Skip to content
NSTDA SPACE Education

NSTDA SPACE Education

โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์อวกาศ และสะเต็มสำหรับเยาวชนไทย โดย สวทช.

  • Home
  • About Us
  • Asian Try Zero-G
  • Kibo-RPC
  • AHiS
  • Space Ratchaphruek Tree
  • Parabolic Flight
  • Articles
  • Alumni
  • Contact us
  • Home
  • Hubble Cast
  • ไขปริศนาจักรวาลกับฮับเบิล ตอนที่ 1: กาแล็กซีดาวหาง (Comet Galaxy)
  • Hubble Cast

ไขปริศนาจักรวาลกับฮับเบิล ตอนที่ 1: กาแล็กซีดาวหาง (Comet Galaxy)

NSTDA SPACE Education 19/07/2020
กาแล็กซีมากมายในเอกภพปัจจุบันนี้ มีรูปร่างและขนาดแตกต่างกัน ครึ่งหนึ่งเป็นพวกมีกลุ่มก๊าซอยู่น้อย เป็นกาแล็กซีรูปทรงรี ซึ่งจะมีดาวฤกษ์เกิดใหม่ไม่มากนักขณะที่อีกครึ่งหนึ่ง เป็นพวกมีกลุ่มก๊าซจำนวนมาก คือกาแล็กซีรูปกังหัน และพวกไม่มีรูปร่าง พวกนี้จะมีดาวฤกษ์ที่กำลังเกิดใหม่อยู่มากมาย
 
จากการสังเกตพบว่า กาแล็กซีที่มีกลุ่มก๊าซน้อย ที่มีรูปทรงรี มักจะอยู่ใกล้ๆ กันบริเวณศูนย์กลาง อยู่ร่วมกันเป็นกระจุกกาแล็กซีมากมาย แต่กาแล็กซีรูปกังหันเกือบตลอดช่วงชีวิตของมันจะอยู่อย่างโดดเดี่ยว
 
อย่างไรก็ตาม เมื่อสังเกตลึกเข้าไปในเอกภพ คือไกลออกไปมากขึ้น จากเวลาตั้งแต่เอกภพเริ่มถือกำเนิดมาแค่ครึ่งทาง ก่อนจะถึงปัจจุบัน พบว่ามีความแตกต่างกัน
กลับไปในตอนนั้น มีกาแล็กซีรูปทรงรีหรือพวกที่มีก๊าซน้อย มีแค่ 1 ใน 10 ของปัจจุบันเท่านั้น จึงมีคำถามว่ากาแล็กซีรูปทรงรีที่มีก๊าซน้อยมีจำนวนมากขึ้นในปัจจุบัน มาจากไหน
 
มันน่าจะมีกระบวนการบางอย่างที่ทำให้กาแล็กซีเปลี่ยนรูปร่างได้ แต่เพราะวิวัฒนาการของกาแล็กซี ใช้เวลายาวนานมากกว่าพันล้านปี นักดาราศาสตร์จึงไม่สามารถเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงนี้ได้ง่ายๆ
 
มีการค้นพบใหม่จากกล้องฮับเบิล โดยทีมงานระดับนานาชาติ นำโดย ดร. Luca Cortese จากมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟ ในสหราชอาณาจักร เป็นภาพชัดเจนที่แสดงให้เห็นช่วงเวลาของการเปลี่ยนรูปร่างกาแล็กซี
 
 
ในช่วงที่สังเกตกระจุกกาแล็กซี Abell 2667 นักดาราศาสตร์ได้พบกาแล็กซีรูปกังหัน ที่อยู่ไกลออกไปมาก กำลังเคลื่อนที่อยู่ในกระจุกกาแล็กซีนั้น ด้วยความเร็วมากกว่า 3.5 ล้านกิโลเมตรต่อชั่วโมง
 
Abell 2667 มีสนามแรงโน้มถ่วงสูงมาก เพราะในกระจุกกาแล็กซีนี้มีมวลมหาศาลจากสสารมืด มวลก๊าซร้อน และกาแล็กซีอีกนับร้อย
ขณะที่กาแล็กซีกังหันเคลื่อนที่อยู่ในกระจุกกาแล็กซี ก๊าซและดาวฤกษ์ของมันจะถูกดึงออกไป โดยพลาสมาร้อนจัด ที่อยู่ในกระจุกกาแล็กซี อุณหภูมิสูง 10-100 ล้านองศา
 
