
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) และศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ภายใต้สังกัด
สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อย.) หรือ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เดิม) ร่วมกันพัฒนาเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบลําแสงทรงกรวยสําหรับงานทันตกรรมและศัลยกรรมบริเวณช่องปากและใบหน้า ชื่อ “เดนตีสแกน” (DentiiScan) รายแรกในประเทศไทย ให้ข้อมูลอวัยวะภายในแบบสามมิติ ทำให้การวินิจฉัยโรคและวางแผนการผ่าตัดมีความแม่นยำ แผลมีขนาดเล็ก และมีความปลอดภัยมากขึ้น สามารถใช้ในการวินิจฉัยโรค และวางแผนการรักษาในงานทันตกรรมรากฟันเทียม การผ่าฟันคุด และการผ่าตัดบริเวณช่องปาก ขากรรไกร และใบหน้า รวมทั้งการตรวจดูความผิดปกติของไซนัส ทั้งนี้ จากเครื่อง เดนตีสแกน รุ่น 1.1 (DentiiScan รุ่น 1.1) ปัจจุบันเครื่องดังกล่าวได้รับการพัฒนาเป็น เดนตีสแกน รุ่น 2.0 (DentiiScan รุ่น 2.0)
เครื่อง DentiiScan ใช้รังสีเอกซ์ที่มีลําแสงแบบทรงกรวยและตัวตรวจวัดรังสีแบบ Flat panel detector ซึ่งตั้งอยู่ตรงกันข้าม โดยอุปกรณ์ทั้งสองจะหมุนไปพร้อมๆ กัน รอบผู้ป่วย 1 รอบ ใช้เวลา 18 วินาที เพื่อเก็บข้อมูลดิบในแต่ละมุมมอง จากนั้นนําข้อมูลดิบที่ได้มาผ่านอัลกอริทึมในการสร้างภาพตัดขวาง (Reconstruction) เพื่อสร้างภาพตัดขวางแบบสามมิติบริเวณช่องปากและขากรรไกรของผู้ป่วย ภาพตัดขวางที่ได้จะแสดงผลในรูปแบบมุมมองสองมิติและสามมิติ โดยผ่านซอฟต์แวร์แสดงภาพ (Viewer software)
จุดเด่นของเครื่อง DentiiScan คือ เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยให้เห็นความสูง ความหนา และความกว้างของกระดูกขากรรไกร รวมทั้งคลองเส้นประสาทอย่างชัดเจน ทันตแพทย์สามารถวางแผนก่อนการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมได้อย่างแม่นยํา สามารถใช้ประโยชน์ในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นทันตกรรมรากเทียม การวางแผน การผ่าตัดบริเวณช่องปาก ขากรรไกร และใบหน้า การตรวจดูข้อต่อขากรรไกร ทันตกรรมจัดฟัน รวมถึงสามารถใช้ตรวจดูความผิดปกติของไซนัส
นวัตกรรมนี้ผ่านการทดสอบทางคลินิกในมนุษย์ ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยทางรังสี โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยทางไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยศูนย์ทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (PTEC) สวทช. ผ่านการทดสอบความถูกต้องของภาพและปริมาณรังสีที่ผู้ป่วยได้รับเปรียบเทียบกับเครื่องจากต่างประเทศ และได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 13485 ระบบการบริหารจัดการคุณภาพเครื่องมือแพทย์ จาก TÜV SÜD


DentiiScan เป็นหนึ่งในผลงานภายใต้โครงการ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบลำรังสีทรงกรวย จากการรวมกลุ่มของคณะวิจัยนำโดย ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ (ที่ปรึกษาอาวุโส สวทช. และผู้เชี่ยวชาญพิเศษ) เป็นผู้อำนวยการโครงการ, ดร.เสาวภาคย์ ธงวิจิตรมณี (นักวิจัยอาวุโส) เป็นหัวหน้านักวิจัยระบบซอฟต์แวร์ และ ดร.กฤษณ์ไกรพ์ สิทธิเสรีประทีป (นักวิจัยอาวุโส) เป็นหัวหน้านักวิจัยระบบฮาร์ดแวร์ และคณะวิจัยจาก สวทช. จากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทเค) และ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ของสวทช. ต่อมาบางส่วนได้ย้ายไปสังกัดศูนย์วิจัยเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือแพทย์ (A-MED) ของ สวทช. เช่นกัน โดยการดำเนินงานเริ่มจากงานทันตกรรมเป็นอันดับแรก ตั้งแต่การออกแบบ วิจัย พัฒนา ผลิตต้นแบบตามมาตรฐานสากล จนกระทั่งถ่ายทอดสู่ผู้ใช้ประโยชน์ได้จริงจนปัจจุบัน เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบลำรังสีทรงกรวย (Cone Beam CT) หรือ ซีบีซีที (CBCT) ได้รับการออกแบบและผลิตออกมาเป็น 3 ลักษณะเพื่อสนองความต้องการของผู้ใช้ ได้แก่
- เครื่องเดนตีสแกน (DentiiScan) เน้นงานทันตกรรมและศัลยกรรมบริเวณช่องปากและใบหน้า
- เครื่องโมบีสแกน (MobiiScan) สามารถเคลื่อนย้ายได้ เน้นการแก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ
- เครื่องมินีสแกน (MiniiScan) เน้นการตรวจหาขอบเขตทางรังสีของก้อนเนื้อเต้านมในห้องผ่าตัด
Timeline
- พ.ศ. 2523 ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ นักวิจัยอาวุโสและที่ปรึกษา สวทช. ซึ่งขณะนั้นเป็นนักวิจัยที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และเดินหน้าโครงการพัฒนาเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ครั้งแรกของประเทศไทย
- พ.ศ. 2523-2533 ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ สามารถพัฒนาอัลกอริทึมและนํามาพิสูจน์โดยการถ่ายภาพตัดขวางของวัตถุ และสิ่งมีชีวิต เช่น หนูทดลอง แต่ยังไม่สามารถต่อยอดไปสู่การใช้งานกับมนุษย์ได้ ด้วยข้อจํากัดหลายประการ เริ่มจากการขาดเงินทุนวิจัยที่จะจัดหาคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง ไม่มีการจําหน่ายชิ้นส่วนสําคัญที่จะนํามาประกอบเป็นเครื่องได้ สุดท้ายคือความสามารถเชิงบริหารจัดการโครงการที่ซับซ้อนลักษณะนี้เพื่อนําไปสู่ผลิตภัณฑ์ ที่ใช้งานได้จริงยังไม่ถึงระดับที่เพียงพอ
จนกระทั่งเริ่มมีการขายชิ้นส่วนของอุปกรณ์เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scanner) ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ จึงได้ ดร.เสาวภาคย์ ธงวิจิตรมณี นักวิจัยจาก ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สวทช. มาเป็นหัวหน้าโครงการส่วนซอฟต์แวร์ และรวมทีมนักวิจัย และวิศวกรของ เนคเทค สวทช. จนสามารถจําลอง (Simulate) การทํางานของซอฟต์แวร์สร้างภาพตัดขวางของร่างกายบนคอมพิวเตอร์ได้สําเร็จอีกครั้งหนึ่ง รวมทั้งการพัฒนาซอฟต์แวร์ส่วนต่างๆ ของเครื่อง DentiiScan และซอฟต์แวร์แสดงภาพสามมิติ (Viewer software)ในขณะที่งานด้านฮาร์ดแวร์ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญของนักวิจัยด้านกลศาสตร์ ดร.กฤษณ์ไกรพ์ สิทธิเสรีประทีป นักวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. เข้ามาเป็นหัวหน้าโครงการส่วนฮาร์ดแวร์ พร้อมทีมนักวิจัยและวิศวกรจากเอ็มเทค สวทช. ร่วมกันสร้างและปรับปรุงแก้ไขการหมุนของเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จนมีความเที่ยงตรง สอดคล้องกับการทํางานของซอฟต์แวร์ใต้ภาพที่ชัดเจนแม่นยําได้ - พ.ศ. 2550 เริ่มต้นโครงการ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบลำรังสีทรงกรวย จากการรวมกลุ่มของคณะวิจัยนำโดย ศ. ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ (ที่ปรึกษาอาวุโส สวทช. และผู้เชี่ยวชาญพิเศษ) เป็นผู้อำนวยการโครงการ, ดร.เสาวภาคย์ ธงวิจิตรมณี (นักวิจัยอาวุโส) เป็นหัวหน้านักวิจัยระบบซอฟต์แวร์ และ ดร.กฤษณ์ไกรพ์ สิทธิเสรีประทีป (นักวิจัยอาวุโส) เป็นหัวหน้านักวิจัยระบบฮาร์ดแวร์ และคณะวิจัยจาก สวทช. จากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทเค) และ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ของสวทช. ต่อมาบางส่วนได้ย้ายไปสังกัดศูนย์วิจัยเทคโนโลยีสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือแพทย์ (A-MED) ของ สวทช. เช่นกัน
- พ.ศ. 2551 เครื่อง DentiiScan รุ่น 1.0 ระดับห้องปฏิบัติการประสบความสําเร็จในการพัฒนา
- พ.ศ. 2552 สามารถพัฒนา DentiiScan 1.1 เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สำหรับงานทันตกรรม เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบลำรังสีทรงกรวยสำหรับงานทันตกรรม ให้ข้อมูลอวัยวะภายในแบบสามมิติและไม่มีการบิดเบือนของข้อมูล ทำให้การวินิจฉัยโรคและวางแผนการผ่าตัดมีความแม่นยำและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นำไปใช้ในงานทันตกรรมรากฟันเทียม การผ่าฟันคุด และการผ่าตัดบริเวณช่องปาก ขากรรไกร และใบหน้า และตรวจดูไซนัส
- พ.ศ. 2554 – 2556 ติดตั้ง DentiiScan 1.1 ใน 3 แห่ง คือ คณะทันตแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (พ.ศ. 2554) ศูนย์ทันตกรรม SDC (พ.ศ. 2554) โรงพยาบาาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ (พ.ศ. 2556) ตามลำดับ
- พ.ศ. 2558 สามารถพัฒนา DentiiScan 2.0
