  • พ.ศ. 2562 กล่องควบคุมสำหรับรถเกี่ยวนวดข้าวและรถขุดจำลอง
  • พ.ศ. 2562 ซอฟต์แวร์ฝึกขับรถเกี่ยวนวดข้าวในรูปแบบความจริงเสมือน
  • พ.ศ. 2562 เครื่องมือสำหรับตรวจวัดและประมวลผลสัณฐานวิทยาของข้าว
  • พ.ศ. 2561 ขนมปังแซนด์วิชปราศจากกลูเตนจากฟลาวข้าวเจ้าอะไมโลสปานกลาง
  • พ.ศ. 2561 ฟลาวข้าวเจ้าดัดแปรด้วยกระบวนการเอ็กซ์ทรูชันสำหรับบะหมี่ปราศจากกลูเตน
  • พ.ศ. 2560 รถเกี่ยวนวดข้าวจำลอง
  • พ.ศ. 2560 เครื่องมือตรวจสอบความหอมของข้าวแบบพกพา
  • พ.ศ. 2557 การวิจัยเพื่อพัฒนาพันธุ์ข้าวโภชนาการสูง ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ปราศจาก GMO
  • พ.ศ. 2558 น้ำยาล้างสีเพื่อการนำกระสอบข้าวกลับมาใช้ใหม่
  • พ.ศ. 2558 ระบบฐานข้อมูลการปลูกข้าวและกระบวนการนับจำนวนของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลจากภาพถ่าย
  • พ.ศ. 2557 C-Rice: เครื่องตรวจเมล็ดข้าวแดง เมล็ดข้าวเหนียว หรือเมล็ดข้าวเจ้า ที่ปนมากับเมล็ดพันธุ์ (Rice Classifier)
  • พ.ศ. 2557 A-Rice: เครื่องวัดขนาดคัพภะของเมล็ดข้าว (Rice Embryo Analyzer)
  • พ.ศ. 2556 ระบบบริหารจัดการคุณภาพข้าวไทยด้วย Mobile GAP Assessment
  • พ.ศ. 2556 ต้นแบบหม้อหุงข้าวประหยัดพลังงาน
  • พ.ศ. 2555 BaiKhaoNK: เครื่องประมาณความต้องการธาตุไนโตรเจนและโพแทสเซียมของต้นข้าวในนาโดยใช้โทรศัพท์มือถือ
  • พ.ศ. 2555 การพัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูลโครงการวิจัยที่อิงกับฐานความรู้ออนโทโลยี กรณีศึกษาการประยุกต์ในระบบสนับสนุนการตัดสินใจเพื่อสนับสนุนงานนโยบายยุทธศาสตร์วิจัยข้าว
  • พ.ศ. 2555 เครื่องตรวจสอบการปลอมปนข้าวสารพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 แบบไม่ทำลาย โดยใช้เทคนิคทางแสงและการประมวลผลภาพ
  • พ.ศ. 2554 เครื่องประมาณความต้องการธาตุไนโตรเจนของต้นข้าวในนาโดยใช้โทรศัพท์มือถือ (BaiKhaoApp: Cell Phone-based Leaf Color Analyzer for Nitrogen Estimation in the Rice Field)
  • พ.ศ. 2554 ใบข้าว: อุปกรณ์ตรวจวัดสีใบข้าวสำหรับใช้ประเมินความต้องการธาตุไนโตรเจนของต้นข้าวในนา (Bai-Khao: Leaf Color Analyzer for Nitrogen Estimation in the Rice Field)
    พ.ศ. 2553 อุปกรณ์ตรวจวัดสีใบข้าวสำหรับใช้ประเมินความต้องการธาตุไนโตรเจนของต้นข้าวในนา (Leaf Color Analyzer for Nitrogen Estimation in the Rice Field)
  • พ.ศ. 2553 เครื่องสีข้าวขนาดเล็กสำหรับครัวเรือน และชุมชน รุ่นที่ 2
  • พ.ศ. 2552 ต้นแบบการปรับปรุงและพัฒนาหัววัดความชื้นข้าวเปลือก
  • พ.ศ. 2552 ต้นแบบบอร์ดควบคุมเครื่องสั่นเมล็ดข้าวสาร
  • พ.ศ. 2551 เครื่องสีข้าวขนาดเล็กสำหรับครัวเรือนและชุมชน
  • พ.ศ. 2550 บอร์ดควบคุมหม้อหุงข้าวดิจิตอลรุ่นที่ 2 Digital Rice Cooker Control Board Version 2
  • พ.ศ. 2550 บอร์ด Data Logger สำหรับการพัฒนา Profile การหุงข้าว Data Logger Board for Cooking Profile Development
  • พ.ศ. 2551 เครื่องสีข้าวขนาดเล็กสำหรับครัวเรือนและชุมชน
  • พ.ศ. 2549 ต้นแบบไฟหน้ารถเกี่ยวข้าวแบบวงรี
  • พ.ศ. 2549 ต้นแบบไฟรถเกี่ยวข้าว

ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีสายพันธุ์ข้าวที่อยู่ระหว่างการทดสอบทั้งในระดับห้องปฏิบัติการและระดับภาคสนาม ดังนี้

  • ข้าวเจ้าหอมคุณภาพหุงต้มคล้ายพันธุ์ (ระดับห้องปฏิบัติการ)
  • ขาวดอกมะลิ 105 ทนเค็มและต้านทานโรคไหม้ (ระดับห้องปฏิบัติการ)
  • ข้าวหอมชลสิทธิ์ทนน้ำท่วมฉับพลัน ไม่ไวต่อช่วงแสง ต้านทานโรคไหม้ โรคขอบใบแห้ง และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (ระดับห้องปฏิบัติการ)
  • ข้าวเจ้าอายุเบา ไม่ไวต่อแสง ทนน้ำท่วมฉับพลัน ต้านทานโรคขอบใบแห้ง และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (ระดับห้องปฏิบัติการ)
  • ข้าวเหนียวไม่ไวต่อช่วงแสง ทนน้ำท่วมฉับพลัน ต้านทานโรคขอบใบแห้ง และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (ระดับห้องปฏิบัติการ)
  • สายพันธุ์ข้าวคล้ายพันธุ์ปทุมธานี 1 (ข้าวนาเล) ทนน้ำท่วมฉับพลัน ต้านทานโรคขอบใบแห้ง และเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล (ระดับภาคสนาม)
  • ข้าวไรซ์เบอรี่ต้านทานโรคขอบใบแห้ง เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล และทนน้ำท่วมฉับพลัน (ไรซ์เบอรี่+3) (ระดับห้องปฏิบัติการ)
  • ข้าวปิ่นเกษตร+4 อายุเบาและปริมาณอะไมโลสต่ำ (ระดับห้องปฏิบัติการ)
  • ข้าวเหนียวไรซ์เบอรี่ ไม่ไวต่อช่วงแสง กลิ่นหอม มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ต้านทานโรคไหม้ และโรคขอบใบแห้ง
  • ข้าวหอมมาลัยแมน (ระดับภาคสนาม)
  • ข้าวไรซ์เบอร์รี่ 2 ต้านทานโรคขอบใบแห้ง 3 ไปโซเลท (ชัยนาท ร้อยเอ็ด นครศรีธรรมราช) (ระดับภาคสนาม)

สิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร

นักวิจัย สวทช. ได้ยื่นจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับการพัฒนาพันธุ์ข้าว เพื่อคุ้มครองสิทธิในสิ่งประดิษฐ์หรือนวัตกรรม ดังนี้

วันที่ยื่นจด ประเภท เรื่อง ประเทศที่ยื่นจด วันที่ออกสิทธิบัตร เลขที่สิทธิบัตร
9 มิ.ย. 2538 สิทธิบัตรประดิษฐ์ กระบวนการผลิต 2-อะซิทิล-1-ไพโรลีน ซึ่งเป็นสาระสำคัญที่ให้กลิ่นข้าวหอมมะลิ THA 8 ก.ค. 2545 13175
13 มี.ค. 2544 สิทธิบัตรประดิษฐ์ กรรมวิธีผลิตเครื่องดื่มน้ำนมข้าวและเครื่องดื่มน้ำนมข้าว THA 16 มี.ค. 2549 19679
4 ก.พ. 2548 สิทธิบัตรประดิษฐ์ เครื่องปอกเปลือกข้าวโพดฝักอ่อนแบบลูกกลิ้ง THA 12 ต.ค. 2550 22669
10 ส.ค. 2548 สิทธิบัตรประดิษฐ์ การผลิตชิ้นส่วนซิลิกอนคาร์ไบด์หรือซิลิกอนคาร์ไบด์คอมพอสิตจากแกลบหรือฟางข้าว THA
6 ก.ค. 2550 สิทธิบัตรประดิษฐ์ สูตรเครื่องสำอางที่มีอนุภาคนาโนชนิดไขมันแข็งและสารต้านปฏิกิริยาออกซิเดชั่นชนิดแกมมา-ออริซานอลจากน้ำมันรำข้าว และ/หรือ สารสกัดจากน้ำมันกะเพรา และ/หรือ สารสกัดจากดอกดาวเรือง และ/หรือ กรดอัลฟ่า-ไลโปอิก THA
29 ม.ค. 2551 สิทธิบัตรประดิษฐ์ โครงข่ายโปรตีนข้าว THA 21 ส.ค. 2563 78099
4 พ.ย. 2551 สิทธิบัตรประดิษฐ์ เครื่องหมายยีนจำแนกพันธุ์ข้าวไทยและการใช้ THA 23 ธ.ค. 2562 86094
30 ก.ย. 2552 สิทธิบัตรประดิษฐ์ กระบวนการตรวจสอบความต้านทานของต้นกล้าข้าวต่อเชื้อโรคไหม้ ภายใต้ระบบการควบคุมสภาวะแวดล้อมในสภาพปลอดเชื้อปนเปื้อน THA 30 พ.ค. 2566 93982
15 ม.ค. 2553 สิทธิบัตรประดิษฐ์ วิธีการและระบบสำหรับแยกชนิดของพันธุ์ข้าวแบบไม่ทำลายด้วยแสง THA 17 ก.ค. 2563 77414
30 ก.ย. 2553 สิทธิบัตรประดิษฐ์ กรรมวิธีการชักนำดอกและติดเมล็ดข้าวภายใต้ระบบการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช THA
13 มี.ค. 2556 สิทธิบัตรประดิษฐ์ กระบวนการจำแนกแมลงชนิดที่เป็นแมลงศัตรูข้าวจากภาพถ่าย THA 7 ต.ค. 2567 103806
19 พ.ย. 2556 สิทธิบัตรประดิษฐ์ กรรมวิธีการอบแห้งข้าวเปลือกนึ่งแบบเร็วยวดยิ่งโดยเทคนิคกระแสชนใช้อากาศร้อนเป็นตัวกลาง THA 27 ธ.ค. 2562 73443
6 ธ.ค. 2556 สิทธิบัตรประดิษฐ์ วิธีการประเมินระดับการนึ่งของข้าวนึ่งด้วยการวิเคราะห์ภาพ THA
9 เม.ย. 2557 สิทธิบัตรประดิษฐ์ กระบวนการสกัดสารให้สีจากกระเจี๊ยบแดงและข้าวสีนิล และการทำให้สีของสิ่งสกัดเสถียร THA
24 ก.ค. 2557 สิทธิบัตรประดิษฐ์ กรรมวิธีการผลิตสารเสริมสมบัติเชิงหน้าที่และสารให้กลิ่นรสหมูจากโปรตีนไฮโดรไลเซทข้าวสกัดด้วยเอนไซม์ THA
30 ก.ย. 2558 สิทธิบัตรประดิษฐ์ ระบบฐานข้อมูลการปลูกข้าวและกระบวนการนับและจำแนกวัยของเพลี้ยกระโดด สีน้ำตาลจากภาพถ่ายเพื่อแจ้งเตือนการแพร่ระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล THA
26 ส.ค. 2559 สิทธิบัตรประดิษฐ์ ระบบตรวจวัดลักษณะทรงกอพืชด้วยเทคโนโลยีแมชชีนวิชั่น เพื่อการคัดเลือกสายพันธุ์พืช THA 27 ม.ค. 2565 86466
26 ส.ค. 2559 สิทธิบัตรประดิษฐ์ ระบบและวิธีการวัดค่าความยาวของต้นข้าว THA
4 พ.ค. 2561 สิทธิบัตรประดิษฐ์ ระบบและวิธีการตรวจสอบคุณภาพและจำแนกพันธุ์ข้าวแบบไม่ทำลาย THA
20 ก.ย. 2561 สิทธิบัตรประดิษฐ์ เครื่องหมายโมเลกุลสนิปที่มีความจำเพาะสำหรับการตรวจสอบข้าวทีจีเอ็มเอส และวิธีการสำหรับตรวจสอบข้าวทีจีเอ็มเอสด้วยเครื่องหมายโมเลกุลสนิปดังกล่าว THA
28 ก.ย. 2561 สิทธิบัตรประดิษฐ์ ระบบจำแนกส่วนประกอบของต้นข้าว และวิธีการดังกล่าว THA
20 ก.ย. 2562 สิทธิบัตรประดิษฐ์ วิธีการตรวจหาเชื้อก่อโรคด้วยอนุภาคแม่เหล็กที่มีสารชีวโมเลกุลด้วยหลักการโฟโตนิกส์ภายใต้สนามแม่เหล็ก THA
18 ก.ย. 2563 สิทธิบัตรประดิษฐ์ ชุดอุปกรณ์ตรวจวัดความสูงของต้นข้าวสำหรับรถเกี่ยวนวดข้าว และชุดอุปกรณ์ปรับระดับความสูงของชุดหัวเกี่ยวของรถเกี่ยวนวดข้าวที่ใช้ชุดอุปกรณ์ ตรวจวัดดังกล่าว THA
28 ก.ย. 2563 สิทธิบัตรประดิษฐ์ ระบบประมาณค่ามุมใบข้าวโดยใช้ข้อมูลภาพสามมิติ และกระบวนการดังกล่าว THA
10 ก.ย. 2564 สิทธิบัตรประดิษฐ์ ระบบตรวจจับเมล็ดข้าวหัก และกระบวนการดังกล่าว THA
16 ก.ย. 2564 สิทธิบัตรประดิษฐ์ ระบบวัดเมล็ดข้าว และกระบวนการดังกล่าว THA
21 ก.ย. 2564 สิทธิบัตรประดิษฐ์ กรรมวิธีการจำแนกแหล่งปลูกข้าวเหนียวด้วยการตรวจวัดเมตาโบไลท์แบบเฉพาะเจาะจง THA
28 ก.ย. 2564 สิทธิบัตรประดิษฐ์ กรรมวิธีการตัดแบ่งภาพสำหรับวินิจฉัยภาพโรคข้าวในแปลงนาเพื่อช่วยลดผลปัจจัยความหลากหลายของระยะห่างกล้อง THA
28 ก.ย. 2564 สิทธิบัตรประดิษฐ์ ระบบตรวจประเมินความเสียหายในต้นข้าว THA