กระบวนการที่ถูกดึง และแยกออกในรูปแบบนี้ คือผลมาจากแรงโน้มถ่วงของกระจุกกาแล็กซี คล้ายกับแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ที่ดึงและดันน้ำในมหาสมุทรบนโลก
 
กระบวนการนี้เกิดจากผลต่างแรงโน้มถ่วงหรือแรงไทดัล อาจเรียกว่า แรงดันที่ทำให้เกิดการแยกตัว ส่งผลให้เกิดลำก๊าซเป็นทางยาว คล้ายกับดาวหางในระบบสุริยะ
ดังนั้น นักวิทยาศาสตร์จึงตั้งฉายากาแล็กซีรูปกังหันที่เหมือนมีหางแบบนี้ว่า กาแล็กซีดาวหาง (Comet Galaxy)
 
เราพบว่า กาแล็กซีพิเศษนี้จะมีการเปลี่ยนรูปร่างตลอดเวลา ขณะเคลื่อนที่อยู่ในกระจุกกาแล็กซีนั้น และยังพบว่ากาแล็กซีรูปกังหันคือพวกที่มีก๊าซมาก เราเห็นลักษณะที่เป็นหางของดาวฤกษ์ โดยเฉพาะดาวฤกษ์ที่กำลังเกิดใหม่มากมาย คือรอบๆ ดาวฤกษ์เหล่านั้น มันจะมีก๊าซแยกตัวกระจายออกมา
 
ต่อจากนั้นดาวฤกษ์นับล้านเหล่านี้จะไร้อาณาจักรที่อยู่ เพราะมันแยกตัวออกจากกาแล็กซีเดิม กาแล็กซีเดิมจึงเข้าสู่ช่วงเต็มวัยเร็วขึ้น
 
แม้ว่ากาแล็กซีกังหันนี้จะมีมวลมากกว่ากาแล็กซีทางช้างเผือกเล็กน้อย แต่มันสูญเสียฝุ่นและก๊าซออกไปมากมายตลอดเวลา ซึ่งจะไปก่อตัวเป็นดาวฤกษ์ในที่ใหม่ต่อไป
ดังนั้น จากที่เคยเป็นกาแล็กซีที่มีก๊าซมาก มันจะค่อยๆ กลายมาเป็นพวกที่มีก๊าซน้อย และมีดาวฤกษ์สีแดงอายุมากหลงเหลืออยู่ด้วย
อย่างไรก็ตาม ฝุ่นก๊าซที่กระจายออกไปนี้ แรงโน้มถ่วงมหาศาลของกระจุกกาแล็กซีจะทำให้มีการก่อตัวของดาวฤกษ์ดวงใหม่ๆ ขึ้น
 
 
จากการที่ Abell 2667 มีมวลมหาศาล ทำให้กล้องฮับเบิลสามารถจับภาพที่น่าตื่นตาได้เพิ่มเติม โดยแถบโค้งสีฟ้าขนาดยักษ์เห็นได้เฉพาะบริเวณศูนย์กลางกระจุกกาแล็กซี เป็นภาพขยายที่ดูบิดเบี้ยวของกาแล็กซีเบื้องหลังที่อยู่ไกลๆ มองเห็นผ่านเลนส์สนามแรงโน้มถ่วงที่เกิดจากมวลมหาศาลของกระจุกกาแล็กซีนี้
 
ตรงศูนย์กลางของกระจุกกาแล็กซี มีภาพที่หาดูได้ยากมาก แถบแสงสีฟ้าจากดาวฤกษ์เกิดใหม่นับล้าน ถือเป็นแถบแสงพิเศษสุด เพราะก๊าซร้อนบางแห่ง มีโครงสร้างของสายโยงใยสีฟ้าพุ่งเข้าสู่ใจกลางกระจุกกาแล็กซี เป็นแหล่งที่ดาวฤกษ์กำลังเกิดใหม่มีสีฟ้าส่องแสงออกมามากมาย มันอาจเป็นภาพที่ชัดเจนที่สุดของปรากฏการณ์นี้
 