- พ.ศ. 2558 – 2562 มีการขยายงานวิจัยในการพัฒนาเครื่อง MiniiScan รุ่นที่ 1 เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเพื่อตรวจขอบเขตทางรังสีของก้อนเนื้อเต้านมในห้องผ่าตัด โดยได้รับทุนสนับสนุนและความร่วมมือจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เครื่อง MiniiScan สามารถถ่ายภาพชิ้นเนื้อมะเร็งเต้านมในห้องผ่าตัดเพื่อประเมินขอบเขตทางรังสีของก้อนเนื้องอกในเต้านมที่ได้รับการผ่าตัด ช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งเต้านมได้การผ่าตัดที่รวดเร็ว และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2561 รศ.นพ.พุฒิศักดิ์ พุทธวิบูลย์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อตรวจขอบเขตทางรังสีของก้อนเนื้อเต้านมในห้องผ่าตัด หรือ MiniiScan เครื่องแรกของโลก ณ ห้องประชุมเฉลิมพระบารมี ชั้น 12 อาคารเฉลิมพระบารมี โดย รศ.ดร.ชูศักดิ์ ลิ่มสกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับ ศาสตราจารย์ ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ ที่ปรึกษาอาวุโส สวทช. ในฐานะผู้อำนวยการโครงการเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติและเครื่องถ่ายรังสีสองมิติ และคณะนักวิจัยของ สวทช. ร่วมกันแถลงผลสำเร็จของความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาเครื่อง MiniiScan
จุดเด่นของเครื่องตรวจ MiniiScan คือ เครื่องมีขนาดเล็กสามารถวางไว้ในห้องผ่าตัดได้และการทำงานของเครื่องแตกต่างจากเครื่องซีทีสแกนเครื่องใหญ่ เครื่องตรวจเอกซเรย์โดยทั่วไป คือ สิ่งที่ต้องการจะตรวจจะอยู่กับที่และเครื่องผลิตรังสี (X-ray source) และจอรับภาพ (Detector) เป็นตัวหมุนรอบวัตถุทำให้กินพื้นที่จากการหมุนกว้างมาก แต่เครื่อง MiniiScan นี้จะใช้การหมุนของแท่นวางชิ้นเนื้อแทนทำให้ประหยัดพื้นที่ เครื่องตรวจจึงมีขนาดเล็กสามารถเคลื่อนย้ายได้ นำไปไว้ในห้องผ่าตัดได้ สามารถตรวจชิ้นเนื้อได้ง่าย ผู้ใช้สามารถทำได้ด้วยตนเองและประมวลผลได้รวดเร็ว เนื่องจากเครื่องติดตั้งและใช้งานภายในห้องผ่าตัด หลังจากผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดชิ้นเนื้อจะถูกส่งตรวจได้ทันที เครื่องนี้ใช้เวลาในการประมวลผลภาพประมาณ 5 นาที จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า สามารถลดระยะเวลาการตรวจชิ้นเนื้อได้ถึง 15 นาที นอกจากนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในเนื้อเยื่อของอวัยวะอื่นที่ต้องการตรวจขอบเขตความห่างจากพื้นผิวของก้อน เช่น ตับ ตับอ่อน เป็นต้น ชมวิดีโอแนะนำ เครื่อง MiniiScan รุ่นที่ 1 https://www.youtube.com/watch?v=5u3xvJooFSE&ab_channel=NECTEC
โดยได้มีการทดสอบการใช้งาน เครื่อง MiniiScan รุ่นที่ 1 ประมาณ 100 เคส ที่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ซึ่งแพทย์ระบุว่าพบข้อจำกัดบางประการ ตัวอย่างเช่น ต้องการให้เครื่องมีขนาดเล็กลง และยังมีภาพที่เกิดจากการรบกวนของสัญญาณจากโลหะ ดังนั้น พ.ศ. 2562 ทีมวิจัยจึงได้พัฒนาปรับปรุงข้อจำกัดดังกล่าว เป็น เครื่อง MiniiScan รุ่นที่ 2 ซึ่งมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานให้สูงขึ้น โดยมีการปรับแหล่งกำเนิดรังสีในลักษณะของไมโครโฟกัสเพื่อให้สามารถถ่ายภาพที่ละเอียดยิ่งขึ้นในระดับไมโครเมตร ปรับปรุงในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์โดยการลดขนาดของเครื่องให้เล็กลง ให้สามารถเคลื่อนที่ได้และเหมาะสมกับการใช้งานในห้องผ่าตัดยิ่งขึ้น ปรับความละเอียดของภาพ และลดระยะเวลาในการถ่ายภาพ รวมถึงเพิ่มฟังก์ชันเพื่อช่วยลดสัญญาณรบกวนต่างๆ โดยอุปกรณ์ได้ผ่านการทดสอบในห้องปฏิบัติ ทั้งการทดสอบปริมาณของรังสี การทดสอบรูปภาพและความละเอียดต่างๆ ซึ่งผลการทดสอบพบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยทางด้านรังสี และทางด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ปัจจุบันเครื่อง MiniiScan รุ่นที่ 2 ถูกติดตั้งที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อทดสอบการใช้งานทางคลินิก ตั้งแต่ พ.ศ. 2564 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้งานซึ่งเครื่อง ชมวิดีโอแนะนำ เครื่อง MiniiScan รุ่นที่ 2 https://www.youtube.com/watch?v=wjKvFwjw_t8&ab_channel=NSTDAChannelTVstationเครื่อง MiniiScan https://www.nstda.or.th/nac/2022/exhibition/miniiscan/index.html - พ.ศ. 2559 DentiiScan ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 13485 มาตรฐานสากลสำหรับระบบการจัดการคุณภาพที่ใช้ในอุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์ จากบริษัท TÜV SÜD