ผลงานตีพิมพ์

นักวิจัย สวทช. ตีพิมพ์ผลงานเขียนเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาพันธุ์ข้าว ด้านล่างแสดงรายการบทความวิจัยซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่ในระบบนานาชาติ ตั้งแต่ปี 2005 จนถึงปัจจุบัน  (เรียงลำดับรายการอ้างอิงตามปีที่ตีพิมพ์ โดยเริ่มจากปีที่เก่ากว่าไปยังปีที่ใหม่กว่า)

  • จากการสืบค้นผลงานตีพิมพ์ในฐานข้อมูล Scopus (https://www.scopus.com/) โดยใช้คำค้น “( TITLE-ABS-KEY ( rice ) AND AFFIL ( National Center for Genetic Engineering AND Biotechnology ) )” พบผลงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 357 รายการ (ข้อมูล ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2568) ซึ่งในที่นี้จะนำเสนอ 20 อันดับแรกที่มีจำนวนการอ้างอิง (Citations) สูงสุดเรียงจากมากไปหาน้อย ดังนี้
    1. Wongwilaiwalin, S., Rattanachomsri, U., Laothanachareon, T., Eurwilaichitr, L., Igarashi, Y., & Champreda, V. (2010). Analysis of a thermophilic lignocellulose degrading microbial consortium and multi-species lignocellulolytic enzyme system. Enzyme and Microbial Technology, 47(6), 283-290. https://doi.org/10.1016/j.enzmictec.2010.07.013
    2. Chareonlimkun, A., Champreda, V., Shotipruk, A., & Laosiripojana, N. (2010). Catalytic conversion of sugarcane bagasse, rice husk and corncob in the presence of TiO2, ZrO2 and mixed-oxide TiO2-ZrO2 under hot compressed water (HCW) condition. Bioresource Technology, 101(11), 4179-4186. https://doi.org/10.1016/j.biortech.2010.01.037
    3. Yodpitak, S., Mahatheeranont, S., Boonyawan, D., Sookwong, P., Roytrakul, S., & Norkaew, O. (2019). Cold plasma treatment to improve germination and enhance the bioactive phytochemical content of germinated brown rice. Food Chemistry, 289, 328-339. https://doi.org/10.1016/j.foodchem.2019.03.061
    4. Chutipaijit, S., Cha-um, S., & Sompornpailin, K. (2011). High contents of proline and anthocyanin increase protective response to salinity in Oryza sativa L. spp. indica. Australian Journal of Crop Science, 5(10), 1191-1198.
    5. Loy, A. C. M., Gan, D. K. W., Yusup, S., Chin, B. L. F., Lam, M. K., Shahbaz, M., Unrean, P., Acda, M. N., & Rianawati, E. (2018). Thermogravimetric kinetic modelling of in-situ catalytic pyrolytic conversion of rice husk to bioenergy using rice hull ash catalyst. Bioresource Technology, 261, 213-222. https://doi.org/10.1016/j.biortech.2018.04.020
    6. Kamal, N. M., Gorafi, Y. S. A., Abdelrahman, M., Abdellatef, E., & Tsujimoto, H. (2019). Stay-green trait: A prospective approach for yield potential, and drought and heat stress adaptation in globally important cereals. International Journal of Molecular Sciences, 20(23), 5837. https://doi.org/10.3390/ijms20235837
    7. Harnpicharnchai, P., Champreda, V., Sornlake, W., & Eurwilaichitr, L. (2009). A thermotolerant β-glucosidase isolated from an endophytic fungi, Periconia sp., with a possible use for biomass conversion to sugars. Protein Expression and Purification, 67(2), 61-69. https://doi.org/10.1016/j.pep.2008.05.022
    8. Cha-Um, S., Supaibulwatana, K., & Kirdmanee, C. (2007). Glycinebetaine accumulation, physiological characterizations and growth efficiency in salt-tolerant and salt-sensitive lines of indica rice (Oryza sativa L. ssp. indica) in response to salt stress. Journal of Agronomy and Crop Science, 193(3), 157-166. https://doi.org/10.1111/j.1439-037X.2007.00251.x
    9. Zhao, J., Huang, X., Ouyang, X., Chen, W., Du, A., Zhu, L., Wang, S., Deng, X. W., & Li, S. (2012). OsELF3-1, an ortholog of arabidopsis EARLY FLOWERING 3, regulates rice circadian rhythm and photoperiodic flowering. PLoS ONE, 7(8), e43705. https://doi.org/10.1371/journal.pone.0043705
    10. Boriboonkaset, T., Theerawitaya, C., Yamada, N., Pichakum, A., Supaibulwatana, K., Cha-um, S., Takabe, T., & Kirdmanee, C. (2013). Regulation of some carbohydrate metabolism-related genes, starch and soluble sugar contents, photosynthetic activities and yield attributes of two contrasting rice genotypes subjected to salt stress. Protoplasma, 250(5), 1157-1167. https://doi.org/10.1007/s00709-013-0496-9
    11. Cha-Um, S., Supaibulwatana, K., & Kirdmanee, C. (2006). Water relation, photosynthetic ability and growth of thai jasmine rice (Oryza sativa L. ssp. indica cv. KDML 105) to salt stress by application of exogenous glycinebetaine and choline. Journal of Agronomy and Crop Science, 192(1), 25-36. https://doi.org/10.1111/j.1439-037X.2006.00186.x
    12. Pongprayoon, W., Roytrakul, S., Pichayangkura, R., & Chadchawan, S. (2013). The role of hydrogen peroxide in chitosan-induced resistance to osmotic stress in rice (Oryza sativa L.). Plant Growth Regulation, 70(2), 159-173. https://doi.org/10.1007/s10725-013-9789-4
    13. Minh Loy, A. C., Yusup, S., Fui Chin, B. L., Wai Gan, D. K., Shahbaz, M., Acda, M. N., Unrean, P., & Rianawati, E. (2018). Comparative study of in-situ catalytic pyrolysis of rice husk for syngas production: Kinetics modelling and product gas analysis. Journal of Cleaner Production, 197, 1231-1243. https://doi.org/10.1016/j.jclepro.2018.06.245
    14. Chutipaijit, S., Cha-um, S., & Sompornpailin, K. (2009). Differential accumulations of proline and flavonoids in indica rice varieties against salinity. Pakistan Journal of Botany, 41(5), 2497-2506.
    15. Singam, K., Juntawong, N., Cha-um, S., & Kirdmanee, C. (2011). Salt stress induced ion accumulation, ion homeostasis, membrane injury and sugar contents in salt-sensitive rice (Oryza sativa L. spp. indica) roots under isoosmotic conditions. African Journal of Biotechnology, 10(8), 1340-1346.
    16. Suwannarangsee, S., Bunterngsook, B., Arnthong, J., Paemanee, A., Thamchaipenet, A., Eurwilaichitr, L., Laosiripojana, N., & Champreda, V. (2012). Optimisation of synergistic biomass-degrading enzyme systems for efficient rice straw hydrolysis using an experimental mixture design. Bioresource Technology, 119, 252-261. https://doi.org/10.1016/j.biortech.2012.05.098
    17. Cha-Um, S., & Kirdmanee, C. (2010). Effect of glycinebetaine on proline, water use, and photosynthetic efficiencies, and growth of rice seedlings under salt stress. Turkish Journal of Agriculture and Forestry, 34(6), 517-527. https://doi.org/10.3906/tar-0906-34
    18. Gan, D. K. W., Loy, A. C. M., Chin, B. L. F., Yusup, S., Unrean, P., Rianawati, E., & Acda, M. N. (2018). Kinetics and thermodynamic analysis in one-pot pyrolysis of rice hull using renewable calcium oxide based catalysts. Bioresource Technology, 265, 180-190. https://doi.org/10.1016/j.biortech.2018.06.003
    19. Cha-Um, S., Charoenpanich, A., Roytrakul, S., & Kirdmanee, C. (2009). Sugar accumulation, photosynthesis and growth of two indica rice varieties in response to salt stress. Acta Physiologiae Plantarum, 31(3), 477-486. https://doi.org/10.1007/s11738-008-0256-1
    20. Vanavichit, A., Kamolsukyeunyong, W., Siangliw, M., Siangliw, J. L., Traprab, S., Ruengphayak, S., Chaichoompu, E., Saensuk, C., Phuvanartnarubal, E., Toojinda, T., & Tragoonrung, S. (2018). Thai Hom Mali Rice: Origin and Breeding for Subsistence Rainfed Lowland Rice System. Rice, 11(1), 20. https://doi.org/10.1186/s12284-018-0212-7
  • จากการสืบค้นผลงานตีพิมพ์ในฐานข้อมูล Scopus (https://www.scopus.com/) โดยใช้คำค้น “( TITLE-ABS-KEY ( “Rice variety development” ) OR TITLE-ABS-KEY ( “Rice breeding” ) AND AFFIL ( National Center for Genetic Engineering AND Biotechnology ) OR AFFIL ( Thailand National Science AND Technology Development Agency ) )” พบผลงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 22 รายการ (ข้อมูล ณ วันที่ 13 สิงหาคม 2568) ดังนี้

