บุคลากร สวทช. ที่กำลังจะเกษียณอายุ : นางณัฐจิรา เจริญผล

บทสัมภาษณ์นางณัฐจิรา เจริญผล หัวหน้าผู้ตรวจสอบภายใน ฝ่ายพัฒนาเครือข่ายเชิงกลยุทธ์และประเมินผล (SPE) ฝ่ายพัฒนาเครือข่ายเชิงกลยุทธ์และประเมินผล (SPE) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (ศอ.) เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 เพื่อถอดบทเรียนและองค์ความรู้ของพนักงานและพนักงานโครงการ สวทช. ที่จะเกษียณอายุงาน

ตามที่ สวทช. มีนโยบายการบริหารบุคลากร ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมีการบริหารจัดการและดูแลอย่างใกล้ชิด ตามแผนการดำเนินงาน KS6-2 (SI3-2) การยกระดับระบบบริหารด้านทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นการพัฒนากระบวนการดูแลพนักงานและพนักงานโครงการ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเกษียณอายุ

ทั้งนี้ ฝ่ายบริการทรัพยากรบุคคล ฝ่ายบริการความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และฝ่ายผลิตสื่อสมัยใหม่ สวทช. ได้คำนึงถึงความสำคัญขององค์ความรู้ และการถ่ายทอดบทเรียนจากองค์ความรู้ของพนักงานและพนักงานโครงการ ที่จะเกษียณอายุงานของ สวทช. ที่มีความเชี่ยวชาญ ศักยภาพ ความสามารถในการบริหารจัดการ ตลอดจนประสบความสำเร็จในสายงานอาชีพ และถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในแผนการดำเนินงาน KS6-2 (SI3-2) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถอดบทเรียนและองค์ความรู้ของพนักงานและพนักงานโครงการ ที่จะเกษียณอายุงาน เพื่อนำไปแบ่งปันและเผยแพร่ผ่านช่องทางต่างๆ ให้กับบุคลากรของ สวทช. โดยให้สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ในด้านต่างๆ และเพื่อให้เกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์ของพนักงานและพนักงานโครงการที่จะเกษียณอายุงาน รวมทั้งสามารถนำมาพัฒนาและต่อยอดการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สำหรับบทสัมภาษณ์นี้เป็นการสัมภาษณ์ นางณัฐจิรา เจริญผล หัวหน้าผู้ตรวจสอบภายใน ฝ่ายพัฒนาเครือข่ายเชิงกลยุทธ์และประเมินผล (SPE) ฝ่ายพัฒนาเครือข่ายเชิงกลยุทธ์และประเมินผล (SPE) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (ศอ.) สวทช. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 เพื่อสัมภาษณ์ประเด็นประสบการณ์การทำงานซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อองค์กรและบุคลากร

ข้อมูลเบื้องต้น

  • นางณัฐจิรา เจริญผล
  • ตำแหน่ง หัวหน้าผู้ตรวจสอบภายใน ฝ่ายพัฒนาเครือข่ายเชิงกลยุทธ์และประเมินผล (SPE) ฝ่ายพัฒนาเครือข่ายเชิงกลยุทธ์และประเมินผล (SPE) ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (ศอ.) สวทช.

แนะนำตัวเอง

เริ่มงานที่ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (ศอ.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2540 และจะเกษียณอายุงานในวันที่ 30 กันยายน 2566 รวมอายุการทำงาน 26 ปี 9 เดือน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าผู้ตรวจสอบภายใน สังกัด ศอ.

หัวใจสำคัญของการทำงาน

ไม่ว่าเราจะอยู่ในองค์กรไหน หรือช่วงเวลาไหน สิ่งสำคัญเราจะต้องมีความรู้ความสามารถของตัวเราที่จะเข้าไปทำงานนั้น ๆ ได้ แต่หากเราได้รับมอบหมายให้ทำงานแล้วความรู้ความสามารถที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอเราต้องเรียนรู้เพิ่มเติม ต้องมีการเรียนรู้ตลอดเวลา นี่คือองค์ความรู้ที่เรามีเพื่อทำงานและได้ค่าตอบแทน จะต้องมีความเป็นมืออาชีพ เราจะต้องมีความรู้ความเชี่ยวชาญในงานที่ได้รับมอบหมาย เรื่องของการมีวินัยเป็นอีกสิ่งที่สำคัญ เราจะทำงานได้เก่งแค่ไหนแต่ถ้าไม่มีวิจัยก็จบ [ยิ้ม] เช่น มาทำงานไม่ตรงเวลา หรือไม่รับผิดชอบต่องานที่มอบหมายก็ถือว่าทำงานไม่ประสบความสำเร็จ เวลาเราทำงานเราต้องทุ่มเทเพื่อให้งานสำเร็จสมบูรณ์ได้ และเป็นประโยชน์ต่อองค์กร งานด้านการพัสดุ จัดซื้อจัดจ้าง ความซื่อสัตย์ ความสุจริตเป็นหัวใจสำคัญในการทำงาน ทุกอย่างจะต้องถูกต้องและตรวจสอบได้

