ITAP ฝ่ายสนับสนุนการสร้างนวัตกรรมภาคเอกชน

ITAP (Innovation and Technology Assistance Program) หน่วยงานภายใต้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งจัดตั้งขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2543 โดยมีภารกิจหลักในการยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ผ่านการสนับสนุนการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจ

กลไกการดำเนินงานของ ITAP มุ่งเน้นการเป็นผู้ประสานงานหลักระหว่างผู้ประกอบการกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่เหมาะสม โดยเริ่มต้นจากการวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการของผู้ประกอบการถึงในสถานประกอบการ จากนั้นจึงจัดหาผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้าไปให้คำปรึกษาเชิงลึกในด้านต่างๆ อาทิ การแก้ไขปัญหาทางเทคนิค การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงการปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ ITAP ยังทำหน้าที่เป็นผู้จัดการโครงการ (Project Manager) เพื่อดูแลและติดตามผลการดำเนินงานตลอดระยะเวลาโครงการ และยังให้การสนับสนุนด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการบางส่วนสำหรับ SMEs โดย ITAP จะให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการบางส่วนสูงสุดถึง 50% (สำหรับบริษัทขนาดใหญ่สามารถรับบริการได้ แต่ไม่มีการสนับสนุนด้านการเงิน) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างนวัตกรรมที่ส่งผลกระทบเชิงเศรษฐกิจอย่างแท้จริง และเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้มีความเข้มแข็ง สามารถเติบโตและเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมเศรษฐกิจตามแนวทาง BCG Economy

 ภาพที่ 1 : สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2564, มิถุนายน 11). “ITAP” ปลดล็อกข้อจำกัดทางธุรกิจด้วย วทน.. https://www.nstda.or.th/home/performance_post/itap-unlock-business-restrictions/

โดยหลักการทำงานของ ITAP จะมุ่งเน้นลูกค้า (client focus) และทำงานอย่างใกล้ชิดกับ SMEs เพื่อแก้ปัญหาทางเทคโนโลยีที่ตรงจุด ITAP เปิดให้บริการตลอดปี ทุกวันทำการ ดังนั้นผู้ประกอบการที่ต้องการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือต้องการผู้เชี่ยวชาญเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาด้านเทคนิค สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ ITAP ได้ตลอดเวลา มีที่ปรึกษาเทคโนโลยี หรือ ITA (Industrial Technology Advisor) ทั่วประเทศ ที่พร้อมรับโจทย์จากผู้ประกอบการและให้ความช่วยเหลือตามกลไกของ ITAP เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยมีความเข้มแข็งและเติบโตต่อไปได้

ภาพที่ 2: tech2biz. (ม.ป.ป.). โปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP). https://www.tech2biz.net/content/5797-โปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม-(ITAP)

ผลการดำเนินงาน โปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (Innovation and Technology Assistance Program: ITAP) และผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ

ปัจจุบัน ITAP ให้ความสำคัญกับการเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม (Innovation-driven Enterprise) หรือ IDE เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการไทยอย่างรอบด้าน สามารถปรับตัวได้ทันต่อสภาวการณ์ที่เปลี่ยนไปในการดำเนินธุรกิจในยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม การปรับตัวเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 รวมถึงการที่ภาคธุรกิจทั่วโลกต้องรับมือกับ Climate Change และการพัฒนาที่ยั่งยืน อีกทั้งยังสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ได้สูงสุด

ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 ทาง ITAP ได้ให้การสนับสนุนในการให้คำปรึกษาเบื้องต้นด้านเทคโนโลยี (preliminary analysis) เพื่อแก้ไขปัญหาแก่ SMEs มาแล้วมากกว่า 20,000 ราย โดยพัฒนาต่อยอดให้เกิดเป็นโครงการสนับสนุนพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเชิงลึก (technology solution) ได้ 15,500 โครงการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนาเทคโนโลยี นวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และกระบวนการ หรือการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการผลิต ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานที่ผ่านมาของ ITAP ได้ก่อให้เกิดผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจจากกำไรที่เพิ่มขึ้นของ SMEs เป็นจำนวน 30,000 ล้านบาท เกิดมูลค่าการลงทุนและการจ้างงานเพิ่มขึ้นในภาคเอกชนกว่า 5,700 ล้านบาท

ตัวอย่างความสำเร็จของผู้ประกอบการที่ ITAP ให้การสนับสนุน
Dcare พัฒนาสูตรอาหารพร้อมชงดื่มสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน เทคนิคอีมัลซิฟายเออร์ (Emulsifier)