2005

    • Toojinda, T., Tragoonrung, S., Vanavichit, A., Siangliw, J. L., Pa-In, N., Jantaboon, J., Siangliw, M., & Fukai, S. (2005). Molecular breeding for rainfed lowland rice in the Mekong region. Plant Production Science, 8(3), 330-333. https://doi.org/10.1626/pps.8.330

2007

    • Cha-um, S., Roytakul, S., Sathung, T., Maijandang, A., & Kirdmanee, C. (2007). Effect of exogenous glucose and abscisic acid on physiological and morphological performances of in vitro indica rice (Oryza sativa L. sp. indica). American Journal of Plant Physiology, 2(2), 155-166. https://doi.org/10.3923/ajpp.2007.155.166

2009

    • Cha-um, S., Srianan, B., Pichakum, A., & Kirdmanee, C. (2009). An efficient procedure for embryogenic callus induction and double haploid plant regeneration through anther culture of Thai aromatic rice (Oryza sativa L. subsp. indica). In Vitro Cellular and Developmental Biology – Plant, 45(2), 171-179. https://doi.org/10.1007/s11627-009-9203-0
    • Cha-um, S., Charoenpanich, A., Roytrakul, S., & Kirdmanee, C. (2009). Sugar accumulation, photosynthesis and growth of two indica rice varieties in response to salt stress. Acta Physiologiae Plantarum, 31(3), 477-486. https://doi.org/10.1007/s11738-008-0256-1

2012

    • Chakhonkaen, S., Pitnjam, K., Saisuk, W., Ukoskit, K., & Muangprom, A. (2012). Genetic structure of Thai rice and rice accessions obtained from the international rice research institute. Rice, 5(1), 19. https://doi.org/10.1186/1939-8433-5-19

2019

    • Prempree, P., Chaitavon, K., Porntheeraphat, S., Kiratiratanapruk, K., Temniranrat, P., Sinthupinyo, W., & Prasertsak, A. (2019). Automatic rice seed imaging system for varieties classification. Proceedings of SPIE – The International Society for Optical Engineering, 11142, OPTM-4-02.
    • Pathaichindachote, W., Panyawut, N., Sikaewtung, K., Patarapuwadol, S., & Muangprom, A. (2019). Genetic Diversity and Allelic Frequency of Selected Thai and Exotic Rice Germplasm Using SSR Markers. Rice Science, 26(6), 393-403. https://doi.org/10.1016/j.rsci.2018.11.002

2020

    • Nubankoh, P., Wanchana, S., Saensuk, C., Ruanjaichon, V., Cheabu, S., Vanavichit, A., Toojinda, T., Malumpong, C., & Arikit, S. (2020). QTL-seq reveals genomic regions associated with spikelet fertility in response to a high temperature in rice (Oryza sativa L.). Plant Cell Reports, 39(1), 149-162. https://doi.org/10.1007/s00299-019-02477-z
    • Sattayachiti, W., Wanchana, S., Arikit, S., Nubankoh, P., Patarapuwadol, S., Vanavichit, A., Darwell, C. T., & Toojinda, T. (2020). Genome-wide association analysis identifies resistance loci for bacterial leaf streak resistance in rice (Oryza sativa L.). Plants, 9(12), 1673. https://doi.org/10.3390/plants9121673

2021

    • Ruangsiri, M., Vejchasarn, P., Saengwilai, P., Lynch, J., Bennett, M. J., Brown, K. M., Chutteang, C., Boonruangrod, R., Shearman, J., Toojinda, T., & Siangliw, J. L. (2021). Genetic control of root architectural traits in KDML105 chromosome segment substitution lines under well-watered and drought stress conditions. Plant Production Science, 24(4), 512-529. https://doi.org/10.1080/1343943X.2021.1883990

