3 ทศวรรษ สวทช. กับการขับเคลื่อนประเทศด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี : สุุขภาพและการแพทย์

3. ด้านสุขภาพและการแพทย์

ที่ผ่านมา สวทช. มีบทบาทในการวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับด้านสุขภาพและการแพทย์ทั้งการพัฒนาชุดตรวจ วัสดุ อุปกรณ์ทางการแพทย์ การพัฒนาองค์ความรู้ด้านการพัฒนาวัคซีน การรับมือโรคอุบัติใหม่ การเพิ่มประสิทธิภาพสารสกัดสมุนไพรและตำรับเวชสำอางต่าง ๆ รวมถึงการสร้างนวัตกรรมรับมือการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของประเทศไทย โดยมีผลงานเด่น ๆ เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เช่น ความสำเร็จในการพัฒนาสารต้านมาลาเรียชนิดใหม่ของโลก ที่มีชื่อเรียกว่า “สาร P218” ซึ่งเป็นสารต้านมาลาเรียตัวแรกที่นักวิจัยไทยออกแบบและสังเคราะห์ขึ้นเอง และการพัฒนา“เดนตีสแกน” (DentiiScan) เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบลำแสงทรวงกรวยสำหรับงานทันตกรรมและศัลยกรรมบริเวณช่องปากและใบหน้าขึ้นเป็นรายแรกในไทย นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาชุดตรวจอย่างง่ายเพื่อคัดกรองผู้เป็นพาหะโรคธาลัสซีเมีย และการพัฒนา “มิวเทอร์ม-เฟสเซนซ์” เครื่องวัดอุณหภูมิอัจฉริยะ ที่ใช้เทคโนโลยีกล้องอินฟราเรดผนวกระบบตรวจจับใบหน้าบุคคลอัตโนมัติ สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็วภายใน 0.1 วินาที

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนานวัตกรรมเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ ทั้งเตียงตื่นตัว (JOEY) และ M-Wheel อุปกรณ์พ่วงต่อเปลี่ยนรถเข็นธรรมดาเป็นรถเข็นไฟฟ้า รวมถึงการพัฒนานวัตกรรมอาหาร เช่น ผงปรับความหนืดในอาหารและเครื่องดื่มสำหรับผู้มีภาวะกลืนลำบาก ช่วยลดอาการสำลัก นวัตกรรมอาหารที่บดเคี้ยวและกลืนง่ายสำหรับผู้สูงอายุ และขนมปังแซนด์วิชและครัวซองปราศจากกลูเตน ที่ใช้ฟลาวข้าวเจ้าเป็นองค์ประกอบหลักเพื่อลดการเกิดอาการแพ้ต่อผู้บริโภค

ด้วยความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการสกัดและกักเก็บสารออกฤทธิ์สำคัญในอนุภาคระดับนาโน สวทช.ได้มีการวิจัยและพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพสารสกัดจากสมุนไพรไทยในอาหารเสริมและตำรับเวชสำอางต่าง ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากน้ำมันเมล็ดงาม้อนบรรจุแคปซูลนิ่ม ที่อุดมไปด้วยปริมาณกรดไขมันโอเมก้า 3 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโพลิโคซานอลจากสารสกัดไขอ้อยจากกระบวนการผลิตน้ำตาล ช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด เจลลดการอักเสบสิวจากบัวบก มังคุด และกานพลู การพัฒนาเซรั่มบำรุงผิวหน้าเซริซิน และอนุภาคสารสกัดใบหมี่และบัวบกสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

ดาวน์โหลดเอกสาร