บริษัท มา-จัสมิน จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารผงสำเร็จรูปพร้อมชงที่มีสารอาหารครบถ้วนภายใต้ชื่อการค้าว่า D-CARE (ดี-แคร์) เหมาะสำหรับผู้สูงอายุและผู้ที่ต้องการให้อาหารทางสายยาง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน ซึ่งผลิตภัณฑ์เดิมมีองค์ประกอบของโปรตีนถั่วเหลืองเป็นหลัก เมื่อละลายน้ำแล้วตั้งทิ้งไว้จะเกิดการตกตะกอนอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดการอุดตันสายยางให้อาหารและเกาะติดผนังถุงบรรจุภัณฑ์ บริษัทฯ จึงต้องการพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้ดีขึ้น

ITAP สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC) ดำเนินการวิจัยเพื่อปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ โดยคัดเลือกส่วนผสมและหาระดับความเข้มข้นที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มความคงตัว ลดการตกตะกอนของโปรตีน และเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยของสารอาหารที่สำคัญ ผลสำเร็จของโครงการนี้ทำให้บริษัทฯ ได้อาหารผงสำเร็จรูปพร้อมชงในระดับห้องปฏิบัติการ 2 สูตร ได้แก่ สูตรเพิ่มความคงตัวของต้นแบบผลิตภัณฑ์อาหารผงสำเร็จรูปพร้อมชง และสูตรเพิ่มค่าการย่อยได้ของต้นแบบผลิตภัณฑ์อาหารผงสำเร็จรูปพร้อมชง

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์อาหารผงสำเร็จรูปพร้อมชง ที่มีสารอาหารครบถ้วนภายใต้ชื่อการค้าว่า D-CARE (ดี-แคร์) ที่ได้รับการสนับสนุนจาก ITAP มียอดขายเพิ่มขึ้นมากถึง 47% เนื่องจากตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพหรือมีปัญหาในการรับประทานอาหารตามปกติ

ภาพที่ 3 ผลิตภัณฑ์อาหารผงสำเร็จรูปพร้อมชง D-CRE

โครงการมุ่งเน้นพิเศษที่ ITAP ได้ดำเนินการจำนวน 2 โครงการ ได้แก่
1) โครงการด้าน “Industry 4.0 Platform”

เมื่อ พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา ITAP ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดย สถาบันนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรม (สนอ.) ได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ให้ดำเนินโครงการพัฒนาชุดดัชนี Thailand i4.0 Index เพื่อเป็นเครื่องมือในการจัดเก็บข้อมูล โดยประยุกต์ใช้งานผ่าน www.thindex.or.th เพื่อเป็นฐานข้อมูลที่ใช้ในการประมวลผลระดับความสามารถภาคการผลิตไทยในรูปแบบออนไลน์ และ Real-time visualization graphs ที่มีความน่าเชื่อถือ โดยมีผู้ประเมิน (Assessor) ที่ผ่านการรับรองและมีความเชี่ยวชาญเป็นผู้ประเมิน โดยปัจจุบันมีผลการประเมินระดับความสามารถของผู้ประกอบการแล้วมากกว่า 300 กิจการ

นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) หรือ Board of Investment (BOI) ยังนำ Thailand i4.0 Index ไปใช้ เพื่อเป็นเกณฑ์ในการพิจารณามาตรการการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี  ทั้งนี้มีบริษัทที่นำผลการประเมินความพร้อม Industry 4.0 เสนอแผนการลงทุน เพื่อขอสิทธิประโยชน์และผ่านการอนุมัติจากคณะทำงาน BOI แล้ว เช่น บริษัท ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช จำกัด บริษัท ทีมพริซิชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท สยามคอมเพรสเซอร์อุตสาหกรรม จำกัด บริษัท สิทธินันท์ จำกัด เป็นต้น โดยเป็นการลงทุนในระบบอัตโนมัติและการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้บริหารจัดการในกระบวนการผลิตและการบริหารองค์กร มีภาพรวมแผนการลงทุนมากกว่า 1,400 ล้านบาท

ภาพที่ 4: สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (ม.ป.ป.). Thailandi4.0 INDEX. https://www.thindex.or.th/

ตัวอย่างโครงการที่ได้รับการสนับสนุนด้านอุตสาหกรรม 4.0
บริษัท จี.ไอ.เอฟ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ที่ผู้บริหารให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีด้านระบบอัตโนมัติ เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ทั้งส่วนที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพผลิตภัณฑ์โดยตรง และการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ ซึ่งส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและเพิ่มต้นทุนในการส่งคืนสินค้าของบริษัทฯ เช่น การลืมติดสติกเกอร์ (sticker) การจัดวางสินค้าผิดพลาด เป็นต้น