2022

    • Korinsak, S., Wongsaprom, C., Jamboonsri, W., Sriprakhon, S., Sirithunya, K., Vanavichit, A., & Toojinda, T. (2022). Identification of broad-spectrum resistance QTLs against rice blast fungus and their application in different rice genetic backgrounds. Journal of Genetics, 101(1), 16. https://doi.org/10.1007/s12041-021-01357-4
    • Damchuay, K., Srirat, T., Sirisathaworn, T., Longya, A., Teerasan, W., Tasanasuwan, P., Korinsak, S., Jantasuriyarat, C., & Toojinda, T. (2022). Genetic distribution of the avirulence gene AVRPiz-t in Thai rice blast isolates and their pathogenicity to the broad-spectrum resistant rice variety Toride 1. Plant Pathology, 71(2), 334-343. https://doi.org/10.1111/ppa.13482
    • Theerawitaya, C., Wanchana, S., Ruanjaichon, V., Tisaram, R., Samphumphuang, T., Sotesaritkul, T., Cha-um, S., & Toojinda, T. (2022). Determination of traits responding to iron toxicity stress at different stages and genome-wide association analysis for iron toxicity tolerance in rice (Oryza sativa L.). Frontiers in Plant Science, 13, 994560. https://doi.org/10.3389/fpls.2022.994560

2023

    • Korinsak, S., Sriprakhon, S., Sirithunya, K., Sriwongchai, T., Wongsaprom, C., Plabpla, A., Vanavichit, A., & Toojinda, T. (2023). Resistance QTLs controlling leaf and neck blast disease identified in a doubled haploid rice population. Euphytica, 219(4), 41. https://doi.org/10.1007/s10681-023-03161-w
    • Phukunkamkaew, S., Tisarum, R., Sotesaritkul, T., Maksup, S., Singh, H. P., & Cha-um, S. (2023). Aluminum uptake, translocation, physiological changes, and overall growth inhibition in rice genotypes (Oryza sativa) at vegetative stage. Environmental Geochemistry and Health, 45(1), 187-197. https://doi.org/10.1007/s10653-022-01291-z
    • Yongbin, Q., Summat, P., Panyawut, N., Sikaewtung, K., Ditthab, K., Tongmark, K., Chakhonkaen, S., Sangarwut, N., Wasinanon, T., Kaewmungkun, K., & Muangprom, A. (2023). Identification of Rice Accessions Having Cold Tolerance at the Seedling Stage and Development of Novel Genotypic Assays for Predicting Cold Tolerance. Plants, 12(1), 215. https://doi.org/10.3390/plants12010215
    • Pannak, S., Wanchana, S., Aesomnuk, W., Pitaloka, M. K., Jamboonsri, W., Siangliw, M., Meyers, B. C., Toojinda, T., & Arikit, S. (2023). Functional Bph14 from Rathu Heenati promotes resistance to BPH at the early seedling stage of rice (Oryza sativa L.) as revealed by QTL-seq. Theoretical and Applied Genetics, 136(2), 2. https://doi.org/10.1007/s00122-023-04318-w

2024

    • Plabpla, A., Korinsak, S., Korinsak, S., Thunnom, B., Vanavichit, A., Saleeto, S., Sirithanya, K., & Toojinda, T. (2024). Research Article Identification and Validation of Blast Resistance Loci from the Durable Resistance Cultivar Hahng Yi 71. Chiang Mai Journal of Science, 51(5), e2024070. https://doi.org/10.12982/CMJS.2024.070
    • Ploywattanawong, L., Smanchat, S., & Tongsima, S. (2024). AN APPLICATION OF CLUSTERING TECHNIQUE FOR SELECTING SNP MOLECULAR MARKERS IN RICE GENOME. Journal of Theoretical and Applied Information Technology, 102(23), 8817-8825.
    • Chaichoompu, E., Ruengphayak, S., Wattanavanitchakorn, S., Wansuksri, R., Yonkoksung, U., Suklaew, P. O., Chotineeranat, S., Raungrusmee, S., Vanavichit, A., Toojinda, T., & Kamolsukyeunyong, W. (2024). Development of Whole-Grain Rice Lines Exhibiting Low and Intermediate Glycemic Index with Decreased Amylose Content. Foods, 13(22), 3627. https://doi.org/10.3390/foods13223627
    • Summat, P., Tongmark, K., Chakhonkaen, S., Sangarwut, N., Panyawut, N., Pinsupa, S., Thanananta, T., & Muangprom, A. (2024). Investigating cold tolerance mechanisms in rice seedlings: Alternative splicing, promoter analysis, and their applications for marker development. Plant Stress, 13, 100530. https://doi.org/10.1016/j.stress.2024.100530

2025

    • Purnama, P. R., Suwanchaikasem, P., Junbuathong, S., Chotechuen, S., Moung-Ngam, P., Kasettranan, W., Paliyavuth, C., Pongpanich, M., Roytrakul, S., Comai, L., Buaboocha, T., & Chadchawan, S. (2025). Uncovering genetic determinants of antioxidant properties in Thai landrace rice through genome-wide association analysis. Scientific Reports, 15(1), 1443. https://doi.org/10.1038/s41598-024-83926-y

วิดีโอประชาสัมพันธ์

รายการ พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย

    • พ.ศ. 2557 (ก.พ.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน การพัฒนาพันธุ์ข้าว
      https://www.youtube.com/watch?v=KG4NkYw5vhM
    • พ.ศ. 2557 (ต.ค.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน ตรวจรับรองเมล็ดพันธุ์ข้าวด้วย “Tamis”
      https://www.youtube.com/watch?v=1sc8fQLYmoU
    • พ.ศ. 2557 (ต.ค.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน ข้าวทนน้ำท่วม
      https://www.youtube.com/watch?v=gfDz68N8FcI
    • พ.ศ. 2557 (ต.ค.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการสีข้าว
      https://www.youtube.com/watch?v=Tknvyh-MDDM
    • พ.ศ. 2557 (ธ.ค.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน พัฒนานักประกอบการวิสาหกิจชุมชนข้าวอินทรีย์
      https://www.youtube.com/watch?v=k1iJMv5kuG4
    • พ.ศ. 2558 (ม.ค.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน เครื่องสีข้าวขนาดเล็กสำหรับชุมชน
      https://www.youtube.com/watch?v=lOWU_pSGFco
    • พ.ศ. 2558 (ม.ค.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน ระบบคาดการณ์การอพยพของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลในนาข้าว
      https://www.youtube.com/watch?v=G-n_p0PRo1Y
    • พ.ศ. 2558 (ก.พ.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน เครื่องสีข้าวชุมชนเพื่อความสุขของคนบ้านสามขา
      https://www.youtube.com/watch?v=vH0OEAWwAUI
    • พ.ศ. 2558 (มี.ค.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน สารคดีข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต
      https://www.youtube.com/watch?v=mgSe5JZixV8
    • พ.ศ. 2558 (เม.ย.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน ข้าวกล้องเพาะงอกชนิดผสม
      https://www.youtube.com/watch?v=afJgDAuRaKg
    • พ.ศ. 2559 (พ.ค.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน เครื่องสีข้าวขนาดเล็กสำหรับชุมชน
      https://www.youtube.com/watch?v=LPFgMMRQqlg
    • พ.ศ. 2559 (มี.ค.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน ครีมข้าวในบรรจุภัณฑ์พลาสติกทนความร้อนสูง
      https://www.youtube.com/watch?v=IxBHFcr-nWY
    • พ.ศ. 2559 (เม.ย.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน วิสาหกิจชุมชนก้าวไกล ด้วยเครื่องสีข้าวขนาดเล็กไทยทำ
      https://www.youtube.com/watch?v=8sNr_cEhHdg
    • พ.ศ. 2561 (มิ.ย.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน เรียนรู้วิทยาศาสตร์ของข้าวกับเยาวชนในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี
      https://www.youtube.com/watch?v=ZHmWw2M110g
    • พ.ศ. 2562 (ม.ค.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน พันธุ์ข้าวเหนียวหอมต้นเตี้ย น่าน 59 ตอบโจทย์เกษตรกร
      https://www.youtube.com/watch?v=YdEelwnwvA4
    • พ.ศ. 2563 (ธ.ค.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน ข้าวเหนียวหอมนาคา แข็งแรง ทนทาน สะเทินน้ำ สะเทินบก ให้ผลผลิตสูง
      https://www.youtube.com/watch?v=txEgVZRIVwk
    • พ.ศ. 2565 (ม.ค.) พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน ข้าวเจ้าหอมสยาม ต้านทานโรคไหม้ ผลผลิตสูง คุณภาพดี
      https://www.youtube.com/watch?v=_Bb11CqdFPQ

รายการ ว้าววิทย์ช่วยเศรษฐกิจชาติ

    • พ.ศ. 2559 (ก.ค.) ว้าววิทย์ช่วยเศรษฐกิจชาติ ตอน เครื่องสีข้าวขนาดเล็ก เพื่อชุมชนไทยเข้มแข็ง
      https://www.youtube.com/watch?v=KFOovZJfUak
    • พ.ศ. 2559 (พ.ย.) ว้าววิทย์ช่วยเศรษฐกิจชาติ ตอน ข้าวทนน้ำท่วม
      https://www.youtube.com/watch?v=ldKJEk6bgKk

รายการ ชาววิทย์ชิดชาวบ้าน

    • พ.ศ. 2559 (พ.ค.) รายการ ชาววิทย์ชิดชาวบ้าน ตอน ข้าวสร้างค่าย ค่ายสร้างคน
      https://www.youtube.com/watch?v=Pgn_3vIxYJA
    • พ.ศ. 2559 (มิ.ย.) ชาววิทย์ชิดชาวบ้าน ตอน ชุมชนเกษตรอินทรีย์ กับเทคโนโลยีเครื่องสีข้าวขนาดเล็ก
      https://www.youtube.com/watch?v=iAR7CSP3ZRE&t=17s
    • พ.ศ. 2559 (มิ.ย.) ชาววิทย์ชิดชาวบ้าน ตอน เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดีของชุมชน
      https://www.youtube.com/watch?v=B6IXi5c4f4w
    • พ.ศ. 2559 (ก.ค.) รายการ ชาววิทย์ชิดชาวบ้าน ตอน เทคโนโลยีการจัดการข้าวเพื่ออาชีพ
      https://www.youtube.com/watch?v=ctiu5l_S80Y
    • พ.ศ. 2559 (ก.ค.) ชาววิทย์ชิดชาวบ้าน ตอน แป้งข้าวทนย่อยต่อเอ็นไซม์ ป้องกันโรคร้ายในลำไส้
      https://www.youtube.com/watch?v=Yi2SrvI84l8

รายการ 1 นาที กับ BCG Model

สารคดีข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต

    • พ.ศ. 2557 (ต.ค.) ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 1 วิกฤตข้าวและชาวนาไทย
      https://www.youtube.com/watch?v=Dn1onOAXKUg
    • พ.ศ. 2557 (ต.ค.) ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 2 ความสุขยั่งยืนบนผืนดินเค็ม
      https://www.youtube.com/watch?v=ObaiRxWFBEI
    • พ.ศ. 2557 (ธ.ค.) ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 3 ข้าวไทย ปลูกได้แม้ภัยมา
      https://www.youtube.com/watch?v=pFY6fcRj2o0
    • พ.ศ. 2557 (ธ.ค.) ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 4 ข้าวไทย ไม่หวั่นโรคและแมลง
      https://www.youtube.com/watch?v=c1jYiNhC9mQ
    • พ.ศ. 2557 (ต.ค.) ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 5 กรุ่นกลิ่นหอม ข้าวหอมไทย
      https://www.youtube.com/watch?v=p8BT8fhe3v4
    • พ.ศ. 2557 ( ธ.ค.) ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 6 “ธัญโอสถ” กินข้าวเป็นยา
      https://www.youtube.com/watch?v=DomPFQKcAcg&t=41s
    • พ.ศ. 2557 (ต.ค.) รายการ ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 7 ข้าวไร่ เพื่อเกษตรกรไทยบนพื้นที่สูง
      https://www.youtube.com/watch?v=2QBQ2KH5rY0
    • พ.ศ. 2557 (ธ.ค.) ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 8 เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี
      https://www.youtube.com/watch?v=N9gja1WM4og
    • พ.ศ. 2557 (ต.ค.) ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 9 เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ปุ๋ย
      https://www.youtube.com/watch?v=7fLv4IW7eFU
    • พ.ศ. 2557 (ต.ค. ) ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 10 “ปุ๋ยสั่งตัด” ปฏิรูปการใช้ปุ๋ยของชาวนาไทย
      https://www.youtube.com/watch?v=768vzrczXnE
    • พ.ศ. 2557 (ต.ค.) ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 11 เทคโนโลยีเตือนภัย “เพลี้ยระบาด”
      https://www.youtube.com/watch?v=_PGjeHjEs4c
    • พ.ศ. 2557 (ต.ค.) ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 12 บิวเวอเรีย เชื้อรากำจัดเพลี้ย
      https://www.youtube.com/watch?v=qQmi1aGE2hY
    • พ.ศ. 2557 (ธ.ค.) ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 13 เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการสีข้าว
      https://www.youtube.com/watch?v=e0hZE0w-SMQ
    • พ.ศ. 2557 (ธ.ค.) ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 14 แปรข้าว ปรุงสุข
      https://www.youtube.com/watch?v=0TYMFELeyL8
    • พ.ศ. 2557 (ธ.ค.) ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 15 อนาคตข้าวไทย กับงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
      https://www.youtube.com/watch?v=azM7LFeZicA
    • พ.ศ. 2557 (ธ.ค.) ข้าวไทย วิจัยพ้นวิกฤต ตอนที่ 16 วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาข้าวไทย
      https://www.youtube.com/watch?v=V_9UylDqrEM

รายการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

รางวัลที่ได้รับ

  • รางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่น ประเภทกลุ่ม ประจำปี 2553 โดยหน่วยปฏิบัติการค้นหาและใช้ประโยชน์ยีนข้าว ซึ่งเป็นหน่วยวิจัยร่วมระหว่างไบโอเทคและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับรางวัลนี้จากผลงาน “เทคโนโลยีการเพิ่มกลิ่นหอม (2-acetyl-pyrroline) เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับปรุงพันธุ์ข้าวหอมและข้าวเหนียว”
  • รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ประเภทแผนธุรกิจเพื่อการขยายโอกาสสินค้าข้าว โดยบริษัท สยาม เนเชอรัล โปรดักซ์ จำกัด ซึ่งเป็นพันธมิตรของไบโอเทคในโครงการ FoodSERP ได้รับรางวัลนี้จากกองพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว กรมการข้าว โดยนำผลงานวิจัยและพัฒนาสารสกัด “ARAMARA” จากข้าวไปต่อยอดสู่โอกาสทางธุรกิจ