เมื่อรวมภาพจากคลื่นแสงที่มองเห็น อินฟราเรด เอกซเรย์ ทั้งภาพจากกล้องฮับเบิล สปิทเซอร์ จันทรา กล้องพิเศษบนโลกและกล้องเค้ก เราพบสิ่งใหม่ๆ เพิ่มเสริมเติมแต่งมากขึ้นตลอดเวลา จากกาแล็กซีที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงรูปร่างโดยเกิดจากปฏิกิริยาที่รุนแรงในกระจุกกาแล็กซีนั้น
 
สิ่งใหม่ๆ ที่จะค้นพบในอนาคต คือความรู้ใหม่ที่ส่องแสงอยู่ในภาพนั้น เป็นภาพจากธรรมชาติที่เกิดขึ้นแต่ก็ซ่อนความมหัศจรรย์ไว้มากมาย
 

แปลและเรียบเรียง
อ.สิทธิชัย จันทรศิลปิน

  • FacebookFacebook
  • XX
  • LINELine

Related

Tags: Abell 2667 Comet Galaxy Hubblecast กาแล็กซี Abell 2667 กาแล็กซีดาวหาง

Continue Reading

Previous: 10 ศูนย์วิจัยหลักของ NASA
Next: ดาวเทียมสำรวจโฮปของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มุ่งสู่ดาวอังคารโดยใช้จรวด H2-A ญี่ปุ่น

Related Stories

ไขปริศนาจักรวาลกับฮับเบิล ตอนที่ 37: แหล่งกำเนิดดาวฤกษ์มวลมหาศาล
  • Hubble Cast

ไขปริศนาจักรวาลกับฮับเบิล ตอนที่ 37: แหล่งกำเนิดดาวฤกษ์มวลมหาศาล

02/02/2021
ไขปริศนาจักรวาลกับฮับเบิล ตอนที่ 35: ตำนานของกล้องฮับเบิล
  • Hubble Cast

ไขปริศนาจักรวาลกับฮับเบิล ตอนที่ 35: ตำนานของกล้องฮับเบิล

06/01/2021
ไขปริศนาจักรวาลกับฮับเบิล ตอนที่ 34: กาแล็กซีขนาดใหญ่ใน Leo Triplet
  • Hubble Cast

ไขปริศนาจักรวาลกับฮับเบิล ตอนที่ 34: กาแล็กซีขนาดใหญ่ใน Leo Triplet

03/01/2021

You may have missed

เรื่องเล่าจากญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์ทีม Astronut แชมป์นานาชาติ The 5th Kibo-RPC
  • Kibo-RPC

เรื่องเล่าจากญี่ปุ่น เปิดประสบการณ์ทีม Astronut แชมป์นานาชาติ The 5th Kibo-RPC

17/04/2025
JAXA ประกาศเลือก 2 การทดลองเยาวชนไทย เตรียมทดลองบนสถานีอวกาศนานาชาติ
  • Asian Try Zero-G

JAXA ประกาศเลือก 2 การทดลองเยาวชนไทย เตรียมทดลองบนสถานีอวกาศนานาชาติ

16/04/2025
รายชื่อทีมสมัครเข้าร่วมโครงการ The 6th Kibo-RPC
  • Kibo-RPC

รายชื่อทีมสมัครเข้าร่วมโครงการ The 6th Kibo-RPC

14/04/2025
โครงการ The 6th Kibo Robot Programming Challenge
  • Kibo-RPC

โครงการ The 6th Kibo Robot Programming Challenge

04/03/2025
NSTDA SPACE Education Copyright © All rights reserved. | DarkNews by AF themes.
เว็บไซต์นี้ใช้งานคุกกี้ ในการใช้งานสามารถใช้งานเว็บไซต์อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ เว็บไซต์นี้จะมีเก็บค่าคุกกี้ เพื่อให้การใช้งานเว็บไซต์ของท่านเป็นไปอย่างความราบรื่นและเป็นส่วนตัวมากขึ้น จึงขอให้ท่านรับรองว่าท่านได้อ่านและทำความเข้าใจนโยบายการใช้งานคุกกี้AcceptPrivacy policy