ความสำคัญในอาชีพจัดซื้อจัดจ้างคือเรื่องทักษะในการเจรจาต่อรอง การเจรจาต่อรองจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนที่ไปเจรจาจะต้องมีทักษะและมีความน่าไว้วางใจและไม่เอาเปรียบ เหมือนกับการที่เราบริหารงานกับลูกน้องก็เช่นเดียวกันเราจะต้องไม่เอาเปรียบเขาและต้องให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ การทำงานสามารถต่อรองกันได้ว่างานที่มอบหมายให้นี้ทำได้หรือไม่โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของการรักษาผลประโยชน์ขององค์กร การรักษาสัญญาสำคัญมากไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำงาน มิตรภาพ และเครื่องครอบครัว หากเรารักษาสัญญาได้มันจะเกิดความไว้วางใจและเชื่อใจ แต่ถ้าเราโกงหรือเจ้าเล่ห์กับเขาสักครั้งหนึ่ง ความไว้วางใจก็หายไปหมดสิ่งที่ดีมาตลอดมันจะหายไปในพริบตา พี่ชอบ Core Value ของ NSTDA มากเพราะความหมายครอบคลุมไปหมดทั้งชีวิตส่วนตัว การทำงานในองค์กร และพี่ยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้องและรักษาชื่อเสียงของตัวเองครอบครัว เวลาเราจากที่นี่ไปแล้ว เราจากไปแบบไร้ปัญหาไม่มีชนักติดหลัง [ยิ้ม]

อุปสรรคและท้าทายสำคัญในการทำงาน และวิธีรับมือหรือจัดการ

การทำงานมีอุปสรรคเยอะเพราะว่าองค์กรมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างหลายครั้ง พี่ต้องโยกย้ายงานทำให้แต่ละครั้งต้องมีการปรับตัว เมื่อเกิดปัญหาเราก็ต้องแก้ไขปัญหา ตลอดเวลาที่เกิดปัญหาก็จะมีผู้ที่เข้ามาช่วยเหลือตลอด ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแปลงองค์กรอยู่หลายครั้ง พี่ก็บอกตัวเองว่า “สู้ต่อไป” เพื่อเป็นตัวอย่างให้ลูกๆ และน้อง ๆ ในทีมได้เห็นว่าไม่ใช่ว่าเจออุปสรรค หรือเจอการเปลี่ยนแปลงแล้วจะไม่ท้อถอย

งานที่ทำมีอุปสรรคหรือไม่ ขอตอบได้เลยว่ามี ยกตัวอย่างเช่น เหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2554 พวกเราต้องฟันฝ่าเรื่องนี้ไปด้วยกัน การมาทำงานผลัดเวรกันเข้าสำนักงาน สำหรับพี่บ้านก็น้ำท่วมไม่เป็นไรปล่อยไป พี่มีคอนโดมิเนียมอยู่ พี่สามารถเข้ามาทำงานที่สำนักงานอาคารวิจัยโยธีได้ทุกวันจนเหตุการณ์น้ำท่วมสงบลง จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ทำให้เห็นว่าพวกเราเห็นอกเห็นใจกันช่วยเหลือกัน เราเห็นว่าสามัคคีกันของเพื่อนพนักงาน

ปัญหาที่เกิดในช่วงน้ำท่วม ด้วยพี่ทำงานด้านจัดซื้อจัดจ้างผู้รับเหมาไม่สามารถส่งงานได้ สวทช. ต้องแก้ปัญหาเพื่อบรรเทาปัญหาให้กับผู้รับเหมา ด้วยการขยายระเวลาการส่งมอบงาน เป็นต้น ที่หลีกเลี่ยงและหนีไม่พ้นเลยคือการถูกเรียกตรวจสอบจาก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แต่การทำงานของพี่และทีมทำงานแบบโปร่งใสมาตั้งแต่ต้น เมื่อมีการตรวจสอบเราก็สามารถชี้แจงได้อย่างเต็มที่

ความท้าทายในการทำงาน งานที่ท้าทายมากคือจะต้องชี้แจงกับพนักงานอัยการในการร่วมร่างสัญญาประเภทการเช่าซื้อระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ให้กับจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไปให้ข้อมูลว่าทำไมเราถึงคิดอย่างนี้ แล้วการทำอย่างนี้จะช่วยแก้ปัญหาอะไร เรื่องการเช่าซื้อระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) เป็นการเช่าซื้อที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน [ยิ้ม] เราเป็นผู้นำร่องในเรื่องนี้ เมื่อสัญญาการเช่าซื้อแล้วเสร็จการทำงานจริงต้องลงพื้นที่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ก็พบอุปสรรคมากมาย เริ่มจากไม่สามารถติดตั้งได้  ระหว่างลงพื้นที่ตรวสอบพัสดุพบของหาย ของชำรุด พี่ไม่ย่อท้อลุยงานต่อ ในเมื่อของหายก็ไปแจ้งความและเป็นการขึ้นโรงพักแจ้งความร้องทุกข์ให้ สวทช.บ่อยมากในช่วงนั้น [หัวเราะ]

