เมื่อ พ.ศ. 2544 สวทช. โดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พัฒนาเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาคุณภาพผักและผลไม้สดไทย และได้พัฒนาสูตรฟิล์ม ActivePAK ถุงหายใจได้ ซึ่งต่อมาได้มีการยื่นจดสิทธิบัตรใน พ.ศ. 2548 และต่อมาใน พ.ศ. 2549 ได้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้สิทธิแก่เอกชนเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์
ActivePAK และ ActivePAK Ultra https://www.nstda.or.th/archives/activepak-activepak-ultra/
ActivePAK คือ บรรจุภัณฑ์พลาสติก เป็นบรรจุภัณฑ์ที่สามารถควบคุมการผ่านของก๊าซและไอน้ำ ผักผลไม้ได้อย่างสมดุล โดย ActivePAK จะปล่อยก๊าซออกซิเจน (O2) และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ไหลผ่านเข้าถุงในระดับพอดี ทำให้ผักผลไม้อยู่ในถุงสดใหม่ได้นานขึ้น ActivePAK เนื้อพลาสติกออกแบบมาให้ O2 ไหลผ่านได้ 2-10% และ CO2 สามารถไหลผ่านได้ 5-15% จึงสามารถเก็บรักษาผัก ผลไม้สดได้นานมากขึ้น แต่รสชาติเหมือนเดิม ผลไม้ที่เก็บไว้ในถุง ActivePAK สามารถยืดอายุความสดได้สูงสุด 2-5 เท่าจากถุงพลาสติกทั่วไป โดยเก็บได้นาน 7-8 วัน หลักการทำงานของบรรจุภัณฑ์นี้ เรียกว่า มลภาวะรักษาความสด (fresh-care condition) โดยผ่านเทคโนโลยีการสร้างบรรยากาศดัดแปลงแบบสมดุล (Equilibrium Modified Atmosphere หรือ EMA) ทำให้รักษาความสด คงคุณค่าของผักผลไม้ ภายใต้ความเย็นที่เหมาะสม และการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวที่ถูกต้อง นอกจากการช่วยยืดอายุผักผลไม้แล้ว ถุง ActivePAK ยังมีความหนาและใส เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อได้ง่าย
ActivePAK ช่วยรักษาความสดของผักผลไม้คงค่าสารอาหาร ลดปริมาณผักสดที่เน่าเสียเมื่อเก็บต่อที่บ้าน สามารถช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมเพราะถุงสามารถใช้ซ้ำต่อได้ที่บ้าน และมีความปลอดภัยใช้กับอาหาร ผ่านมาตรฐาน มอก. 656-2556 พลาสติกสัมผัสอาหาร
ปัจจุบันได้มีการนำ ActivePAK มาใช้ในซูเปอร์มาร์เกต เช่น ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ภายใต้แบรนด์มายช้อยส์ บริษัท เซ็นทรัลเวิลด์ไวด์ล จำกัด บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) และ บริษัททานตะวัน ActivePAK ใช้เก็บผักผลไม้ เช่น คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง กระเพรา ผักสลัด โหระพา ผักชี คื่นช่าย บล็อกโคลี พริกขี้หนู พริกหวาน กล้วยไข่ เงาะ สตรอเบอรี่ ลิ้นจี่ และลำไยตัดขั้ว
ActivePAK Ultra (แอคทีพแพ็ค อัลตร้า) โดย เอ็มเทค สวทช. ได้ร่วมกับ มูลนิธิโครงการหลวง พัฒนาขึ้นต่อจาก ActivePAK ถุงหายใจได้ เน้นไปที่ผลิตผลสดที่มีอัตราการหายใจสูง เช่น หน่อไม้ฝรั่ง และเห็ด สามารถยืดอายุความสดได้นาน 2-5 เท่า เช่น เห็ดหอมสดให้สดยาวนานได้ถึง 9 วัน ที่อุณหภูมิ 4-8 องศาเซลเซียส แทนการใช้ถาดพลาสติกเจาะรูที่เก็บเห็ดหอมได้เพียง 3 วัน ActivePAK Ultra จัดเก็บเห็ดหอม ได้นาน 9 วัน หน่อไม้ฝรั่ง ได้นาน 7 วัน และ มะนาว ได้นานถึง 42 วัน
พัฒนาการของเทคโนโลยี ActivePAK และ ActivePAK Ultra
การพัฒนาเทคโนโลยี ActivePAK และ ActivePAK Ultra เป็นผลลัพธ์ของการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ สวทช. และเอ็มเทค โดยมีเหตุการณ์สำคัญและปีที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
พ.ศ. 2544
โครงการ ActivePAK มีจุดเริ่มต้นที่สำคัญใน พ.ศ. 2544 เมื่อสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ได้ริเริ่มความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ที่มีเป้าหมายในการยืดอายุการเก็บรักษาคุณภาพของผักผลไม้สดของไทย การเริ่มต้นโครงการด้วยการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานวิจัยภาครัฐที่มีความเชี่ยวชาญด้านวัสดุศาสตร์และวิศวกรรม (เอ็มเทค) กับสถาบันการศึกษาที่มีความรู้เชิงลึกด้านการเกษตรและสรีรวิทยาหลังการเก็บเกี่ยว (มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการวิจัยและพัฒนาที่เน้นการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนของประเทศอย่างเป็นระบบและครบวงจร การผสานความเชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขาวิชาเช่นนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริงในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมอาหาร
พ.ศ. 2548
หลังจากเริ่มต้นโครงการได้ 4 ปี ใน พ.ศ. 2548 ได้มีการยื่นจดสิทธิบัตรสำหรับฟิล์ม ActivePAK หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ถุงหายใจได้” หมายเลขคำขอสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องคือ 0501004539 การดำเนินการยื่นจดสิทธิบัตรตั้งแต่ช่วงต้นของการพัฒนาเทคโนโลยีเช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความตระหนักของทีมวิจัยและหน่วยงานในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาของนวัตกรรม การดำเนินการด้านทรัพย์สินทางปัญญาตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ในอนาคต
พ.ศ. 2549
เพียงหนึ่งปีหลังจากการยื่นจดสิทธิบัตร ActivePAK และห้าปีนับตั้งแต่การเริ่มต้นโครงการ มีการถ่ายทอดเทคโนโลยี ActivePAK ให้สิทธิแก่ภาคเอกชนเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ผู้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีรายแรกคือ บริษัท เซ็นทรัลเวิลด์ไวด์ล จำกัด. การเปลี่ยนผ่านจากงานวิจัยสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์อย่างรวดเร็วเช่นนี้ บ่งชี้ถึงความพร้อมทางเทคนิคของ ActivePAK และความต้องการของตลาดที่ชัดเจน การที่เทคโนโลยีได้รับการยอมรับและนำไปใช้โดยผู้ประกอบการรายใหญ่ในอุตสาหกรรมค้าปลีกและบรรจุภัณฑ์ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จในการนำผลงานวิจัยไปสู่การสร้างมูลค่าในภาคอุตสาหกรรม
พ.ศ. 2553
พ.ศ. 2553 ซึ่งเป็นเวลาหลายปีหลังจาก ActivePAK เริ่มเข้าสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ ทีมวิจัยได้พัฒนาและยื่นคำขอสิทธิบัตรการประดิษฐ์ที่เกี่ยวข้องกับ ActivePAK Ultra เพิ่มเติมอีกสองฉบับ โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความซับซ้อนและเฉพาะทางมากยิ่งขึ้น. สิทธิบัตรดังกล่าวประกอบด้วย
- “แผ่นฟิล์มบางและใสและกระบวนการผลิตแผ่นฟิล์มดังกล่าวด้วยการดึงยืดสองทิศทาง” เลขที่คำขอ 1001001007 ยื่นเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
- “กรรมวิธีการผลิตเมมเบรนรูพรุนโพลิโพรพิลีนที่มีสมบัติการคัดเลือกผ่านสำหรับก๊าซหรือของเหลว” เลขที่คำขอ 1001001483 ยื่นเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553
การยื่นสิทธิบัตรเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการต่อยอดนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นการวิจัยเชิงลึกในด้านวัสดุศาสตร์และกระบวนการผลิตขั้นสูง เพื่อควบคุมคุณสมบัติการเลือกผ่านของฟิล์มได้อย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการจัดการการหายใจของผลิตผลสดที่มีอัตราสูง ActivePAK Ultra จึงไม่ใช่เพียงการปรับปรุงเล็กน้อย แต่เป็นการพัฒนาที่สำคัญในด้านเทคโนโลยีวัสดุและกระบวนการผลิต
พ.ศ. 2560
ใน พ.ศ. 2560 สวทช. ได้เผยแพร่วิดีโอประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับ ActivePAK และ ActivePAK Ultra ผ่านช่อง NSTDAChannel TVstation เพื่อสื่อสารผลงานวิจัยสู่สาธารณะและภาคอุตสาหกรรมในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย วิดีโอที่เผยแพร่ ได้แก่
- “1 นาที กับ BCG Model ตอน ฟิล์มบรรจุภัณฑ์ ActivePAK”
- “ว้าววิทย์ช่วยเศรษฐกิจชาติ ตอน เห็ดหอมสดอร่อยยาวนานขึ้นด้วยบรรจุภัณฑ์ ActivePAK Ultra”
การผลิตวิดีโอที่มีเนื้อหาเชื่อมโยงกับ “BCG Model” (เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว) และการเน้นถึงบทบาทของเทคโนโลยีในการขับเคลื่อน “เศรษฐกิจชาติ” แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การสื่อสารเชิงรุกของ สวทช. ที่มุ่งเน้นการจัดวางตำแหน่งนวัตกรรมให้สอดคล้องกับวาระและนโยบายการพัฒนาประเทศ การสื่อสารในลักษณะนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเผยแพร่ข้อมูลทางเทคนิค แต่ยังช่วยสร้างการรับรู้ในวงกว้างและส่งเสริมการนำเทคโนโลยีไปใช้ประโยชน์ในระดับประเทศ
พ.ศ. 2563