- พ.ศ. 2560 ถ่ายทอดเทคโนโลยี DentiiScan ให้แก่ บริษัท พิกซาเมด จำกัด (PIXAMED CO., LTD.) ผู้ผลิตและให้บริการอุปกรณ์ทางการแพทย์
- พ.ศ. 2559 – 2560 DentiiScan รุ่น 2.0ได้รับทุนสนับสนุนจาก ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) และ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในการขยายผล โดยติดตั้งในโรงพยาบาล 7 แห่ง คือ สถาบันทันตกรรม โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โรงพยาบาลแพร่ โรงพยาบาลสกลนคร โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา สภากาชาดไทย โรงพยาบาลบ้านแพ้ว (องค์กรมหาชน) โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
- พ.ศ. 2560 จาก DentiiScan มีการวิจัยและพัฒนาไปสู่รูปแบบการสแกนในท่านอนและเป็น เครื่อง MobiiScan เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติลำรังสีทรงกรวยแบบเคลื่อนย้ายได้ (Mobile Cone-Beam CT) เนื่องจาก สาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยจากอุบัติเหตุส่วนใหญ่ เกิดจากอาการเลือดออกในสมองและไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที หลักสำคัญของการรักษาผู้ป่วยกลุ่มนี้ คือ ความรวดเร็วในการตรวจวินิจฉัย การใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ จะทำให้แพทย์วินิจฉัยการบาดเจ็บ และให้การรักษาได้เหมาะสม แต่โรงพยาบาลขนาดเล็กมักไม่มีเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ทำให้ไม่สามารถแยกผู้ป่วยเลือดออกในสมองออกจากผู้ป่วยอุบัติเหตุปกติได้ จึงต้องส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยในโรงพยาบาลใหญ่หนาแน่นมาก ด้วยเหตุนี้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และทีมวิจัยของ สวทช. จึงได้ร่วมวิจัยและพัฒนาเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบเคลื่อนย้ายได้ สำหรับผู้ป่วยที่ต้องนอนระหว่างการถ่ายรังสี ใช้ในการวินิจฉัยและวางแผนการผ่าตัดในผู้ป่วยเด็กและผู้ใหญ่ที่มีความพิการบริเวณใบหน้า กะโหลกศีรษะ และขากรรไกร รวมทั้งผู้ป่วยโรคปากแหว่งเพดานโหว่ วินิจฉัยบริเวณมือและเท้า และใช้ในห้องผ่าตัดได้
เครื่อง MobiiScan ใช้รังสีเอกซ์และหน่วยตรวจรับรังสีชนิดแบนราบ (Flat panel detector) ขนาดใหญ่ อุปกรณ์ทั้งสองจะหมุนรอบศีรษะผู้ป่วยที่อยู่ในท่านอนประมาณ 12 วินาที เพื่อเก็บข้อมูลดิบในแต่ละมุมมอง จากนั้นนำข้อมูลดิบที่ได้มาผ่านอัลกอริทึมในการสร้างภาพตัดขวาง (Reconstruction) เพื่อสร้างภาพตัดขวางแบบสามมิติบริเวณช่องปากและขากรรไกรของผู้ป่วย ภาพตัดขวางที่ได้จะถูกแสดงผลในมุมมองสองมิติและสามมิติโดยผ่านซอฟต์แวร์แสดงภาพ (Viewer software) นอกจากนี้แพทย์และทันตแพทย์สามารถดูภาพสามมิติในมุมมองต่างๆ บนสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านระบบคลาวด์ (RadiiView) เครื่อง MobiiScan ให้ข้อมูลแบบสามมิติที่ไม่มีการบิดเบือนของข้อมูล สามารถนำไปใช้ในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาโรคต่างๆ บริเวณศีรษะ เช่น การผ่าตัดบริเวณใบหน้า กะโหลกศีรษะ และขากรรไกร, การตรวจดูไซนัส, งานทางด้าน ENT เป็นต้น รวมทั้งโรคปากแหว่งเพดานโหว่ แม้ว่าซอฟต์แวร์สำหรับเครื่อง MobiiScan มีพื้นฐานมาจากซอฟต์แวร์สำหรับเครื่อง DentiiScan แต่ต้องมีการปรับปรุงให้เข้ากับเครื่อง MobiiScan ที่มีการใช้ฉากรับรังสีที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้มีสัญญาณรบกวนมากขึ้น กำหนดพื้นที่ในการฉายรังสี (Collimator) สำหรับเครื่อง MobiiScan ในแต่ละโหมดของการฉายรังสีเพื่อลดปริมาณรังสีให้ผู้ป่วย ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.nectec.or.th/innovation/innovation-hardware-electronics/mobiiscan.html วิดีโอแนะนำ MobiiScan https://www.youtube.com/watch?v=fZvVDFwK1mg&ab_channel=NECTEC


