[singlepic id=532 w=320 h=240 float=]
ไบ โอเทค สวทช. และ บริษัท ไฮกริม เอ็นไวรอนเมนทอล แอนด์ รีเสิร์ช จำกัด ร่วมกันผลักดันให้มีการนำองค์ความรู้งานวิจัยไปใช้เชิงพาณิชย์ในอุตสาหกรรม ด้านสิ่งแวดล้อม โดยถือสิทธิความเป็นเจ้าของงานวิจัย ทรัพย์สินทางปัญญาและวิทยาการความรู้ที่เกิดขึ้นร่วมกัน
เมื่อวันจันทร์ที่ 11 กรกฎาคม 2554 ณ ห้องประชุม 513 ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบริหารจัดการและจัดสรรประโยชน์ในทรัพย์สินทางปัญญาภายใต้โครงการ “ผลิตแบคทีเรียที่สามารถย่อยสลายน้ำมันปิโตรเลียมเพื่อใช้เป็นผลิตภัณฑ์ทางการค้าสำหรับกำจัดคราบน้ำมันทางชีวภาพ” ระหว่าง ไบโอเทค สวทช. กับ บริษัท ไฮกริม เอ็นไวรอนเมนทอล แอนด์ รีเสิร์ช จำกัด ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงกลไกการทำงานระหว่างหน่วยงานสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กับภาคเอกชน ในการผลักดันให้มีการนำองค์ความรู้ต่างๆทางด้านเทคโนโลยีชีวภาพไปประยุกต์ใช้ในระดับอุตสาหกรรม เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของภาคอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมทางด้านสิ่งแวดล้อม
ดร. กัญญวิมว์ กีรติกร ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ เปิดเผยว่า “สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อว่า สารชีวบำบัดภัณฑ์ KEEEN ของ บริษัท ไฮกริม เป็นตัวอย่างของการทำวิจัยร่วมกับภาคเอกชนตั้งแต่เริ่ม ซึ่งมีข้อดีคือเราได้โจทย์มาจากภาคเอกชน ซึ่งมีความเข้าใจความต้องการของตลาดเป็นอย่างดี แล้วเราสามารถเอาความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเราเข้าไปแก้โจทย์วิจัยได้ ถือได้ว่า บริษัท ไฮกริม เป็นตัวกลางที่เชื่อมระหว่างความต้องการของอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ของไทยที่กำลังก้าวหน้าเทียบเท่าระดับโลก”
ด้าน นายวสันต์ อริยพุทธรัตน์ ผู้ก่อตั้ง และผู้บุกเบิกด้านอุตสาหกรรม ประธานผู้บริหารอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ (Founder & Industry Pioneer and Chief Industrial Ecologist) บริษัท ไฮกริม เอ็นไวรอนเมนทอล แอนด์ รีเสิร์ช จำกัด กล่าวว่า “บริษัท ไฮกริม ไม่สามารถที่จะค้นคว้าและวิจัยเพียงลำพังได้ เราจึงได้ร่วมมือกับ สวทช. ค้นคว้า วิจัย ทดลอง โดยการร่วมวิจัยกับ ไบโอเทค ในการคัดเลือกกลุ่มสายพันธุ์จุลินทรีย์หลายสายพันธุ์ (Synergistic Blends of Oil-degrading microbes) ซึ่งมีความสามารถพิเศษในการย่อยสลายโมเลกุลน้ำมันปิโตรเลียม รวมทั้งสารประกอบอินทรีย์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และด้วยประสบการณ์ทำงานของทีมงานของเรา บวกกับปัญหา หรือ ความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมที่หลากหลายต่างๆ ของเรา ร่วมกับ เทคโนโลยี โดยเราได้ทำงานร่วมกับทีมงานนักวิจัยที่มีความรอบรู้ และพิถีพิถันในการค้นคว้าวิจัย ทั้งหมดทำให้เกิดการขับเคลื่อนธุรกิจ และเกิดความร่วมมือในวันนี้”
สำหรับที่มาของความร่วมมือในครั้งนี้ เกิดจากการร่วมวิจัย ระหว่าง ไบโอเทค สวทช. และ บริษัท ไฮกริม เอ็นไวรอนเมนทอล แอนด์ รีเสิร์ช จำกัด ในโครงการ “ผลิตแบคทีเรียที่สามารถย่อยสลายน้ำมันปิโตรเลียมเพื่อใช้เป็นผลิตภัณฑ์ทางการค้า สำหรับการกำจัดคราบน้ำมันทางชีวภาพ” โดยร่วมสนับสนุนงบประมาณ ให้ ดร. สมเกียรติ เตชกาญจนารักษ์ นักวิจัย ไบโอเทค จากศูนย์ความเป็นเลิศเฉพาะทางด้านการจัดการและ ใช้ประโยชน์ของเสียอุตสาหกรรมเกษตร ดร. วศิมน เรืองเล็ก ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (อดีตนักวิจัยไบโอเทค) ร่วมกับทีมงานจาก บริษัท ไฮกริม เอ็นไวรอนเมนทอล แอนด์ รีเสิร์ช จำกัด ดำเนินโครงการสำเร็จ เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2554 โดยใช้เวลาในการดำเนินโครงการทั้งสิ้น 2.5 ปี
ทั้งนี้ นักวิจัยของไบโอเทค มีความเชี่ยวชาญในด้านจุลินทรีย์ในหลายๆแขนง ตั้งแต่การคัดแยก การคัดเลือกเชื้อจุลินทรีย์จากธรรมชาติที่มีความสามารถในการย่อยสลายน้ำมัน จนถึงการหา สภาวะการเลี้ยงเพื่อเพิ่มขยายจำนวนจุลินทรีย์ให้มากเพียงพอที่จะทำเป็นผลิตภัณฑ์จำหน่าย
ในขณะที่ ไบโอเทค มีเครื่องมืออุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยรองรับงานวิจัย บริษัท ไฮกริม เอ็นไวรอนเมนทอล แอนด์ รีเสิร์ช จำกัด มีความเชี่ยวชาญในการทดสอบประสิทธิภาพเพื่อการพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ และทำการตลาด ซึ่งโครงการนี้มีการส่งเสริมความเชี่ยวชาญซึ่งกันและกัน ทำให้ประสบผลสำเร็จ และในวันนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้เกิด พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการบริหารจัดการและจัดสรรประโยชน์ในทรัพย์สินทางปัญญาภายใต้โครงการ “ผลิตแบคทีเรียที่สามารถย่อยสลายน้ำมันปิโตรเลียมเพื่อใช้เป็นผลิตภัณฑ์ทางการค้าสำหรับกำจัดคราบน้ำมันทางชีวภาพ” เพื่อเป็นการนำผลงานวิจัยไปใช้ในเชิงพาณิชย์ โดยบันทึกข้อตกลงนี้จะมีระยะเวลา 6 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2554