พ.ศ. 2563 มีการตีพิมพ์เอกสารชื่อ “ผลงานวิจัย สวทช. สู่เชิงพาณิชย์” ซึ่งกล่าวถึงความสำเร็จของบรรจุภัณฑ์ ActivePAK และบทบาทของนักวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ ดร.วรรณี ฉินศิริกุล และคณะ จากเอ็มเทค รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับบริษัท เซ็นทรัลเวิลด์ไวด์ล จำกัด การตีพิมพ์รายงานที่เน้นการนำผลงานวิจัยไปสู่เชิงพาณิชย์เช่นนี้ เป็นการยืนยันถึงความสำเร็จในการถ่ายทอดเทคโนโลยี ActivePAK และเป็นการบันทึกผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมของการลงทุนวิจัยและพัฒนาของภาครัฐ รายงานนี้ทำหน้าที่เป็นหลักฐานแสดงความรับผิดชอบและสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับการนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์จริง
พ.ศ. 2564
วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 มีการจดอนุสิทธิบัตรเลขที่ 17790 ซึ่งครอบคลุมโครงการ ActivePAK และ ActivePAK Ultra. การจดอนุสิทธิบัตรเพิ่มเติมนี้ หลังจากที่มีการยื่นสิทธิบัตรหลักไปแล้วหลายปี (พ.ศ. 2548 และ 2553) แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาที่ครอบคลุมและต่อเนื่อง อนุสิทธิบัตรมักใช้เพื่อคุ้มครองการปรับปรุงเล็กน้อยหรือการประยุกต์ใช้เฉพาะทางของเทคโนโลยี ซึ่งบ่งชี้ถึงการพัฒนาและปรับปรุงนวัตกรรมอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อรักษาความได้เปรียบทางการแข่งขันและเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินทางปัญญาที่มีอยู่
พ.ศ. 2565
แม้จะมีการพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง ActivePAK และ ActivePAK Ultra ยังคงถูกนำเสนอในบริบทของ “1 นาที กับ BCG Model” ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2565 การที่เทคโนโลยีเหล่านี้ยังคงถูกเน้นย้ำภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ชาติ BCG Model ตอกย้ำถึงความสำคัญและความสอดคล้องของนวัตกรรมนี้กับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของชาติ
ตารางลำดับเวลาการพัฒนา ActivePAK และ ActivePAK Ultra
ปี (พ.ศ.) | เหตุการณ์/เหตุการณ์สำคัญ | รายละเอียด | ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง |
2544 | จุดเริ่มต้นความร่วมมือ | สวทช. (เอ็มเทค) ร่วมมือกับ ม.เกษตรศาสตร์ พัฒนาบรรจุภัณฑ์ยืดอายุผลิตผลสด | ActivePAK |
2548 | ยื่นจดสิทธิบัตร | ยื่นจดสิทธิบัตรฟิล์ม ActivePAK (ถุงหายใจได้) เลขที่คำขอ 0501004539 | ActivePAK |
2549 | ถ่ายทอดเทคโนโลยีเชิงพาณิชย์ | ถ่ายทอดเทคโนโลยี ActivePAK ให้ บจก. เซ็นทรัลเวิลด์ไวด์ล | ActivePAK |
2553 | ยื่นคำขอสิทธิบัตร | ยื่น 2 คำขอสิทธิบัตรเกี่ยวกับฟิล์มและกรรมวิธีการผลิตเมมเบรนรูพรุน | ActivePAK Ultra |
2560 | เผยแพร่วิดีโอประชาสัมพันธ์ | วิดีโอ “1 นาที กับ BCG Model” และ “ว้าววิทย์ช่วยเศรษฐกิจชาติ” | ActivePAK, ActivePAK Ultra |
2563 | ตีพิมพ์ผลงานวิจัยเชิงพาณิชย์ | รายงาน “ผลงานวิจัย สวทช. สู่เชิงพาณิชย์” กล่าวถึง ActivePAK | ActivePAK |
2564 | จดอนุสิทธิบัตร | อนุสิทธิบัตรเลขที่ 17790 ครอบคลุมโครงการ ActivePAK และ ActivePAK Ultra | ActivePAK, ActivePAK Ultra |
2565 | กล่าวถึงในบริบท BCG Model | ActivePAK และ ActivePAK Ultra ยังคงถูกนำเสนอใน “1 นาที กับ BCG Model” | ActivePAK, ActivePAK Ultra |
รายละเอียดเทคโนโลยี ActivePAK
ที่มาและแนวคิด
ActivePAK หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ถุงหายใจได้” เป็นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่พัฒนาขึ้นโดยนักวิจัยไทยภายใต้ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. แนวคิดหลักของการพัฒนานี้คือการแก้ไขปัญหาอายุการเก็บรักษาที่สั้นของผักผลไม้สดเมื่อบรรจุในถุงพลาสติกทั่วไป ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในซูเปอร์มาร์เก็ตและตลอดห่วงโซ่อุปทานของผลิตผลสด
จุดเด่นและคุณสมบัติ
ActivePAK มีคุณสมบัติเด่นที่สำคัญหลายประการที่ช่วยยืดอายุความสดของผลิตผล:
- เทคโนโลยี Equilibrium Modified Atmosphere (EMA): ActivePAK พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยีควบคุมการผ่านของก๊าซและไอน้ำ หรือ Equilibrium Atmosphere (EMA) ซึ่งเป็นกลไกหลักในการรักษาสมดุลของบรรยากาศภายในถุง การออกแบบฟิล์มบรรจุภัณฑ์นี้ช่วยให้ก๊าซออกซิเจน (O2) สามารถผ่านเข้าออกถุงได้ในระดับ 2-10% และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) สามารถผ่านได้ในระดับ 5-15% ซึ่งเป็นสภาวะที่เหมาะสมในการชะลอการหายใจของผักผลไม้ ทำให้คงความสดได้นานขึ้น