- พ.ศ. 2560 เครื่อง MobiiScan ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 13485 มาตรฐานสากลสำหรับระบบการจัดการคุณภาพที่ใช้ในอุตสาหกรรมอุปกรณ์การแพทย์ จากบริษัท TÜV SÜD
- พ.ศ. 2560 – 2563 มีการขยายผลการใช้งานทางคลินิกเครื่อง MobiiScan ในสถานพยาบาล 4 แห่ง คือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตามลำดับ โดยให้บริการแก่ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติบริเวณใบหน้า กะโหลกศีรษะและขากรรไกร และผู้ป่วยทันตกรรม
- พ.ศ. 2561 – 2562 ทีมวิจัยได้รับ งบกลางปี พ.ศ. 2560 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โครงการ Big Rock สำหรับขยายผลงานวิจัย DentiiScan เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ไทย โดยติดตั้งเครื่อง DentiiScan 2.0 ใน 50 แห่งทั่วประเทศ
โครงการขยายผล DentiiScan (Big Rock) เป็นโครงการขนาดใหญ่ของ สวทช. ที่ส่งผลกระทบในระดับชาติทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม ถือว่าเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลทางทันตกรรมครั้งสำคัญของประเทศ ด้วยการติดตั้งเครื่อง DentiiScan 2.0 ในโรงพยาบาลภาครัฐ 50 แห่ง และมีการฝึกอบรมทันตแพทย์และบุคลากรทางทันตกรรมเป็นจำนวนมากกว่า 900 คน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการรักษาผู้ป่วยทางทันตกรรม ตลอดจนมีการฝังรากฟันเทียมในผู้ป่วยคนไทย จำนวน 3,000 ราก เพื่อเพิ่มความชำนาญให้กับทันตแพทย์และเพิ่มโอกาสให้ผู้ป่วยยากไร้และด้อยโอกาส มีโอกาสได้รับการรักษาทางทันตกรรมด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้เกิดการตื่นตัวครั้งใหญ่ในวงการทันตกรรมของประเทศไทย หลายบริษัทต้องปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ - พ.ศ. 2563 บริษัท พิกซาเมด จำกัด ผู้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิตและจำหน่ายเครื่อง DentiiScan ได้ยื่นเรื่อง เครื่อง DentiiScan รุ่น 2.0 ในการขอขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย และได้รับอนุมัติจากสำนักงบประมาณ ราคาต่อหน่วย 4.8 ล้านบาท (มกราคม พ.ศ. 2563–มกราคม พ.ศ. 2569)
- พ.ศ. 2564, 2565, 2568 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานเครื่อง MobiiScan ให้แก่ หน่วยงานที่ให้การดูแลและรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่และผู้ป่วยที่มีความผิดปกติบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ จำนวน 3 หน่วยงาน หน่วยงานละ 1 เครื่อง ผ่านมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประกอบด้วย (1) ศูนย์แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ ฯ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ติดตั้งเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 2564 (2) ศูนย์ตะวันฉาย มหาวิทยาลัยขอนแก่น ติดตั้งเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2565 และ (3) ศูนย์พัฒนลักษณ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ติดตั้งเมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2568 สำหรับใช้ในการตรวจวินิจฉัย วางแผนการผ่าตัดรักษาและติดตามการรักษาผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่และความผิดปกติของศีรษะและใบหน้าเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างมีคุณภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดในการรักษาผู้ป่วย ในการดำเนินงาน มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริฯ สนับสนุนเงินทุนให้ สวทช. ดำเนินการผลิตเครื่อง MobiiScan ให้แก่ทั้ง 3 หน่วยงาน รวมมูลค่าเครื่องละ 7.5 ล้าน ทั้งนี้มูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศตามพระราชดำริ ฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงานดังกล่าวจากมูลนิธิทุนท่านท้าวมหาพรหมโรงแรมเอราวัณร่วมดัวย