บริษัทฯ ได้เข้าร่วมโครงการกับ ITAP ในการประเมินความพร้อมเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 (full assessment) โดยใช้ Thailand Industry 4.0 Index ทำให้มีข้อมูลระดับความพร้อมในมิติต่างๆ และสามารถจัดลำดับความสำคัญในการเลือกและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม ที่ตรงตามความต้องการและสามารถยกระดับองค์กร โดยทีมบริหารเลือกการปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบด้วยกล้องและซอฟต์แวร์ประมวลผล และสามารถส่งข้อมูลเก็บเข้าโครงข่ายอัตโนมัติ ช่วยลดความผิดพลาดที่เคยพบได้ทั้งหมด และสามารถพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีนี้ในจุดอื่นๆ ITAP ได้ให้การสนับสนุนตั้งแต่การประเมินความพร้อมอุตสาหกรรม 4.0 การออกแบบระบบและศึกษาความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีที่เหมาะสมรวมถึงการดำเนินการพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ คาดว่าการใช้ระบบตรวจสอบอัตโนมัติดังกล่าว จะนำไปสู่การเพิ่มกำลังการผลิตได้ 3 เท่า และลดการซื้อเทคโนโลยีจากต่างประเทศที่มีต้นทุนสูงและไม่เหมาะกับ SMEs ไทย อีกทั้งยังช่วยสร้างทักษะเพิ่มเติมให้บุคลากรของบริษัทฯ สามารถต่อยอดองค์ความรู้ไปพัฒนาระบบตรวจสอบอัตโนมัติในโมเดลอื่นๆ ได้

ภาพที่ 5 การออกแบบและผลิตแม่พิมพ์
บริษัท จี.ไอ.เอฟ.เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด. (ม.ป.ป.). https://www.gif.co.th/product/products-auto-part.html
ภาพที่ 6 ชิ้นส่วนโลหะที่เป็น OEM ของยานยนต์
บริษัท จี.ไอ.เอฟ.เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด. (ม.ป.ป.). https://www.gif.co.th/product/products-auto-part.html

2) โครงการความร่วมมือ Hi-Fi Consortium

จากความสำเร็จที่สั่งสมมา ITAP กลไกการดำเนินงานถูกนำไปประยุกต์ใช้ในโครงการเชิงยุทธศาสตร์ระดับชาติที่มีชื่อว่า Hi-FI Consortium (Higher education for industry consortium) ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเชื่อมโยง สถาบันอุดมศึกษาเข้ากับภาคอุตสาหกรรม อย่างเป็นระบบ Hi-FI ออกแบบให้การเรียนรู้ในระดับปริญญาโท ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในห้องเรียน หากแต่เป็นการเรียนรู้ที่ขับเคลื่อนด้วยการให้นักศึกษาได้สัมผัสกับโจทย์จริงจากภาคธุรกิจ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้นักศึกษามีโอกาสบ่มเพาะทักษะการวิจัย การพัฒนาเทคโนโลยี และสร้างสรรนวัตกรรม โดยมีผลลัพธ์เป็นทั้งองค์ความรู้ใหม่และนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ภาคเอกชนได้โดยตรง

ITAP มีบทบาทเป็นกลไกกลาง คัดกรองความต้องการของภาคอุตสาหกรรม ประสานงานกับมหาวิทยาลัยที่มีศักยภาพ และติดตามกำกับคุณภาพโครงการอย่างต่อเนื่อง การทำงานร่วมกันเช่นนี้ก่อให้เกิด “วงจรแห่งการเรียนรู้” ที่สมบูรณ์ กล่าวคือ ภาคอุตสาหกรรมได้เทคโนโลยี และบุคลากรที่ตรงความต้องการ มหาวิทยาลัยได้องค์ความรู้และประสบการณ์เชิงประจักษ์ ขณะที่นักศึกษาได้เรียนรู้จากโจทย์จริง อันเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การเป็นนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญในอนาคต

โครงการเครือข่ายการอุดมศึกษาเพื่ออุตสาหกรรม (Hi-FI Consortium) ได้พัฒนามาจากโครงการวิทยาศาสตร์เพื่ออุตสาหกรรม (Sci-FI) ที่เป็นโครงการนำร่องใน พ.ศ.2562 โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) เพื่อเป็นต้นแบบ (model)

พ.ศ.2563 ได้ขยายไปสู่สถาบันการศึกษาอื่นๆ ภายใต้โครงการ “แพลตฟอร์มการศึกษาครบวงจรเพื่อการพัฒนานักศึกษาปริญญาโทและการวิจัยพัฒนานวัตกรรมของภาคอุตสาหกรรม” โดยได้รับการสนับสนุนทุนจากกองทุนวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัย และสร้างนวัตกรรม (บพค.)