- การยืดอายุความสด: ด้วยการควบคุมบรรยากาศภายในถุง ActivePAK สามารถยืดอายุความสดของผักผลไม้ได้นานขึ้น 2-5 เท่า เมื่อเทียบกับการเก็บในถุงพลาสติกทั่วไป โดยสามารถคงความสดได้นานถึง 7-8 วัน
- คงคุณภาพและรสชาติ: นอกจากจะช่วยยืดอายุแล้ว ActivePAK ยังช่วยรักษาคุณภาพและรสชาติของผลิตผลให้คงความดีไว้ได้ตลอดระยะเวลาการเก็บรักษา
- ความหนาและความใส: ถุง ActivePAK มีความหนาและใส ทำให้ผู้บริโภคสามารถมองเห็นผลิตภัณฑ์ภายในได้อย่างชัดเจน ซึ่งช่วยให้การเลือกซื้อทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ActivePAK ยังมีสารลดการเกิดฝ้า ทำให้ถุงมีความใสตลอดระยะเวลาการใช้งาน
- ความปลอดภัยและมาตรฐาน: ActivePAK มีความปลอดภัยในการใช้กับอาหาร และได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. 656-2556 สำหรับพลาสติกสัมผัสอาหาร. การที่ผลิตภัณฑ์ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับประเทศเช่นนี้ เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ยืนยันถึงความปลอดภัยในการใช้งานและสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เทคโนโลยีนี้สามารถนำไปใช้งานเชิงพาณิชย์ในวงกว้าง
- ประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม: เทคโนโลยีนี้ช่วยลดปริมาณผักสดที่เน่าเสียเมื่อเก็บต่อที่บ้าน ซึ่งเป็นการลดปัญหาขยะอาหาร นอกจากนี้ ถุง ActivePAK ยังสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การประยุกต์ใช้งานและกลุ่มผู้ใช้งาน
ActivePAK ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการเก็บรักษาผักผลไม้หลากหลายชนิดที่จำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตและตลาดสด ตัวอย่างของผลิตผลที่สามารถเก็บรักษาได้แก่ คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้ง กระเพรา ผักสลัด โหระพา ผักชี คื่นช่าย บล็อกโคลี พริกขี้หนู พริกหวาน กล้วยไข่ เงาะ สตรอเบอรี่ ลิ้นจี่ และลำไยตัดขั้ว
ปัจจุบัน ActivePAK ได้ถูกนำไปใช้ในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำหลายแห่ง เช่น ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ภายใต้แบรนด์มายช้อยส์ ผู้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีและการใช้งานเชิงพาณิชย์ที่สำคัญ ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัลเวิลด์ไวด์ล จำกัด, บริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) และ บริษัททานตะวัน การที่เทคโนโลยีนี้ได้รับการยอมรับและนำไปใช้โดยบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์และค้าปลีก แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการแทรกซึมเข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานของผลิตผลสด และสร้างผลกระทบในวงกว้างต่อการลดขยะอาหารและการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำผลงานวิจัยไปสู่การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างแท้จริง
การทดสอบผลิตภัณฑ์และมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
ข้อมูลที่มีอยู่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับการทดสอบผลิตภัณฑ์ ActivePAK โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การกล่าวถึงประสิทธิภาพในการยืดอายุความสดของผลิตผลและระยะเวลาการเก็บรักษาที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน บ่งชี้ว่ามีการทดสอบประสิทธิภาพภายใต้สภาวะควบคุมอย่างเพียงพอเพื่อให้ได้ข้อมูลดังกล่าว นอกจากนี้ การที่ ActivePAK ผ่านมาตรฐาน มอก. 656-2556 สำหรับพลาสติกสัมผัสอาหาร ยืนยันถึงความปลอดภัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์สำหรับการใช้งานจริงในอุตสาหกรรมอาหาร
ต้นแบบผลิตภัณฑ์
แม้ว่าข้อมูลโดยตรงเกี่ยวกับ “ต้นแบบผลิตภัณฑ์” ในลักษณะของตัวอย่างทางกายภาพจะไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนในแหล่งข้อมูลที่จำกัด แต่การที่ ActivePAK ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์อย่างแพร่หลายในรูปแบบของ “ฟิล์มบรรจุภัณฑ์” และ “ถุงหายใจได้” แสดงให้เห็นว่าการพัฒนาได้ก้าวข้ามขั้นตอนของต้นแบบไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่พร้อมสำหรับการผลิตในระดับอุตสาหกรรมแล้ว
การถ่ายทอดเทคโนโลยีและความร่วมมือเชิงพาณิชย์
ActivePAK ถูกถ่ายทอดเทคโนโลยีให้สิทธิแก่ภาคเอกชนเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 บริษัท เซ็นทรัลเวิลด์ไวด์ล จำกัด เป็นผู้รับถ่ายทอดเทคโนโลยีรายแรก นอกจากนี้ ยังมีการนำไปใช้ในซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ เช่น ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ภายใต้แบรนด์มายช้อยส์ และยังมีการใช้งานโดยบริษัท ทีพีบีไอ จำกัด (มหาชน) และ บริษัททานตะวัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ ความร่วมมือกับผู้ประกอบการชั้นนำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการนำงานวิจัยไปสู่การใช้งานจริงในตลาด และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่งในห่วงโซ่อุปทานของผลิตผลสด
รายละเอียดเทคโนโลยี ActivePAK Ultra
ที่มาและแนวคิด (การต่อยอดจาก ActivePAK)
ActivePAK Ultra เป็นการพัฒนาต่อยอดที่สำคัญจากเทคโนโลยี ActivePAK โดยมีเป้าหมายเฉพาะสำหรับผักผลไม้ที่มีอัตราการหายใจสูงและเน่าเสียง่ายเป็นพิเศษ เช่น หน่อไม้ฝรั่งและเห็ดหอม ความท้าทายหลักสำหรับผลิตผลเหล่านี้คืออัตราการเสื่อมสภาพที่รวดเร็วและการสูญเสียน้ำหนักอย่างมากตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่ฟาร์มจนถึงผู้บริโภค. ActivePAK Ultra จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะนี้ โดยมุ่งเน้นการควบคุมบรรยากาศที่แม่นยำยิ่งขึ้นเพื่อยืดอายุการเก็บรักษาของผลิตผลกลุ่มนี้
จุดเด่นและคุณสมบัติ
ActivePAK Ultra สร้างสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการเก็บรักษาผลิตผลที่มีอัตราการหายใจสูง
- เทคโนโลยี Equilibrium Modified Atmosphere (EMA) ที่ปรับปรุง: ActivePAK Ultra ยังคงใช้หลักการของเทคโนโลยีบรรยากาศดัดแปลงแบบสมดุล (EMA) แต่มีการปรับปรุงให้สามารถสร้างและรักษาสมดุลของก๊าซออกซิเจน (O2) และคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ให้อยู่ในช่วง 5-15% ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสมในการลดอัตราการหายใจของผลิตผลกลุ่มที่มีความต้องการเฉพาะ
- ลดอัตราการหายใจ: การควบคุมบรรยากาศภายในถุงอย่างแม่นยำช่วยลดอัตราการหายใจของผลิตผลสดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการชะลอการเสื่อมสภาพ
- ยืดอายุความสด: ActivePAK Ultra สามารถยืดอายุความสดและอายุการเก็บรักษาของผักที่มีอัตราการหายใจสูงได้นานขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเก็บรักษาที่อุณหภูมิ 4-8 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเก็บรักษาผลิตผลสดส่วนใหญ่
การประยุกต์ใช้งานและกลุ่มผู้ใช้งาน
ActivePAK Ultra เน้นการใช้งานสำหรับผลิตผลสดที่มีอัตราการหายใจสูงและเน่าเสียง่าย เช่น เห็ดหอมและหน่อไม้ฝรั่ง ซึ่งเป็นผลิตผลที่มีมูลค่าสูงและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ กลุ่มผู้ได้รับประโยชน์จากการใช้ ActivePAK Ultra ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่า ได้แก่ เกษตรกรผู้เพาะปลูก ผู้บรรจุและส่งออกผลิตผล ผู้บริโภคที่ต้องการผลิตผลสดใหม่ และซูเปอร์มาร์เก็ตที่ต้องการลดการสูญเสียสินค้าและรักษาคุณภาพของผลิตผลที่วางจำหน่าย
การทดสอบผลิตภัณฑ์
ข้อมูลที่มีอยู่ไม่ได้ระบุรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับ “การทดสอบผลิตภัณฑ์” ActivePAK Ultra โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การระบุประสิทธิภาพที่ชัดเจนว่าสามารถ “ยืดอายุได้นานขึ้นถึง 3 เท่า ที่อุณหภูมิ 4-8 องศาเซลเซียส” บ่งชี้ว่ามีการทดสอบประสิทธิภาพอย่างเป็นระบบภายใต้สภาวะควบคุมที่จำลองสภาพการเก็บรักษาจริง เพื่อยืนยันคุณสมบัติและประโยชน์ของผลิตภัณฑ์
ต้นแบบผลิตภัณฑ์
เช่นเดียวกับ ActivePAK ข้อมูลโดยตรงเกี่ยวกับ “ต้นแบบผลิตภัณฑ์” ในลักษณะ physical prototype สำหรับ ActivePAK Ultra ไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนในแหล่งข้อมูลที่จำกัด แต่การที่เทคโนโลยีนี้มีสถานะ “พร้อมสำหรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี” (Ready for technology transfer) บ่งชี้ว่าการพัฒนาได้ก้าวข้ามขั้นตอนของต้นแบบไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปผลิตในเชิงอุตสาหกรรมได้แล้ว