ในการพัฒนาเครื่อง DentiiScan รุ่น 1.1 และ 2.0 ทีมวิจัยได้พัฒนาซอฟต์แวร์ช่วยวางแผนการผ่าตัดรากฟันเทียม (DentiPlan) ติดตั้งใช้งานพร้อมกับเครื่อง DentiiScan และติดตั้งเพิ่มเติมให้ทันตแพทย์ใช้งาน รวมทั้งมีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิเพื่อประโยชน์ทางการค้า โดย DentiPlan เป็นซอฟต์แวร์ช่วยวางแผนการผ่าตัดรากฟันเทียม และใช้แสดงผลภาพสามมิติจากเครื่อง DentiiScan การออกแบบและพัฒนามีทั้งการปรับปรุงฟังก์ชันที่มีแต่เดิม และการเพิ่มฟังก์ชันใหม่เพื่อให้ใช้งานง่ายและตรงกับความต้องการมากยิ่งขึ้น อาทิ การสร้างเส้นโค้งพาโนรามิกตามแนวขากรรไกรแบบอัตโนมัติ การนำเข้ากราฟิกไฟล์สามมิติที่ได้จากการสแกนพื้นผิวฟันและสันเหงือก DentiiScan ทั้งที่ได้จากเครื่องจาก Intraoral Scanner หรือจากการสแกนตัวพิมพ์ปาก เพื่อนำมาแสดงร่วมกับภาพซีทีจากเครื่อง ที่เห็นอวัยวะภายในโดยแสดงผลการซ้อนทับกันช่วยให้ทันตแพทย์วางแผนการฝังรากฟันเทียมได้ถูกต้องมากขึ้น การนำออกข้อมูลกราฟิกของแบบจำลอง 3 มิติและแบบจำลองรากฟันเทียมที่มีความละเอียดสูง เพื่อนำไปใช้ในการออกแบบเครื่องมือนำร่องสำหรับเจาะ (Drill Guide) ในการฝังรากฟันเทียม การออกรายงานที่จัดเรียงข้อมูลรากฟันทียมและรูปที่สอดคล้องกับการใช้งานอย่างอัตโนมัติและพร้อมใช้กับเครื่องพิมพ์ฟิล์ม เป็นต้น
ระบบ DentiPlan ได้ติดตั้งไปพร้อมกับเครื่อง DentiiScan ที่ได้ถูกติดตั้งตามโรงพยาบาลทั้งก่อนหน้าและพร้อมกับโครงการ Big Rock 5 โครงการสำหรับขยายผลงานวิจัย DentiiScan เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ไทยรวมแล้ว 57 แห่ง รวมทั้งได้ติดตั้งให้กับกลุ่มทันตแพทย์ตามโรงพยาบาลต่างๆ ที่ได้ติดตั้งเครื่อง DentiiScan รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 450 licenses มีการทำสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิเพื่อประโยชน์ทางพาณิชย์ ใน DentiPlan และเครื่องหมายการค้า DentiPlan สัญญาเลขที่ LCA-NT-2561-6256 (BTT076//2561)
ทีมวิจัยยังได้พัฒนา Digital Dentistry Platform แพลตฟอร์มดิจิทัลทางทันตกรรม ระบบสนับสนุนการให้บริการทางทันตกรรม เช่น การบริการถ่ายภาพทางทันตกรรม 3 มิติแบบดิจิทัล การบริการช่วยฝังรากฟันเทีมโดยใช้ซอฟต์แวร์ การบริการทําครอบฟันและแม่แบบสําหรับการเจาะทางการแพทย์ที่ใช้ในการผ่าตัด และการบริหารจัดการข้อมูลผ่านระบบคลาวด์ เป็นต้น แพลตฟอร์มฯ นี้จะเป็นช่องทางการสร้างเครือข่ายทันตแพทย์และบุคลากรทางทันตกรรม ให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนวัตกรรมไทยทางด้านทันตกรรมและช่วยเสริมสร้างความก้าวหน้าให้กับงานทันตกรรมของประเทศ
ทีมวิจัย ได้ยื่นจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรเกี่ยวกับการพัฒนา DentiiScan และที่ผลงานต่อยอด ทั้งในมุมซอฟต์แวร์และฮาร์แวร์ เพื่อคุ้มครองสิทธิในสิ่งประดิษฐ์หรือนวัตกรรม ตัวอย่างสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตรที่ยื่นจด
การจดแจ้งลิขสิทธิ์และเครื่องหมายการค้า
ชื่อผลงาน | ประเภทงาน | ลักษณะงาน | เลขที่คำขอ |
เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบเคลื่อนย้ายได้ (MobiiScan) | วรรณกรรม | โปรแกรมคอมพิวเตอร์ | 340767 |
บอดีเรย์สำหรับเครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลสองมิติ (BodiiRay) | วรรณกรรม | โปรแกรมคอมพิวเตอร์ | 340766 |
BodiiRay – Management | วรรณกรรม | โปรแกรมคอมพิวเตอร์ | 379861 |
BodiiRay – Acquisition | วรรณกรรม | โปรแกรมคอมพิวเตอร์ | 379863 |
BodiiRay – Processing | วรรณกรรม | โปรแกรมคอมพิวเตอร์ | 379862 |
เดนตีสแกนสำหรับเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ทางทันตกรรม (DentiiScan) | วรรณกรรม | โปรแกรมคอมพิวเตอร์ | 336468 |
DentiiScan – Reconstruction | วรรณกรรม | โปรแกรมคอมพิวเตอร์ | 374102 |
DentiiScan – Calibration | วรรณกรรม | โปรแกรมคอมพิวเตอร์ | 381549 |
DentiiScan – Management | วรรณกรรม | โปรแกรมคอมพิวเตอร์ | 375450 |
DentiiScan – PACS connection | วรรณกรรม | โปรแกรมคอมพิวเตอร์ | 374098 |
DentiiScan – MAR | วรรณกรรม | โปรแกรมคอมพิวเตอร์ | 374099 |
DentiiScan – Acquisition | วรรณกรรม | โปรแกรมคอมพิวเตอร์ | 374096 |
DentiPlan Pro X | วรรณกรรม | โปรแกรมคอมพิวเตอร์ | 374101 |
DentiPlan Pro | วรรณกรรม | โปรแกรมคอมพิวเตอร์ | 374100 |
DentiPlan | เครื่องหมายเครื่องหมายการค้า | 684299 | |
DentiPlan | เครื่องหมายเครื่องหมายการค้า | 684300 |