ความประทับใจในองค์กร

พี่มาทำงานที่นี่ 26 ปี กับอีก 9 เดือน พี่เห็นความเจริญเติบโตขององค์กรที่แต่เดิมมีพนักงานของ ศอ. มีเพียง 100 กว่าคน ปัจจุบัน ศอ. มีพนักงานราว 600-700 คน สวทช. องค์กรเติบโตขึ้น เรามองดูการเติบโตขององค์กรพร้อม ๆ กับการเติบโตของลูกพี่ [ยิ้ม] พี่กล่าวตั้งแต่ต้นเสมอว่าการทำงานพี่ทุ่มเทให้เต็มที่ ส่วนด้านครอบครัวพี่ก็ทุ่มเทเต็มที่เช่นกัน เท่ากับว่าดูแลทั้ง 2 ด้านไปด้วยกัน ด้านครอบครัวพี่ดูแลคอยให้คำปรึกษากับลูก ดูความก้าวหน้าของลูก ให้การสนับสนุนในด้านต่าง ๆ พี่ทำแบบนี้จนน้อง ๆ หลายคนเห็นก็เดินตามรอยบ้าง [ยิ้ม] ส่วนด้านการทำงานเราจะต้องกระตือรือร้นเพื่อเรียนรู้เทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลาทำให้เราใช้เทคโนโลยีได้ในการทำงานในชีวิตประจำวัน องค์กรของเราใหญ่มากเวลาเราไปไหนก็เหมือนเราสวมมงกุฎไปด้วยคนเห็นก็จะบอกว่า “คนเก่งคนดีมาแล้ว” ดังนั้นเราจะต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา บางทีก็ตามเทคโนโลยีไม่ทันก็มีเครียดเหมือนกัน [ยิ้ม] แต่สิ่งเหล่านี้คือหน้าตาขององค์กร องค์กรมีธรรมาภิบาลดูแลพนักงานที่ดี มีสวัสดิการที่ดี ลูกพี่เรียนจบเป็นแพทย์แล้ว [ยิ้ม] พี่ก็ภูมิใจว่าเราสามารถดูแลครอบครัวพร้อมทำงานให้องค์กรได้อย่างเต็มที่

การวางแผนชีวิตหลังเกษียณอย่างไร

วางแผนเรื่องนี้มาตลอดชีวิตว่าเราจะทำงานแล้วก้าวหน้าไปอย่างไร เก็บเงินอย่างไร มีหลักทรัพย์อย่างไร มีเงินออมเพื่อให้พอใช้หลังเกษียณ การวางแผนด้านการเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องวางแผนเรื่องสุขภาพของตัวเราเองด้วยข้อนี้เน้นเลย [ยิ้ม] ถ้าเรามีเงินมากแต่สุขภาพเราไม่ดีมันไม่มีประโยชน์ ดังนั้นหากเรามีสุขภาพที่ดีและเรามีเงินเราก็สามารถใช้เงินนั้นได้อย่างมีความสุขได้ท่องเที่ยว ได้ทำกิจกรรมที่เราอยากจะทำได้อย่างเต็มที่ และในอนาคตพี่จะได้มีพลังในการเลี้ยงหลาน [ยิ้ม]

อยากจะเห็นอะไรใน สวทช. ในอนาคต
อยากเห็นพนักงานทุกคนตื่นตัวที่จะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา พร้อมปรับตัว อย่าคิดว่าทำงานอยู่ที่เดิมแล้วดี ชีวิตเราจะต้องมีการหมุนเวียนเปลี่ยนไปเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ เราอาจจะพบว่าการเปลี่ยนแปลงมันดีกว่าเดิมก็ได้

สวทช. เป็นหน่วยงานที่ทำงานวิจัยและพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ประเทศ อยากเห็นทีมงานรุ่นใหม่เข้าช่วยดำเนินงานให้องค์กรเดินหน้าต่อไป เด็กรุ่นใหม่เก่งเรียนรู้ได้ไว เด็กรุ่นใหม่เก่งกว่ารุ่นเก่าแน่นอน ลูกย่อมเก่งกว่าพ่อแม่เป็นหลักการที่ถูกต้องแล้ว เพราะฉะนั้นลูกน้องก็ต้องเก่งกว่าเจ้านาย เจ้านายก็อาจจะมีประสบการณ์มีมุมมองที่กว้างกว่า ดังนั้นต้องทำงานร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองซึ่งกันและกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใด “จะต้องมีความเคารพซึ่งกันและกันต่อข้อคิดเห็นที่ได้มีการแลกเปลี่ยนกัน เพราะสิ่งต่าง ๆ ที่ได้มีการแลกเปลี่ยนกันคือสิ่งที่หวังดีต่อองค์กร มุมมองในการทำงานอาจจะต่างกันแต่ความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม มีจริยธรรม เป็นสิ่งที่ดีกับทั้งตัวเองและองค์กร ดีต่อครอบครัวซึ่งจะเป็นเกียรติยศของเราแล้วเราจะเกิดความภาคภูมิใจตลอดไป”