สถานะปัจจุบัน
ActivePAK Ultra มีสถานะ “พร้อมสำหรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี” (Ready for technology transfer) สถานะนี้บ่งชี้ว่าเทคโนโลยีได้ผ่านกระบวนการวิจัยและพัฒนาที่จำเป็น รวมถึงการทดสอบและตรวจสอบความถูกต้อง จนถึงจุดที่สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้แล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมอาหารในการนำนวัตกรรมนี้ไปใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ลดการสูญเสีย และเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตผล โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผลิตผลที่มีมูลค่าสูงแต่เน่าเสียง่าย
หน่วยงานร่วมวิจัยและความร่วมมือ
นักวิจัยหลักของโครงการ ActivePAK Ultra ได้แก่ ดร.นพดล เกิดดอนแฝก ในฐานะหัวหน้าโครงการ และ ดร.วรรณี ฉินศิริกุล ในฐานะที่ปรึกษาโครงการ นอกจากนี้ ยังมีนายเชาวน์ ศรีเพชรดี และนางสาวอัจฉราพร อ้นที เป็นผู้ช่วยนักวิจัย. ข้อมูลเกี่ยวกับความร่วมมือ (MOU) หรือหน่วยงานร่วมวิจัยเฉพาะสำหรับ ActivePAK Ultra นอกเหนือจากเอ็มเทคและมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (ซึ่งเป็นความร่วมมือเริ่มต้นของ ActivePAK) ไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนในแหล่งข้อมูลที่จำกัด
แผนงานวิจัยในอนาคต
ข้อมูลโดยตรงเกี่ยวกับ “แผนงานวิจัยในอนาคต” สำหรับ ActivePAK Ultra ไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนในแหล่งข้อมูลที่จำกัด อย่างไรก็ตาม การที่เทคโนโลยีมีสถานะพร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีและมีการจดอนุสิทธิบัตรเพิ่มเติมแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการต่อยอดและพัฒนาต่อไปในอนาคต
ตารางที่ 2 เปรียบเทียบคุณสมบัติหลักและการประยุกต์ใช้งานของ ActivePAK และ ActivePAK Ultra
ตารางคุณสมบัติหลักและการประยุกต์ใช้งานของ ActivePAK และ ActivePAK Ultra
ด้าน | รายละเอียด ActivePAK | รายละเอียด ActivePAK Ultra |
เทคโนโลยีหลัก | Equilibrium Modified Atmosphere (EMA) ควบคุมการผ่านของก๊าซและไอน้ำ | Equilibrium Modified Atmosphere (EMA) ควบคุม O2 และ CO2 ที่ 5-15% |
ผลิตผลเป้าหมาย | ผักผลไม้ทั่วไปหลากหลายชนิด (คะน้า, กล้วยไข่, สตรอเบอรี่ ฯลฯ) | ผักที่มีอัตราการหายใจสูงและเน่าเสียง่าย (เห็ดหอม, หน่อไม้ฝรั่ง) |
ประสิทธิภาพการยืดอายุ | ยืดอายุความสด 2-5 เท่า (นาน 7-8 วัน) | ยืดอายุความสดนานขึ้นถึง 3 เท่า (ที่ 4-8°C) |
คุณสมบัติเพิ่มเติม | คงคุณภาพและรสชาติ, ถุงหนาและใส, มีสารลดการเกิดฝ้า, ปลอดภัย (มอก. 656-2556), ลดขยะอาหาร, ใช้ซ้ำได้ | ลดอัตราการหายใจของผลิตผล |
สถานะ | ถ่ายทอดเทคโนโลยีและใช้งานเชิงพาณิชย์แล้ว | พร้อมสำหรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี |
ผู้ได้รับประโยชน์ | ผู้บริโภค, ซูเปอร์มาร์เก็ต, บริษัทบรรจุภัณฑ์, เกษตรกร | เกษตรกร, ผู้บรรจุ/ส่งออก, ผู้บริโภค, ซูเปอร์มาร์เก็ต |
ทรัพย์สินทางปัญญาและผลงานตีพิมพ์
การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมไปสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน สวทช. และเอ็มเทคได้ดำเนินการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับ ActivePAK และ ActivePAK Ultra อย่างต่อเนื่อง
สิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้อง
- ActivePAK:
- มีการยื่นจดสิทธิบัตรใน พ.ศ. 2548
- หมายเลขคำขอสิทธิบัตรคือ 0501004539
- ActivePAK Ultra:
- มีการยื่นคำขอสิทธิบัตรการประดิษฐ์สองฉบับใน พ.ศ. 2553
- “แผ่นฟิล์มบางและใสและกระบวนการผลิตแผ่นฟิล์มดังกล่าวด้วยการดึงยืดสองทิศทาง” เลขที่คำขอ 1001001007 ยื่นเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
- “กรรมวิธีการผลิตเมมเบรนรูพรุนโพลิโพรพิลีนที่มีสมบัติการคัดเลือกผ่านสำหรับก๊าซหรือของเหลว” เลขที่คำขอ 1001001483 ยื่นเมื่อวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553
