เกี่ยวกับเรา

ธนาคารอาหาร (Food Bank)

“ธนาคารอาหาร (Food Bank)” เป็นแนวคิดแบบองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่รวบรวมและแจกจ่ายอาหารให้กับ องค์กรการกุศลที่ให้ความช่วยเหลือกลุ่มผู้เปราะบางในสังคมประเภทต่างๆ อาทิ ผู้ด้อยโอกาส ผู้พิการ คนไร้บ้าน ชุมชนแออัด เด็กกำพร้า และผู้มีรายได้น้อย เพื่อเพิ่มการเข้าถึงอาหารและลดปัญหาความไม่มั่นคงทางอาหาร นอกจากนี้ธนาคารอาหารยังทำหน้าที่เป็นคลังเก็บอาหารและศูนย์กระจายอาหารในกรณีที่เกิดวิกฤตในประเทศ เช่น ภัยพิบัติต่าง ๆ”
ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีการจัดตั้งอาหารของประเทศอย่างเป็นทางการ โดยหน่วยงาน Global FoodBanking Network (GFN) ได้ให้การรับรอง มูลนิธิสโกลารส์ ออฟซัสทีแนนซ์ (SOS) เป็นธนาคารอาหารแห่งแรกใน ประเทศไทย ในขณะที่ GFN ทำหน้าที่ดูแลธนาคารอาหารที่จัดตั้งขึ้นใน 50 ประเทศทั่วโลก 
ทั้งนี้ หน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องกำลังพยายามจัดตั้งธนาคารของประเทศไทยหรือ Thailand’s Food Bank เพื่อให้เกิดการดำเนินการส่งต่ออาหารส่วนเกินในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ 

เครือข่ายธนาคารอาหาร
ที่สำคัญทั่วโลก

กระบวนการเข้ารับ
และส่งต่ออาหาร

ผู้บริจาค
ผู้บริจาค คือ ผู้ที่มีอาหารส่วนเกินที่มีคุณภาพและความปลอดภัยเหมาะกับการส่งต่อให้กับผู้ที่ต้องการอาหารนำไปบริโภค ซึ่งเป็นได้ทั้งบุคคลทั่วไป ผู้ประกอบการผลิตอาหาร ผู้จำหน่ายอาหาร ร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งหากมีความประสงค์ที่จะบริจาคอาหารส่วนเกินสามารถประสานกับตัวกลางในการเข้ารับอาหารและนำส่งให้กับผู้รับ
ตัวกลาง คือ หน่วยงานที่ทำหน้าที่เข้ารับอาหารจากผู้บริจาค และนำส่งให้กับผู้รับด้วยกระบวนการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งเป็นได้ทั้งเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิ หน่วยงานจิตอาสา บุคคลที่เป็นจิตอาสา อาสาสมัครของภาครัฐ เช่น อสม. อพม. หรือ เจ้าหน้าที่รัฐที่ทำหน้าที่จิตอาสา เช่น เจ้าหน้าที่สถานสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ผู้รับ คือ ผู้ที่มีความต้องการอาหารในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยรับอาหารจากเครือข่ายผู้รับที่มีการประสานงานกับตัวกลางรับอาหาร ซึ่งเครือข่ายผู้รับเป็นได้ทั้งหัวหน้าชุมชน อาสาสมัครในชุมชน เจ้าหน้าที่รัฐ เช่น พมจ. ซึ่งในหลายพื้นที่อาสาสมัครตัวกลางจะเป็นเครือข่ายผู้รับทำหน้าที่ประสานชุมชนและส่งต่ออาหารได้ในเวลาเดียวกัน
*ทั้งนี้ในกระบวนการเข้ารับและส่งต่ออาหารผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องปฏิบัติตามแนวปฏิบัติด้านความปลอดภัยอาหารสำหรับการบริจาคอาหารที่มีการประกาศใช้ โดยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะต้องผ่านการฝึกอบรม และให้ความรู้เพื่อการปฏิบัติที่ถูกต้องและปลอดภัย

การพัฒนาระบบบริหารจัดการ
อาหารส่วนเกินอย่างยั่งยืน

การขยายผลการบริหารจัดการอาหารส่วนเกินเพื่อการจัดตั้งธนาคารอาหารของประเทศไทย ปัจจุบันเครือข่ายพันธมิตรโดย สวทช. มูลนิธิ SOS สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ผู้ประกอบการ ด้านอาหาร หน่วยงานรัฐ และภาคประชาสังคม ได้ดำเนินการขยายผลการดำเนินงานโครงการ ดังกล่าวในหลายพื้นที่ 
ปัจจุบันในปี 2568 ได้มีการขยายผลการดำเนินงานไปแล้ว 6 จังหวัด เพิ่มเติมจาก 4 จังหวัดเดิม ของมูลนิธิ SOS ได้แก่ จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี จ.ลำปาง จ.ลำพูน จ.พังงา และ จ.สุราษฎร์ธานี โดยในปี 2568 นี้ มีเป้าหมายในการขยายผลจำนวน 8 จังหวัด และใน 2569 จำนวน 12 จังหวัด และภายในปี 2571 จะมีการขยายผลได้อย่างน้อย 30 จังหวัดในทุกภูมิภาคของประเทศ
ในการขยายผลการดำเนินงานโครงการและการจัดตั้งธนาคารอาหารของประเทศต้องอาศัยความ ร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทุกคนสามารถเข้ามามีบทบาทและส่วนร่วมในโครงการได้ซึ่งหาก ประเทศไทยสามารถจัดตั้งธนาคารอาหารได้จะช่วยลดความเสี่ยงต่อความไม่มั่นคงทางอาหารให้ กับประชากรกลุ่มเปราะบางและผู้มีรายได้น้อย พร้อมทั้งช่วยลดปริมาณขยะอาหารที่ส่งผลกระทบ ต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย