
การผลิตพลังงานหมุนเวียนจากของเสียทางการเกษตรหรืออุตสาหกรรมการเกษตร เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการพัฒนาพลังงานทดแทนสำหรับประเทศไทย โดยเฉพาะการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียที่มีอินทรียวัตถุสูง ซึ่งเป็นของเสียจากกระบวนการผลิตของโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์เกษตร อาทิ โรงงานแปรรูปผลไม้กระป๋อง โรงงานแป้ง โรงงานน้ำตาล โรงงานเครื่องดื่ม ฯลฯ ก๊าซชีวภาพที่ได้สามารถนำไปใช้ผลิตเป็นพลังงานความร้อน หรือผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ในโรงงาน ลดภาระต้นทุนด้านพลังงานได้เป็นอย่างดี

ในกรณีของโรงงานแปรรูปสับปะรดกระป๋องซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้น้ำจำนวนมากในกระบวนการผลิต และมีของเสียที่มีความเป็นกรดสูง การบำบัดน้ำเสียถือเป็นต้นทุนที่สูงของผู้ประกอบการ โครงการ “ระบบบำบัดเพื่อผลิตก๊าซชีวภาพ” จึงได้เริ่มต้นขึ้นเพื่อตอบโจทย์ปัญหานี้ โดยมีการประยุกต์เทคโนโลยีด้านจุลินทรีย์มาพัฒนาและทดลองในโรงงานต้นแบบ เพื่อให้สามารถบำบัดของเสียพร้อมกับผลิตพลังงานได้ในคราวเดียวกัน
ระบบบำบัดน้ำเสียผลิตก๊าซชีวภาพถูกพัฒนาขึ้น โดย ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการและใช้ประโยชน์จากของเสียอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียเพื่อผลิตก๊าซชีวภาพ เพื่อส่งผลเชิงเศรษฐกิจในการลดต้นทุนการบำบัดน้ำเสีย ลดต้นทุนด้านพลังงานจากการใช้ก๊าซชีวภาพเป็นพลังงานทดแทน โดยมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาด้านการบำบัดและฟื้นฟู เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม เช่น การวิจัยเพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อลดการสูญเสียการใช้ทรัพยากรน้ำและพลังงาน นอกจากนี้ยังดำเนินการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพและออกแบบทางวิศวกรรมในการผลิตก๊าซชีวภาพจากของเสียอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตผลทางการเกษตร เช่น เปลือกและกากมันสำปะหลัง การพัฒนาการเลือกใช้จุลินทรีย์ที่เหมาะสม เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตก๊าซชีวภาพ การพัฒนาการออกแบบกระบวนการสร้างและผลิตในการใช้งานจริงในระดับอุตสาหกรรม การพัฒนาเอนไซม์เพื่อแปรชีวมวลเป็นพลังงานและสารเคมีเพิ่มมูลค่า

พ.ศ. 2547 มีการเริ่มนำร่องทดสอบใช้งานระบบในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการบำบัดน้ำเสีย โดยพัฒนาเป็น “ระบบบำบัดน้ำเสียชนิดไร้อากาศแบบตรึงฟิล์มจุลินทรีย์ (Anaerobic Fixed Film Reactor: AFFR)” ซึ่งเป็นระบบที่เหมาะกับของเสียที่มีความเข้มข้นสูง โดยเฉพาะของเสียที่มีความเป็นกรดสูงอย่างน้ำเสียจากกระบวนการแปรรูปสับปะรด
ระบบบำบัดน้ำเสียแบบตรึงฟิล์มจุลินทรีย์ไม่ใช้อากาศนั้น เป็นระบบปิดที่ลดปัญหาเรื่องกลิ่น มีประสิทธิภาพสูง ประหยัดพื้นที่กว่าการบำบัดน้ำเสียดั้งเดิมแบบบ่อเปิดด้วยระบบการตรึงฟิล์มจุลินทรีย์ ทำให้ลดการสูญเสียจุลินทรีย์ไม่ให้หลุดออกไปจากระบบบำบัดพร้อมกับน้ำที่บำบัดแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเติมจุลินทรีย์เข้าระบบเป็นระยะๆ เหมือนระบบอื่น มีประสิทธิภาพในการกำจัดสารอินทรีย์สูงถึง 80–90% ดูแลง่ายไม่ซับซ้อนหลังจากระบบเริ่มดำเนินการแล้ว และไม่ต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะในการควบคุมระบบ ระบบการบำบัดน้ำเสียนี้ ได้ผลผลิตเป็นก๊าซชีวภาพ ซึ่งสามารถนำไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้า จึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมทางการเกษตร และได้ผลผลิตเป็นก๊าซชีวภาพที่สามารถนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้ในกระบวนการผลิตต่อไป