การถ่ายทอด/ต่อยอดเทคโนโลยี

มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีเรื่องข้าวไปยังหน่วยงานอื่นๆ หลายรูปแบบ ไปยังภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรม ดังนี้

  • การเผยแพร่พันธุ์ข้าวสู่เกษตรกร
    • พ.ศ. 2553 มีการพัฒนา “พันธุ์ข้าวหอมและข้าวเหนียว” ขึ้น เช่น ข้าวหอมชลสิทธิ์ ข้าวปิ่นเกษตร ข้าวสินเหล็ก และข้าวเหนียวหอม กข 6 ได้รับความนิยมและ นำไปปลูกจริงจากเกษตรกร โดยเฉพาะข้าวเหนียวหอม กข 6 ที่เกษตรกรส่วนใหญ่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือใช้เพาะปลูกประมาณ 80% ของพื้นที่
    • พ.ศ. 2564 “ข้าวหอมสยาม” ได้มีการทำงานร่วมกับเครือข่ายเกษตรกรของบริษัทบางซื่อโรงสีไฟเจียเม้ง จำกัด ในการนำพันธุ์ข้าวไปปลูกทดสอบในแปลงเกษตรกรในหลายจังหวัด และมีการขยายผลการปลูกทดสอบในภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 จังหวัด นอกจากนี้ เกษตรกรที่สนใจยังสามารถลงทะเบียนขอรับพันธุ์ข้าวได้
    • พ.ศ. 2566 “พันธุ์ข้าวรับโลกรวน” ที่ถูกจัดแสดงในงานเกษตรแฟร์กำแพงแสน ปี 2566 มีการเผยแพร่เพื่อการใช้ประโยชน์ทั้งในเชิงสาธารณะและเชิงพาณิชย์ เพื่อให้เกษตรกรนำไปปลูกเพื่อรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
  • การถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคนิคการผลิต
    • พ.ศ. 2554-2559 สนับสนุนการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงสีข้าว ตามยุทธศาสตร์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมข้าว (พ.ศ. 2554-2559) เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพโรงสีข้าว โดยมีการจัดฝึกอบรม เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรของโรงสีข้าว และ สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญในการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงสีข้าว
    • พ.ศ. 2568 ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการผลิตข้าวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนในพื้นที่ 5 อำเภอ ของจังหวัดพิจิตร
  • การต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์
    • พ.ศ. 2568 สารสกัด “ARAMARA” จากข้าวหอมมะลิอินทรีย์ซึ่งพัฒนาโดยไบโอเทค ได้รับการต่อยอดพัฒนาโดยบริษัท สยาม เนเชอรัล โปรดักซ์ จำกัด เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวภายใต้แบรนด์ “ดร.เอจจี้ (Dr. Agei)” สำหรับผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์

โครงการปรับปรุงพันธุ์ข้าวด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมบนฐานความรู้และภูมิปัญญา เพื่อรับมือกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก และเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก. ด้วยการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ (การพัฒนาพันธุ์) กลางน้ำ (การผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม) ไปจนถึงปลายน้ำ (การแปรรูปและสร้างมูลค่าเพิ่ม) โครงการนี้จึงสอดคล้องกับหลักการของโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Model) ซึ่งเป้าหมายสำคัญคือการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ยกระดับคุณภาพชีวิตและรายได้ของเกษตรกร พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทยในเวทีโลกอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมุ่งเน้นการพัฒนาขีดความสามารถของเกษตรกร ชุมชน และผู้ประกอบการ ผ่านการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงการพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัยและนักวิชาการ เพื่อขับเคลื่อนภาคเกษตรและอุตสาหกรรมให้ก้าวหน้าและตระหนักถึงบทบาทสำคัญของประเทศไทยในฐานะสังคมเกษตรกรรม