พ.ศ. 2564-ปัจจุบัน ได้มีการขยายผลอย่างต่อเนื่องจากงบประมาณสนับสนุนของกองทุน ววน. สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ผ่านโครงการ Reinventing University ซึ่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นเจ้าภาพหลัก และ ITAP สวทช.เป็นผู้ร่วมดำเนินโครงการในส่วนของการบริหารจัดการและติดตามคุณภาพโครงการ

พ.ศ. 2566 มีนักศึกษาระดับปริญญาโท เข้าร่วมในโครงการแล้วมากกว่า 70 คน (จาก 12 มหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมใน Hi-FI Consortium) และมีบริษัทเข้าร่วมโครงการแล้วมากกว่า 50 บริษัท

Hi-FI Consortium เป็นระบบพัฒนากำลังคนระดับปริญญาโทร่วมกับภาคอุตสาหกรรม เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่พร้อมปฏิบัติงานในภาคอุตสาหกรรม โดยใช้กลไกของITAP สวทช. ทำหน้าที่เป็นตัวกลางสำคัญ (Intermediary) ในการขับเคลื่อนโครงการ และรับผิดชอบหลักในส่วนการกำกับคุณภาพรายโครงการ เนื่องจากมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา อีกทั้งมีระบบการบริหารติดตามโครงการที่มีประสิทธิภาพ รองรับการขยายตัวของการผลิตกำลังคนร่วมกับภาคอุตสาหกรรม ร่วมกับสถาบันการศึกษาที่มีความประสงค์จะพัฒนากำลังคนระดับบัณฑิตศึกษา โดยใช้หลักการของ Demand Driven คือ การพัฒนาเครือข่ายสถานศึกษาควบคู่ไปกับการจับคู่ (matching) ความต้องการของอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม

ภาพที่ 6 : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (ม.ป.ป.). วิทยาศาสตร์เพื่ออุตสาหกรรม (Sci-Fi). https://www.scifi.sc.chula.ac.th/aboutsci-fi/

ภาพที่ 7 : สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม. (17 สิงหาคม 2565). Hi-FI Consortium โครงการเครือข่ายการอุดมศึกษาเพื่ออุตสาหกรรม สร้างคนตอบโจทย์อุตสาหกรรมแบบ Tailor Made. https://www.nxpo.or.th/th/12566/

ปัจจุบันมีสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา 12 แห่ง เข้าร่วมโครงการ ได้แก่

1. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 2. มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 3. มหาวิทยาลัยขอนแก่น 4. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
5. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 6. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ 7. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี 8. สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
9. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี 10. มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 11. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 12. มหาวิทยาลัยพะเยา

ตัวอย่างผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ Hi-Fi
ไบโอแอ็กซ์เซล ปุ๋ยอินทรีย์จากผักตบชวา นำนวัตกรรมลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

ปัญหาและความเป็นมา

เนื่องจากเล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ไขปัญหาการกำจัดผักตบชวาและวัชพืชในแหล่งน้ำสาธารณะ จากเดิมที่ต้องใช้การฝังกลบหรือใช้สารเคมี บริษัท ไบโอแอ็กซ์เซล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องกำจัดขยะอินทรีย์ จึงมีแนวคิดแปรรูปผักตบชวาให้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ โดยการต่อยอดนวัตกรรมการใช้จุลินทรีย์ชนิดพิเศษซุปเปอร์แบค (Superbact) ในการแปลงขยะให้กลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ได้ภายใน 24 ชั่วโมง และเพิ่มมูลค่าวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรและอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาเป็นสูตรปุ๋ยอินทรีย์ที่มีธาตุอาหารสำคัญเพียงพอสำหรับพืช

ITAP ช่วยอย่างไร

บริษัทฯ เข้าร่วมโครงการ Hi-FI นำนักศึกษาปริญญาโทเข้าร่วมทำงานและดูแลโจทย์ของบริษัทฯ โดย ITAP ได้ร่วมหารือกรอบการทำงาน และกำกับคุณภาพโครงการ โดยการเสนอผู้เชี่ยวชาญจากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นที่ปรึกษาของนักศึกษา เพื่อทำวิจัยพัฒนาสูตรปุ๋ยอินทรีย์จากการแปรรูปผักตบชวา โดยใช้จุลินทรีย์ลักษณะเฉพาะหรือซุปเปอร์แบค (Superbact) ที่สามารถในการย่อยผักตบชวาให้เป็นปุ๋ยได้ภายใน 24 ชั่วโมง

ผลลัพธ์หลังจบโครงการ

บริษัทฯ พัฒนาผลิตภัณฑ์ปุ๋ยอินทรีย์จากผักตบชวา จนสามารถจัดจำหน่ายในเชิงพานิชย์ได้ พร้อมขยายกำลังการผลิตในระดับอุตสาหกรรม โดยปัจจุบันใช้วัตถุดิบผักตบชวาสดกว่า 100 ตันต่อเดือน มีกำลังการผลิต 20 ตันต่อเดือน สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 400,000 บาทต่อเดือน อีกทั้งยังช่วยแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำจากผักตบชวา ลดผลกระทบต่อภาคการเกษตร สังคม และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

อีเกิ้ล ดรีม นวัตกรรมเจลล้างมือและยารักษาแผลติดเชื้อจากสมุนไพรปูดเบญกานี

ปัญหาและความเป็นมา

บริษัทฯ เล็งเห็นคุณสมบัติของสารสกัดจากปูดเบญกานีซึ่งเป็นสมุนไพรจากอินเดีย ที่มีสรรพคุณในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย ด้านการอักเสบ รวมทั้งเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ และเร่งมองหาช่องทางพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่

ITAP ช่วยอย่างไร

บริษัทฯ เข้าร่วมโครงการ Hi-Fi โดยนำนักศึกษาปริญญาโทเข้าร่วมทำงานและมีผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นที่ปรึกษา ITAP ได้ร่วมหารือกรอบการทำงานและกำกับคุณภาพโครงการ ในการทำวิจัยและพัฒนาสมุนไพรปูดเบญกานีให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ เจลล้างมือไร้แอลกอฮอล์ พร้อมทั้งต่อยอดพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยาทาภายนอกสำหรับรักษาแผลติดเชื้อในผู้ป่วยเบาหวานอีกด้วย

ผลลัพธ์หลังจบโครงการ

บริษัทฯ ประสบผลสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เจลล้างมือที่ไม่ต้องล้างน้ำออกและต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ยาทาภายนอกสำหรับรักษาแผลติดเชื้อเรื้อรังภายใต้แบรนด์ Qi Care พร้อมขึ้นทะเบียนยา และมีการจัดจำหน่ายทางช่องทางออนไลน์

ปัจจุบันได้ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ในบัญชีนวัตกรรมไทย ในปีแรกสามารถสร้างยอดขายให้กับบริษัทฯ ได้ประมาณ 1.5 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าจะมียอดขายเพิ่มมากขึ้นในปีถัดไปไม่น้อยกว่า 7 ล้านบาท

วิดีโอประชาสัมพันธ์ผลงานที่เกิดจากการดำเนินงานภายใต้การสนับสนุนของ ITAP

แหล่งข้อมูล

  1. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. (ม.ป.ป.). วิทยาศาสตร์เพื่ออุตสาหกรรม (Sci-Fi). https://www.scifi.sc.chula.ac.th/aboutsci-fi/
  2. หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.). (ม.ป.ป.). โปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.). https://ide.pmuc.or.th/archives/community/1681
  3. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. โปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม. (2561). ITAP. https://itap.nstda.or.th/th/
  4. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2564, มิถุนายน 11). “ITAP” ปลดล็อกข้อจำกัดทางธุรกิจด้วย วทน.. https://www.nstda.or.th/home/performance_post/itap-unlock-business-restrictions/
  5. สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม. (17 สิงหาคม 2565). Hi-FI Consortium โครงการเครือข่ายการอุดมศึกษาเพื่ออุตสาหกรรม สร้างคนตอบโจทย์อุตสาหกรรมแบบ Tailor Made. https://www.nxpo.or.th/th/12566/
  6. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. Innovation and Technology for SMEs เสริมแกร่ง SMEs ไทย ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม. (2566).
  7. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (ม.ป.ป.). Thailandi4.0 INDEX. https://www.thindex.or.th/
  8. tech2biz. (ม.ป.ป.). โปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม (ITAP). https://www.tech2biz.net/content/5797-โปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม-(ITAP)