พ.ศ. 2549 ระบบเริ่มเดินได้จริง และก๊าซชีวภาพที่ได้สามารถนำไปใช้หุงต้มแทนน้ำมันเตาในกระบวนการผลิตของโรงงาน ทั้งนี้ ก๊าซชีวภาพที่ผลิตได้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำบัดน้ำเสีย รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ต่อมากระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ในขณะนั้น) จึงได้กำหนดนโยบายให้มีการถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าว ไปสู่โรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังของไทยที่ยังไม่ได้ดำเนินการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสียที่เหลืออยู่ทั่วประเทศให้แล้วเสร็จภายใน พ.ศ. 2551 เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานทดแทนจากก๊าซชีวภาพมากขึ้น

จากนโยบายดังกล่าว สวทช. ได้ดำเนินโครงการขยายผลการใช้เทคโนโลยี โดยจัดสัมมนา “โครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียและผลิตก๊าซชีวภาพแบบตรึงฟิล์ม” เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2549 เพื่อถ่ายทอดความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว พร้อมทั้งนำผู้เข้าร่วมชมตัวอย่างการใช้งานจริง ณ บริษัท ชลเจริญ จำกัด เพื่อเปิดโอกาสให้สถานประกอบการในภาคกลางนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม การสัมมนาครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ประกอบการโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลัง และสำหรับโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำฯ เปิดรับสมัครผู้ประกอบการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2549 ถึง 30 กันยายน พ.ศ. 2550 และมีกำหนดก่อสร้างและเดินระบบให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551
รศ.ดร.สมชาย ฉัตรรัตนา รองผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการเทคโนโลยี (TMC) สวทช. (ในขณะนั้น) ได้กล่าวถึงความสำเร็จในพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าว ให้กับบริษัท ชลเจริญ จำกัด ในฐานะโรงงานต้นแบบ ตั้งแต่ปี 2547 จนปัจจุบัน ซึ่งบริษัทฯ สามารถผลิตก๊าซชีวภาพได้ 100% และไม่ต้องนำเข้าน้ำมันเตาจากต่างประเทศอีกต่อไป ทาง สวทช. จึงเล็งเห็นโอกาสที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีดังกล่าวไปสู่โรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ดำเนินการจัดทำระบบบำบัดน้ำเสีย โดยเปิดโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีดังกล่าวไปใช้ในภาคการผลิต โดยได้รับความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์ชั้นนำ 6 แห่ง ที่เข้าร่วมปล่อยสินเชื่อภายใต้โครงการดังกล่าว ดังนี้
- ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
- ธนาคาร กรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน)
- ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
- ธนาคาร ยูโอบี จำกัด (มหาชน)
- ธนาคาร นครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)
สำหรับแนวทางการดำเนินงานนั้น สวทช. ได้ร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำของไทย 6 แห่ง ให้การสนับสนุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่โรงงานแป้งมันสำปะหลังทั่วประเทศ จำนวน 43 แห่ง โดยแบ่งเป็น 2 เฟส เฟสที่ 1 กลุ่มผู้ผลิตแป้งมันสำปะหลัง (native starch) มีจำนวน 23 โรง รวมวงเงิน 690 ล้านบาท และเฟสที่ 2 กลุ่มผู้ผลิตแป้งมันดัดแปร (modified starch) มีจำนวน 20 โรง รวมวงเงิน 600 ล้านบาท