แหล่งข้อมูล

  1. BIOTEC-NSTDA. (2556, พฤศจิกายน 22). SMEs ชี้ช่องรวย ตอน การปรับปรุงพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 ทนน้ำท่วมฉับพลัน [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=Y22MtLxZL_E
  2. BIOTEC-NSTDA. (2556, พฤศจิกายน 22). ต่อลมหายใจพันธุ์ข้าวไทย [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=9iDlsbMTcYo
  3. NSTDAChannel TVstation. (2557, กุมภาพันธ์ 17). พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน การพัฒนาพันธุ์ข้าว [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=KG4NkYw5vhM
  4. NSTDAChannel TVstation. (2563, ธันวาคม 14). พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน ข้าวเหนียวหอมนาคา แข็งแรง ทนทาน สะเทินน้ำ สะเทินบก ให้ผลผลิตสูง [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=txEgVZRIVwk
  5. ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (2555, พฤศจิกายน 7). โครงการปรับปรุงพันธุ์ข้าวด้วยเทคโนโลยีชีวภาพได้รับรางวัลโครงการวิทยาศาสตร์สู่ความเป็นเลิศ. http://biotec.or.th/th/index.php/ข่าวสารองค์กรปี-2555/191-โครงการปรับปรุงพันธุ์ข้าวด้วยเทคโนโลยีชีวภาพได้รับรางวัลโครงการวิทยาศาสตร์สู่ความเป็นเลิศ
  6. ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (2559). รายงานประจำปี 2559. https://www.biotec.or.th/th/images/pdf/BIOTECAnnualReport59_Th.pdf
  7. ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (2560). รายงานประจำปี 2560. https://www.biotec.or.th/th/images/pdf/BT_annual_report_2560.pdf
  8. ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (2561). รายงานประจำปี 2561. https://www.biotec.or.th/th/images/annualreport/2561/BT%20annua%20report%202018.pdf
  9. ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (2562). รายงานประจำปี 2562. https://www.biotec.or.th/home/wp-content/uploads/2023/06/2562-annualBio_compressed.pdf
  10. ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (2563, สิงหาคม 10). ไบโอเทค นำข้าว 6 สายพันธุ์ ร่วมจัดแสดงในงาน “การประกวดข้าวเพื่อรองรับและส่งเสริมการส่งออกของตลาดข้าวโลก ประจำปี 2563”. https://www.biotec.or.th/home/%E0%B9%84%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84-%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7-6-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8/
  11. ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (2564, พฤศจิกายน 25). ไบโอเทค สวทช. พัฒนาพันธุ์ข้าวเจ้านาปี “หอมสยาม” ข้าวหอม ผลผลิตสูง คุณภาพดี ต้านทานโรคไหม้ หวังส่งออกตลาดต่างประเทศ. https://www.biotec.or.th/home/hom-siam/
  12. ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (2565). รายงานประจำปี 2564. https://www.biotec.or.th/home/wp-content/uploads/2022/09/annual_bio_64_ebook.pdf
  13. ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (2565). รายงานประจำปี 2565. https://www.biotec.or.th/home/wp-content/uploads/2023/09/annualBio_2565.pdf
  14. ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (2566). รายงานประจำปี 2566. https://www.biotec.or.th/home/wp-content/uploads/2024/09/Annual-Biotec_2566.pdf
  15. ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (2566, ธันวาคม 7). “พันธุ์ข้าวรับโลกรวน” โดยศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว และไบโอเทค สวทช. ร่วมอวดโฉมในงานเกษตรแฟร์กำแพงแสน 66 พร้อมเดินหน้าพัฒนาพันธุ์ข้าวลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก. https://www.biotec.or.th/home/rice-climate-change-kasetfairkps/
  16. ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (2567, พฤศจิกายน 14). ม.เกษตรฯ ร่วมกับ ไบโอเทค-สวทช. และ วช. ร่วมกับเครือข่าย Hub of Rice จัดประชุมนานาชาติ ICRF2024 เรื่องข้าวเพื่ออนาคต ย้ำบทบาทสำคัญงานวิจัยข้าว เพื่อความมั่นคงทางอาหารและส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืน. https://www.biotec.or.th/home/2024/11/14/
  17. ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (2568, มีนาคม 21). ไบโอเทค สวทช. ร่วม ธ.ก.ส.พิจิตร และสภาเกษตรจังหวัด นำนวัตกรรมข้าวไทยสู้โลกร้อน ส่งตรงถึงชาวนาพิจิตร พร้อมสร้างห่วงโซ่ความมั่นคง เชื่อมโยงตลาดผู้ปลูกสู่มือโรงสี. https://www.biotec.or.th/home/rice-innovation-roadshow-in-phichit/
  18. ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). ห้องปฏิบัติการค้นหาและใช้ประโยชน์ยีนข้าว. https://www.biotec.or.th/home/%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%8F%E0%B8%B4%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0/
  19. สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร. (2564). “ข้าวเหนียวธัญสิริน” ต้านทานโรคไหม้ หอมนุ่มนาน อีกทางเลือกของผู้ปลูกผู้บริโภค. https://www.nstda.or.th/agritec/thunyasirin/
  20. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2555, กันยายน). ยุทธศาสตร์วิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมข้าว. http://waa.inter.nstda.or.th/stks/pub/2012/20120917-strategic-rice-2011-2016.pdf
  21. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2555, พฤศจิกายน). การพัฒนาพันธุ์ข้าวและผลิตภัณฑ์จากข้าวเสริมธาตุเหล็ก. http://waa.inter.nstda.or.th/stks/pub/2012/20121203-43-development-rice-products-iron-supplementation-v2.pdf
  22. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2559, เมษายน 7). มทร.ล้านนา ผนึกกำลัง สวทช. ร่วมวิจัยและขยายผลสู่ชุมชน อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี. จดหมายข่าว สวทช. 2(1). https://www.nstda.or.th/home/news_post/nstda-newsletter-1y2-news11/
  23. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2559, ตุลาคม 28). การปรับปรุงพันธุ์ข้าว. https://www.nstda.or.th/th/r-and-d-impact/817-modify-rice
  24. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2561, พฤศจิกายน 12). ไบโอเทค สวทช. พัฒนาพันธุ์ข้าวเหนียวหอม ต้นเตี้ยทนการหักล้ม และต้านทานโรคไหม้และโรคขอบใบแห้ง “น่าน59” ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกร. https://www.nstda.or.th/home/news_post/20181112-biotec/
  25. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2563, พฤศจิกายน 16). ไบโอเทค สวทช. สร้างความเข้มแข็งชุมชนโดยถ่ายทอดข้าวเหนียว “พันธุ์หอมนาคา” สู่เกษตรกรโดยให้สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวเองตามเกณฑ์มาตรฐาน. https://www.nstda.or.th/home/news_post/hom-naka/
  26. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2564, มิถุนายน 9). จีโนมข้าว ตัวเร่งการพัฒนาพันธุ์ข้าวไทย. https://www.nstda.or.th/home/performance_post/rice-genome/
  27. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2564, กรกฎาคม 30). ขอเชิญร่วมงานประชุมวิชาการนานาชาติเรื่องข้าวเพื่ออนาคต (3rd International Conference on Rice for the Future). https://www.nstda.or.th/home/calendar_post/3rd-international-conference-on-rice-for-the-future-2024/
  28. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2565, สิงหาคม 25). “หอมสยาม” ข้าวหอมพื้นนุ่มพันธุ์ใหม่ ตอบโจทย์เกษตรกรไทย ถูกใจผู้บริโภค. https://www.nstda.or.th/home/news_post/sci-update-hom-siam/
  29. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2566, ธันวาคม 8). “พันธุ์ข้าวรับโลกรวน” โดยศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว และไบโอเทค สวทช. ร่วมอวดโฉมในงานเกษตรแฟร์กำแพงแสน 66 พร้อมเดินหน้าพัฒนาพันธุ์ข้าวลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก. https://www.nstda.or.th/home/news_post/pr-nstda-08122566/
  30. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2568, มีนาคม). นวัตกรรมพันธุ์ข้าวใหม่และการผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูง. https://www.nstda.or.th/nac/2025/exhibitions/bpe35/
  31. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2568, มีนาคม 26). “FoodSERP” ติดปีกอุตสาหกรรมความงาม เพิ่มมูลค่าข้าวไทยด้วยเทคโนโลยีการหมักแบบแม่นยำ สร้างนวัตกรรม “ส่วนผสมฟังก์ชัน” ผลักดันเวชสำอางไทยตอบโจทย์ตลาด. https://www.nstda.or.th/home/news_post/foodserp-in-nac2025-250326/
  32. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). งานวิจัยปรับปรุงพันธุ์ข้าว. https://www.biotec.or.th/home/%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8%E0%B9%8C/
  33. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). “FoodSERP” ติดปีกอุตสาหกรรมความงาม เพิ่มมูลค่าข้าวไทยด้วยเทคโนโลยีการหมักแบบแม่นยำ สร้างนวัตกรรม “ส่วนผสมฟังก์ชัน” ผลักดันเวชสำอางไทยตอบโจทย์ตลาด. https://www.biotec.or.th/home/foodserp-nac2025-th/
  34. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). ข้าวเหนียวพันธุ์ กข6 ต้นเตี้ย (TS2) มีลักษณะเด่นคือ ต้านทานโรคไหม้ ต้านทานโรคขอบใบแห้ง ลำต้นแข็งแรง ไม่หักล้มง่าย ต้นสูงปานกลาง มีผลผลิตข้าวแห้งเฉลี่ย 700-800 กิโลกรัม/ไร่. https://www.biotec.or.th/home/%E0%B9%84%E0%B8%9A%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84-%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7-6-%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%B8/
  35. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). การผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าว. https://www.nstda.or.th/agritec/rice-seed/
  36. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). Technology Licensing Office – view_news.php?id=3YESC0GaMfBUYxQB8FRbfQ==. https://www.nstda.or.th/tlo/view_news.php?id=3YESC0GaMfBUYxQB8FRbfQ==