- มีการยื่นคำขอสิทธิบัตรการประดิษฐ์สองฉบับใน พ.ศ. 2553
- อนุสิทธิบัตร:
- มีการจดอนุสิทธิบัตรเลขที่ 17790 เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 ซึ่งครอบคลุมทั้งโครงการ ActivePAK และ ActivePAK Ultra
การมีทั้งสิทธิบัตรหลักสำหรับเทคโนโลยีพื้นฐาน (ActivePAK) และสิทธิบัตรเฉพาะสำหรับกระบวนการผลิตและคุณสมบัติของวัสดุ (ActivePAK Ultra) รวมถึงอนุสิทธิบัตรเพิ่มเติมในภายหลัง แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาที่แข็งแกร่งและครอบคลุมในทุกระดับของนวัตกรรม การดำเนินการนี้สะท้อนถึงการวิจัยและพัฒนาที่ต่อเนื่องและความมุ่งมั่นในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาว
ผลงานตีพิมพ์
นอกจากทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ยังมีผลงานตีพิมพ์ที่เน้นการนำผลงานวิจัยไปสู่เชิงพาณิชย์:
- “ผลงานวิจัย สวทช. สู่เชิงพาณิชย์” ตีพิมพ์ใน พ.ศ. 2563 ซึ่งกล่าวถึงบรรจุภัณฑ์ ActivePAK และนักวิจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ดร.วรรณี ฉินศิริกุล และคณะ จากเอ็มเทค.
การมีผลงานตีพิมพ์ที่เน้นการนำผลงานวิจัยไปสู่เชิงพาณิชย์เช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ สวทช. ในการเผยแพร่ความรู้และรายงานผลกระทบที่เป็นรูปธรรมของงานวิจัยสู่สาธารณะ ซึ่งเป็นการยืนยันความรับผิดชอบต่อการใช้จ่ายงบประมาณวิจัยและพัฒนา และเป็นตัวอย่างความสำเร็จของการแปลงงานวิจัยเป็นคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคม
ตารางที่ 3 สรุปภาพรวมทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับ ActivePAK และ ActivePAK Ultra:
ตารางภาพรวมทรัพย์สินทางปัญญา
ประเภททรัพย์สินทางปัญญา | เลขที่คำขอ/เลขที่อนุสิทธิบัตร | ชื่อเรื่อง/รายละเอียด | วันที่ยื่น/จด | ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง |
สิทธิบัตรการประดิษฐ์ | 0501004539 | ฟิล์ม ActivePAK (ถุงหายใจได้) | พ.ศ. 2548 | ActivePAK |
สิทธิบัตรการประดิษฐ์ | 1001001007 | แผ่นฟิล์มบางและใสและกระบวนการผลิตแผ่นฟิล์มดังกล่าวด้วยการดึงยืดสองทิศทาง | 5 ก.ค. 2553 | ActivePAK Ultra |
สิทธิบัตรการประดิษฐ์ | 1001001483 | กรรมวิธีการผลิตเมมเบรนรูพรุนโพลิโพรพิลีนที่มีสมบัติการคัดเลือกผ่านสำหรับก๊าซหรือของเหลว | 27 ก.ย. 2553 | ActivePAK Ultra |
อนุสิทธิบัตร | 17790 | ครอบคลุมโครงการ ActivePAK และ ActivePAK Ultra | 28 พ.ค. 2564 | ActivePAK, ActivePAK Ultra |
วิดีโอประชาสัมพันธ์
การสื่อสารผลงานวิจัยสู่สาธารณะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการรับรู้และส่งเสริมการนำเทคโนโลยีไปใช้ สวทช. ได้ใช้ช่องทางวิดีโอเพื่อประชาสัมพันธ์ ActivePAK และ ActivePAK Ultra
- ActivePAK:
- “1 นาที กับ BCG Model ตอน ฟิล์มบรรจุภัณฑ์ ActivePAK” โดย NSTDAChannel TVstation, เผยแพร่เมื่อ พ.ศ. 2560 (ค.ศ. 2017) ลิงก์: https://www.youtube.com/watch?v=UN4zgOrU-7M
- ActivePAK Ultra:
- “ว้าววิทย์ช่วยเศรษฐกิจชาติ ตอน เห็ดหอมสดอร่อยยาวนานขึ้นด้วยบรรจุภัณฑ์ ActivePAK Ultra” โดย NSTDAChannel TVstation, เผยแพร่เมื่อ พ.ศ. 2560 (ค.ศ. 2017) ลิงก์: https://www.youtube.com/watch?v=usSY8XDXJ4M
การผลิตวิดีโอประชาสัมพันธ์ที่มีเนื้อหาแตกต่างกันสำหรับ ActivePAK และ ActivePAK Ultra และการเผยแพร่ผ่านช่องทาง YouTube ของ สวทช. แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์การสื่อสารแบบหลายช่องทางที่มุ่งเป้าไปที่การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ทั้งภาคธุรกิจและประชาชนทั่วไป เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมการนำเทคโนโลยีไปใช้ การสื่อสารในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้ง่ายเช่นนี้ เป็นปัจจัยสำคัญในการขยายผลสำเร็จของงานวิจัยสู่การใช้งานในวงกว้าง
บทสรุป
เทคโนโลยี ActivePAK และ ActivePAK Ultra ที่พัฒนาโดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ถือเป็นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ที่มีบทบาทสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวของผลิตผลสดในประเทศไทย
ActivePAK ซึ่งเป็น “ถุงหายใจได้” ได้รับการพัฒนาขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2544 โดยความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมีการยื่นจดสิทธิบัตรใน พ.ศ. 2548 ก่อนที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่เชิงพาณิชย์ให้กับบริษัท เซ็นทรัลเวิลด์ไวด์ล จำกัด และบริษัทอื่นๆ ใน พ.ศ. 2549 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรวดเร็วในการนำผลงานวิจัยไปสู่การใช้งานจริงในภาคอุตสาหกรรม ActivePAK ช่วยยืดอายุความสดของผักผลไม้ทั่วไปได้ 2-5 เท่า โดยใช้เทคโนโลยี Equilibrium Modified Atmosphere (EMA) ที่ควบคุมการผ่านของก๊าซอย่างสมดุล นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยและได้รับมาตรฐาน มอก. 656-2556 ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรม
ActivePAK Ultra เป็นการต่อยอดที่สำคัญ โดยมุ่งเน้นไปที่ผลิตผลที่มีอัตราการหายใจสูงและเน่าเสียง่าย เช่น เห็ดหอมและหน่อไม้ฝรั่ง มีการยื่นคำขอสิทธิบัตรเฉพาะใน พ.ศ. 2553 ซึ่งสะท้อนถึงการลงทุนวิจัยเชิงลึกในวัสดุศาสตร์และกระบวนการผลิตขั้นสูง ActivePAK Ultra สามารถยืดอายุความสดของผลิตผลเหล่านี้ได้นานขึ้นถึง 3 เท่า และปัจจุบันมีสถานะ “พร้อมสำหรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี” ซึ่งบ่งชี้ถึงความพร้อมในการนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ในวงกว้าง
การดำเนินงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจดสิทธิบัตรหลักและอนุสิทธิบัตรเพิ่มเติม แสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งในการปกป้องนวัตกรรมและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน นอกจากนี้ การเผยแพร่วิดีโอประชาสัมพันธ์และการกล่าวถึงเทคโนโลยีเหล่านี้ในบริบทของ BCG Model อย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำถึงความสำคัญและความสอดคล้องของนวัตกรรมกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศในระยะยาว
โดยสรุป ActivePAK และ ActivePAK Ultra เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนาของ สวทช. และเอ็มเทค ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมอาหารของไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดการสูญเสียอาหารและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตผลสด แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวของประเทศอีกด้วย
บรรณานุกรม
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ. (ม.ป.ป.). ACTIVEPAKTM ULTRA RIGHT PACKAGING FOR HIGHLY RESPIRING FRESH PRODUCE. สืบค้นเมื่อจาก https://www.mtec.or.th/default/en/research-projects-26605/index.html
ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ. (ม.ป.ป.). Research Projects. สืบค้นเมื่อจาก https://www.mtec.or.th/research-projects-15733/
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2560). 1 นาที กับ BCG Model ตอน ฟิล์มบรรจุภัณฑ์ ActivePAK. [วิดีโอ]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=UN4zgOrU-7M
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2560). ว้าววิทย์ช่วยเศรษฐกิจชาติ ตอน เห็ดหอมสดอร่อยยาวนานขึ้นด้วยบรรจุภัณฑ์ ActivePAK Ultra. [วิดีโอ]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=usSY8XDXJ4M
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2563). ผลงานวิจัย สวทช. สู่เชิงพาณิชย์. https://www.nstda.or.th/tlo/upload_file/OMOP2562.pdf
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2564). ถอดบทเรียนองค์ความรู้ในการบริหารงาน และการดำเนินโครงการวิจัยของผู้บริหารและบุคลากร สวทช. https://waa.inter.nstda.or.th/stks/pub/2022/20220808-30year-final.pdf
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (ม.ป.ป.). ActivePAK และ ActivePAK Ultra – จดหมายเหตุ สวทช.. สืบค้นเมื่อจาก https://www.nstda.or.th/archives/activepak-activepak-ultra/
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (ม.ป.ป.). Technology Licensing Office – view_tech.php?id=tuaWxxk75W8MkcdHT0afWA==. สืบค้นเมื่อจาก https://www.nstda.or.th/tlo/view_tech.php?id=tuaWxxk75W8MkcdHT0afWA==