ระบบบำบัดน้ำเสียดังกล่าวมีงบประมาณค่าก่อสร้าง ประมาณ 45 ล้านบาท สำหรับโรงงานแป้งมันสำปะหลังที่มีกำลังการผลิตขนาด 200 ตันแป้งต่อวัน สามารถคืนทุนได้เร็วภายในเวลาเพียง 3-4 ปี โดยโรงงานฯ ที่เข้าร่วมโครงการเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีดังกล่าว จะได้รับวงเงินกู้ไม่เกิน 75% ของงบประมาณโครงการทั้งหมด อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3% ระยะเวลาคืนเงินกู้ 4 – 6 ปี (ขึ้นอยู่กับระยะเวลาคืนทุน) โดยมีระยะเวลาปลอดเงินต้นในช่วง 1 ปีแรก
ผู้บริหารบริษัท ชลเจริญ จำกัด ได้เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้สร้างบ่อบำบัดน้ำเสียชนิดไร้อากาศแบบตรึงฟิล์มจุลินทรีย์ขนาด 6,000 ลบ.ม. จำนวน 2 บ่อ ด้วยเงินลงทุน 42 ล้านบาท และเริ่มดำเนินระบบบำบัดน้ำเสียและผลิตก๊าซชีวภาพดังกล่าวมาประมาณ 70-80 วัน สามารถผลิตก๊าซชีวภาพทดแทนการใช้น้ำมันเตาได้ 70-80% จึงลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่ปกติต้องใช้น้ำมันเตาถึงวันละ 7,000-8,000 ลิตร ลงได้ประมาณ 100,000 บาท/วัน และคาดว่าระบบฯ จะสามารถผลิตก๊าซชีวภาพทดแทนการใช้น้ำมันเตาได้ทั้งหมด 100% ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณปีละ 20 ล้านบาท ดังนั้น ภายในระยะเวลาเพียง 2-3 ปีจะสามารถคืนทุนได้ทั้งหมด
จุดเด่นของงานวิจัย
- มีประสิทธิภาพสูงในการบำบัดเป็นระบบปิด ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่น
- ช่วยลดพื้นที่ในการบำบัดน้ำเสียลงจากระบบเดิมที่เป็นบ่อเปิดได้มากกว่าครึ่งหนึ่ง รวมทั้งลดปริมาณสารเคมีที่ใช้ในระบบ
- ใช้พลังงานในการบำบัดต่ำ แต่มีผลพลอยได้จากการบำบัดคือ ก๊าซชีวภาพที่มี ก๊าซมีเทนเป็นส่วนประกอบ สามารถนำไปใช้ทดแทนน้ำมันเตา หรือผลิตไฟฟ้าได้
หน่วยงานร่วมทำวิจัย
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)
- สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน
- บริษัท ชลเจริญ จำกัด
สิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร
นักวิจัย สวทช. ได้ยื่นจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับการบำบัดน้ำเสีย เพื่อคุ้มครองสิทธิในสิ่งประดิษฐ์หรือนวัตกรรม ดังนี้
ผลงานตีพิมพ์
นักวิจัย สวทช. ตีพิมพ์ผลงานเขียนเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับนวัตกรรมระบบนำส่งยาสมุนไพรสำหรับสัตว์ ด้านล่างแสดงรายการบทความวิจัยซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่ในระบบนานาชาติ ตั้งแต่ปี 2007 จนถึงปัจจุบัน (เรียงลำดับรายการอ้างอิงตามปีที่ตีพิมพ์ โดยเริ่มจากปีที่เก่ากว่าไปยังปีที่ใหม่กว่า)
2007
- Wongnoi, R., Songkasiri, W., & Phalakornkule, C. (2007). Influence of a three-phase separator configuration on the performance of an upflow anaerobic sludge bed reactor treating wastewater from a fruit-canning factory. Water Environment Research, 79(2), 199–207. https://doi.org/10.2175/106143006X111790
2010
- Haosagul, S., Prommeenate, P., Hobbs, G., & Pisutpaisal, N. (2010). Comparative performance and microbial community of single-phase and two-phase anaerobic systems co-digesting cassava pulp and pig manure. World Academy of Science, Engineering and Technology, 62, 721–726.
2015
- Sawasdikul, J., Rodprapakorn, M., Nitayapat, N., & Panichnumsin, P. (2015). Effect of influent concentration and hydraulic retention time on the performance of an anaerobic hybrid reactor treating wastewater from washing of sugarcane bagasse. Kasetsart Journal – Natural Science, 49(3), 433–440.
2017
- Teamkao, P., Techkarnjanaruk, S., Kullavanijaya, P., & Thiravetyan, P. (2017). Comparison of bioremediation and phytoremediation in treatment of diethylene glycol from stationery industry. Desalination and Water Treatment, 60, 114–121. https://doi.org/10.5004/dwt.2017.0146
2018
- Mulyawan, S. S., Aghnia, D. W., Rianawati, E., Damanhuri, E., Handjani, M., Padmi, T., Fui, B. C. L., Acda, M., & Unrean, P. (2018). The Study of Rice Husk as Co-Digestion Together with Cow Dung is Biogas Production of Anaerobic Digester. E3S Web of Conferences, 73, 01013. https://doi.org/10.1051/e3sconf/20187301013
2019
- Sawatdeenarunat, C., Wangnai, C., Songkasiri, W., Panichnumsin, P., Saritpongteeraka, K., Boonsawang, P., Khanal, S. K., & Chaiprapat, S. (2019). Biogas production from industrial effluents. In Biomass, Biofuels, Biochemicals: Biofuels: Alternative Feedstocks and Conversion Processes for the Production of Liquid and Gaseous Biofuels (pp. 779-816). Elsevier. https://doi.org/10.1016/B978-0-12-816856-1.00032-4
2020
- Haosagul, S., Prommeenate, P., Hobbs, G., & Pisutpaisal, N. (2020). Sulfide-oxidizing bacteria community in full-scale bioscrubber treating H2S in biogas from swine anaerobic digester. Renewable Energy, 150, 973–980. https://doi.org/10.1016/j.renene.2019.11.139
- Haosagul, S., Prommeenate, P., Hobbs, G., & Pisutpaisal, N. (2020). Sulfur-oxidizing bacteria in full-scale biogas cleanup system of ethanol industry. Renewable Energy, 150, 965–972. https://doi.org/10.1016/j.renene.2019.11.140
- Jantharadej, K., Mhuantong, W., Limpiyakorn, T., Mongkolsuk, S., Sirikanchana, K., & Suwannasilp, B. B. (2020). Identification of sulfate-reducing and methanogenic microbial taxa in anaerobic bioreactors from industrial wastewater treatment plants using next-generation sequencing and gene clone library analyses. Journal of Environmental Science and Health, Part A, 55(11), 1283–1293. https://doi.org/10.1080/10934529.2020.1789409
- Puengrang, P., Suraraksa, B., Prommeenate, P., Boonapatcharoen, N., Cheevadhanarak, S., Tanticharoen, M., & Kusonmano, K. (2020). Diverse microbial community profiles of propionate-degrading cultures derived from different sludge sources of anaerobic wastewater treatment plants. Microorganisms, 8(2), 277. https://doi.org/10.3390/microorganisms8020277
- Woraruthai, T., Kunno, J., Pongsopon, M., Yansakon, K., Phoopraintra, P., Chantiwas, R., Leartsakulpanich, U., Chaiyen, P., & Wongnate, T. (2020). Identification and cultivation of hydrogenotrophic methanogens from palm oil mill effluent for high methane production. International Journal of Energy Research, 44(13), 10058–10070. https://doi.org/10.1002/er.5618
- Krainara, S., Suraraksa, B., Prommeenate, P., Thayanukul, P., & Luepromchai, E. (2020). Enrichment and characterization of bacterial consortia for degrading 2-mercaptobenzothiazole in rubber industrial wastewater. Journal of Hazardous Materials, 400, 123291. https://doi.org/10.1016/j.jhazmat.2020.123291
2021
- Lerdlattaporn, R., Phalakornkule, C., Trakulvichean, S., & Songkasiri, W. (2021). Implementing circular economy concept by converting cassava pulp and wastewater to biogas for sustainable production in starch industry. Sustainable Environment Research, 31(1), 20. https://doi.org/10.1186/s42834-021-00093-9
2023
- Chen, Y., Song, C., Cui, X., Han, J., Paithoonrangsarid, K., Gan, Q., & Lu, Y. (2023). Halophilic microalga-based circular economy producing functional food by reclaiming high-salinity seafood processing sewage. Biomass and Bioenergy, 178, 106952. https://doi.org/10.1016/j.biombioe.2023.106952
- Krainara, S., Suksong, W., Suraraksa, B., Prommeenate, P., Thayanukul, P., & Luepromchai, E. (2023). Bioaugmentation of activated sludge with the immobilized 2-mercaptobenzothiazole-degrading bacterial consortium for rubber industrial wastewater treatment. Journal of Water Process Engineering, 55, 104129. https://doi.org/10.1016/j.jwpe.2023.104129
2024
- Srinak, N., Chiewchankaset, P., Kalapanulak, S., Panichnumsin, P., & Saithong, T. (2024). Metabolic cross-feeding interactions modulate the dynamic community structure in microbial fuel cell under variable organic loading wastewaters. PLoS Computational Biology, 20(10), e1012533. https://doi.org/10.1371/journal.pcbi.1012533
- Sriwichai, N., Sangcharoen, R., Saithong, T., Simpson, D., Goryanin, I., Boonapatcharoen, N., Kalapanulak, S., & Panichnumsin, P. (2024). Optimization of microbial fuel cell performance application to high sulfide industrial wastewater treatment by modulating microbial function. PLoS ONE, 19(6), e0305673. https://doi.org/10.1371/journal.pone.0305673
2025
- Bussadee, P., Arunrattanamook, N., Samnaknit, N., Mhuantong, W., Pinmanee, P., Kanokratana, P., Nimchua, T., Zhao, X.-Q., Champreda, V., & Suwannarangsee, S. (2025). Unveiling a novel uronate dehydrogenase from industrial wastewater metagenomes for efficient galactaric acid production in engineered Saccharomyces cerevisiae. Biocatalysis and Agricultural Biotechnology, 64, 103517. https://doi.org/10.1016/j.bcab.2025.103517
วิดีโอประชาสัมพันธ์
นอกจากนี้ ยังมีการประชาสัมพันธ์ผลงานวิจัยดังกล่าวผ่านรายการที่ผลิตโดย ไบโอเทค สวทช. และรายการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนไทย ดังนี้
- พ.ศ. 2556 รายการ ฉลาดล้ำกับงานวิจัยไทย ตอน ระบบบำบัดน้ำเสียแบบตรึงฟิล์มจุลินทรีย์ไม่ใช้อากาศ https://www.youtube.com/watch?v=2cbLAD3z85U
- พ.ศ. 2556 รายการ ชาววิทย์ ชิดชาวบ้าน ตอน เทคโนโลยีบำบัดน้ำเสีย แถมได้ก๊าซชีวภาพ https://www.youtube.com/watch?v=x1at4BomF-o
- พ.ศ. 2556 รายการ SMEs ชี้ช่องรวย ตอน เทคโนโลยีการบำบัดน้ำเสียเพื่อผลิตก๊าซชีวภาพ https://www.youtube.com/watch?v=FuE0fFaItEE
การถ่ายทอด/ต่อยอดเทคโนโลยี
ปัจจุบัน ระบบบำบัดน้ำเสียแบบตรึงฟิล์มจุลินทรีย์ไม่ใช้อากาศเพื่อผลิตก๊าซชีวภาพ ได้รับการยอมรับและถ่ายทอดเทคโนโลยีในหลายอุตสาหกรรมทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการติดตั้งใช้งานบริษัท/โรงงานอุตสาหกรรมในประเทศแล้ว ดังนี้
- โรงงานผลิตแป้งขาว จังหวัดนครปฐม
- โรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลัง
- บริษัท ชลเจริญ จำกัด
- บริษัท ชัยภูมิพืชผล จำกัด
- บริษัท แป้งตะวันออกเฉียงเหนือ (1987) จำกัด
- บริษัท สีมา อินเตอร์โปรดักส์ จำกัด
- โรงงานน้ำมันปาล์ม
- บริษัท ท่าชนะน้ำมันปาล์ม จำกัด
- โรงงานผลไม้แช่อิ่ม/อบแห้ง
- บริษัท ซีอองฮองเอ็นเทอไพรซ์ จำกัด
- บริษัท รวมอาหาร จำกัด

ทั้งนี้ ยังได้มีการถ่ายทอดเทคโนลียีดังกล่าวในต่างประเทศภายใต้โครงการ Cows to Kilowatts จากประเทศไนจีเรีย ซึ่งขอใช้เทคโนโลยีนี้ในการบำบัดของเสียจากโรงฆ่าสัตว์และผลิตพลังงาน โดยทางฝ่ายไทยเป็นผู้ถ่ายทอดเทคโนโลยีและฝึกอบรมบุคลากรจากประเทศไนจีเรีย และโครงการดังกล่าวได้รับรางวัล “Seed Awards 2005 Winner” จากกลุ่มองค์กรแห่งสหประชาชาติ โดยเป็น 1 ใน 5 โครงการ ที่ได้รับรางวัลนี้จากโครงการที่เสนอทั้งหมด 260 โครงการจาก 66 ประเทศทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้มีแผนจะเดินหน้าเผยแพร่เทคโนโลยีดังกล่าว ไปสู่โรงงานแป้งมันสำปะหลังอื่นๆ อีก 48 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งอาจมีการขยายต่อไปยังโรงงานที่มีน้ำเสียในปริมาณมาก เช่น โรงงานผลิตเบียร์ โรงงานผลิตสุรา และโรงงานผลิตน้ำมันปาล์มต่อไป
โครงการระบบบำบัดน้ำเสียผลิตก๊าซชีวภาพเป็นผลสำเร็จของการนำเทคโนโลยีชีวภาพมาใช้เพื่อจัดการกับของเสียในภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารที่มีน้ำเสียอินทรีย์สูง เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงช่วยลดภาระต้นทุนในการบำบัดของเสีย แต่ยังช่วยสร้างพลังงานหมุนเวียนสำหรับใช้ในโรงงานเอง ถือเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม พลังงาน และเศรษฐกิจ
แหล่งข้อมูล
- BIOTEC-NSTDA. (2556). ระบบบำบัดน้ำเสียแบบตรึงฟิล์มจุลินทรีย์ไม่ใช้อากาศ [วิดีโอ]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=2cbLAD3z85U&t=6s
- BIOTEC-NSTDA. (2556). รายการ ชาววิทย์ ชิดชาวบ้าน ตอน เทคโนโลยีบำบัดน้ำเสีย แถมได้ก๊าซชีวภาพ [วิดีโอ]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=x1at4BomF-o
- BIOTEC-NSTDA. (2556). รายการ ฉลาดล้ำกับงานวิจัยไทย ตอน ระบบบำบัดน้ำเสียแบบตรึงฟิล์มจุลินทรีย์ไม่ใช้อากาศ [วิดีโอ]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=2cbLAD3z85U
- MGR Online. (2549, มีนาคม 6). ระบบบำบัดน้ำเสียฝีมือคนไทย ใช้จุลินทรีย์สร้างก๊าซชีวภาพ. https://mgronline.com/science/detail/9490000030006
- Thailand Industry. (2549, ตุลาคม 26). อุตสาหกรรมแป้งมันฯ เล็งเทคโนโลยีบำบัดน้ำเสีย ผลิตไบโอแก๊ส. http://www.thailandindustry.com/indust_newweb/news_preview.php?cid=717
- ThinSiam DotCom. (2016, มีนาคม 17). นวัตกรรมเครื่องผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์ในระบบบำบัดน้ำเสีย. https://www.thinsiam.com/archives/28663
- ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (ไม่ปรากฏปีที่พิมพ์). ระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อผลิตก๊าซชีวภาพ. https://www.biotec.or.th/biogallery/index.php/bioresource-and-environment-thai/wasterwater-thai
- ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. (2562). รายงานประจำปี 2562 ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ. ปทุมธานี : ศูนย์ฯ.
- สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2564, มิถุนายน 9). เปลี่ยน “น้ำเสีย” เป็นก๊าซชีวภาพ. https://www.nstda.or.th/home/performance_post/turning-wastewater-into-biogas/
- สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2556). เทคโนโลยีบำบัดน้ำเสีย และผลิตพลังงาน “ก๊าซชีวภาพ” สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมอาหาร. ผลงานวิจัย สวทช. สู่เชิงพาณิชย์ ปี 2549 – 2556. https://waa.inter.nstda.or.th/stks/pub/2013/20130712-OMOP-2.pdf