ตัวอย่างสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในผลงาน
ชื่อสัญญาอนุญาต | บริษัทผู้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิ | วันเริ่มสัญญา | วันสิ้นสุดสัญญา |
สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในผลงานวิจัยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สำหรับงานทันตกรรมเดนตีสแกน รุ่นทรีโอ (DentiiScan Trio) เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ | บริษัท พิกซาเมด จำกัด | 25 มี.ค. 2567 | 24 มี.ค. 2570 |
สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในผลงานวิจัยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ 3 มิติ ทางทันตกรรม รุ่น 2.0 (DentiiScan 2.0) เพื่อผลิตและขายผลิตภัณฑ์ | บริษัท พิกซาเมด จำกัด | 22 ก.พ. 2563 | 21 ก.พ. 2566 |
สัญญาอนุญาตให้สิทธิใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยเครื่องเอกซเรย์ดิจิทัลแบบเคลื่อนที่ได้ขนาดเล็ก (BodiiRay P) เพื่อใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ | บริษัท พิกซาเมด จำกัด | 07 เม.ย. 2565 | 06 เม.ย. 2568 |
สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิในผลงานวิจัย ระบบบอดีเรย์อาร์ เพื่อผลิตและขายผลิตภัณฑ์ | บริษัท พิกซาเมด จำกัด | 01 พ.ค. 2563 | 30 เม.ย. 2566 |
บางส่วนของบทความวิจัยและวิชาการซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับ Cone-Beam CT, CT image management, Image processing, Image Quality, DentiiScan, MobiiScan, MiniiScan และ Radiation dose
- พ.ศ. 2551
- Aootaphao, S., Pintavirooj, C., & Sotthivirat, S. (2008). Penalized-likelihood reconstruction for metal artifact reduction in cone-beam CT. 2008 30th Annual International Conference of the IEEE Engineering in Medicine and Biology Society, 2733–2736. https://doi.org/10.1109/IEMBS.2008.4649767
- พ.ศ. 2552
- Bholsithi, W., Tharanon, W., Chintakanon, K., Komolpis, R., & Sinthanayothin, C. (2009). 3D vs. 2D cephalometric analysis comparisons with repeated measurements from 20 Thai males and 20 Thai females. Biomedical Imaging and Intervention Journal, 5(4). https://doi.org/10.2349/biij.5.4.e21
- พ.ศ. 2553
- Phumeechanya, S., Pluempitiwiriyawej, C., & Thongvigitmanee, S. (2010). Active Contour using local regional information on extendable search lines (LRES) for image segmentation. IEICE Transactions on Information and Systems, E93-D(6), 1625–1635. https://doi.org/10.1587/transinf.e93.d.1625
- Phumeechanya, S., Pluempitiwiriyawej, C., & Thongvigitmanee, S. (2010). Edge type-selectable active contour using local regional information on extendable search lines. 2010 IEEE International Conference on Image Processing, 653–656. https://doi.org/10.1109/ICIP.2010.5650160
- พ.ศ. 2556
- Aootaphao, S., Thongvigitmanee, S. S., Rajruangrabin, J., Junhunee, P., & Thajchayapong, P. (2013). Experiment-based scatter correction for cone-beam computed tomography using the statistical method. 2013 35th Annual International Conference of the IEEE Engineering in Medicine and Biology Society (EMBC), 5087–5090. https://doi.org/10.1109/EMBC.2013.6610692
- Aootaphao, S., Thongvigitmanee, S., Rajruangrabin, J., Yampri, P., Srivongsa, T., & Thajchayapong, P. (2013). Fast scatter correction for cone-beam computed tomography using the statistical method. 2021 IEEE Nuclear Science Symposium and Medical Imaging Conference (NSS/MIC), 1–3. https://doi.org/10.1109/nssmic.2013.6829350
- Pauwels, R., Jacobs, R., Bosmans, H., Pittayapat, P., Kosalagood, P., Silkosessak, O., & Panmekiate, S. (2013). Automated implant segmentation in cone-beam CT using edge detection and particle counting. International Journal of Computer Assisted Radiology and Surgery, 9(4), 733–743. https://doi.org/10.1007/s11548-013-0946-z
- Rajruangrabin, J., Thongvigitmanee, S. S., Aootaphao, S., & Thajchayapong, P. (2013). Acceleration of filtered back-projection algorithm for 3D cone-beam CT reconstruction using parallel computation. 2021 IEEE Nuclear Science Symposium and Medical Imaging Conference (NSS/MIC), 1–4. https://doi.org/10.1109/nssmic.2013.6829343
- Rajruangrabin, J., Thongvigitmanee, S. S., Aootaphao, S., & Thajchayapong, P. (2013). Acceleration of filtered back-projection algorithm for 3D cone-beam CT reconstruction using parallel computation. In 2013 IEEE Nuclear Science Symposium and Medical Imaging Conference (2013 NSS/MIC) (pp. 1–4). IEEE. https://doi.org/10.1109/NSSMIC.2013.6829343
- Sa-ing, V., Wangkaoom, K., & Thongvigitmanee, S. S. (2013). Automatic dental arch detection and panoramic image synthesis from CT images. 2013 35th Annual International Conference of the IEEE Engineering in Medicine and Biology Society (EMBC), 6099–6102. https://doi.org/10.1109/EMBC.2013.6610944
- Thanasupsombat, C., Pengvanich, P., Aootaphao, S., & Thongvigitmanee, S. S. (2013). A post-processing method for improving contrast and reducing cupping artifacts in low-energy CBCT images. 2021 IEEE Nuclear Science Symposium and Medical Imaging Conference (NSS/MIC), 1–3. https://doi.org/10.1109/nssmic.2013.6829267
- Thongvigitmanee, S. S., Kasemsarn, S., Sirisalee, P., Aootaphao, S., Rajruangrabin, J., Yampri, P., Srivongsa, T., Sa-Ing, V., & Thajchayapong, P. (2013). DentiiScan: The first cone-beam CT scanner for dental and maxillofacial imaging developed in Thailand. 2021 IEEE Nuclear Science Symposium and Medical Imaging Conference (NSS/MIC), 1–3. https://doi.org/10.1109/nssmic.2013.6829132
- Thongvigitmanee, S. S., Pongnapang, N., Aootaphao, S., Yampri, P., Srivongsa, T., Sirisalee, P., Rajruangrabin, J., & Thajchayapong, P. (2013). Radiation dose and accuracy analysis of newly developed cone-beam CT for dental and maxillofacial imaging. In Proceedings of the Annual International Conference of the IEEE Engineering in Medicine and Biology Society (EMBC) (pp. 2356–2359). IEEE. https://doi.org/10.1109/EMBC.2013.6610011
- Thongvigitmanee, S., Kasemsarn, S., Sirisalee, P., Aootaphao, S., Rajruangrabin, J., Yampri, P., Srivongsa, T., Sa-Ing, V., & Thajchayapong, P. (2013). DentiiScan: The first cone-beam CT scanner for dental and maxillofacial imaging developed in Thailand. In 2013 IEEE Nuclear Science Symposium and Medical Imaging Conference (2013 NSS/MIC) (pp. 1–3). IEEE. https://doi.org/10.1109/NSSMIC.2013.6829132
- Tuntakurn, A., Thongvigitmanee, S. S., Sa-Ing, V., Hasegawa, S., & Makhanov, S. S. (2013). Natural interactive 3D medical image viewer based on finger and arm gestures. In The 6th 2013 Biomedical Engineering International Conference (BMEiCON) (pp. 1–5). IEEE. https://doi.org/10.1109/BMEiCon.2013.6687682
- Thongvigitmanee, S. S., et al. (2013). Radiation dose and accuracy analysis of newly developed cone-beam CT for dental and maxillofacial imaging. 2013 35th Annual International Conference of the IEEE Engineering in Medicine and Biology Society (EMBC), 2356–2359. https://doi.org/10.1109/EMBC.2013.6610011
- พ.ศ. 2557
- Pauwels, R., Araki, K., Siewerdsen, J. H., & Thongvigitmanee, S. S. (2014). Technical aspects of dental CBCT: state of the art. Dentomaxillofacial Radiology, 44(1), 20140224. https://doi.org/10.1259/dmfr.2014022
- พ.ศ. 2558
- Keatmanee, C., Makhanov, S. S., Kotani, K., Kondo, T., & Thongvigitmanee, S. S. (2015). Inferior alveolar canal segmentation in cone beam computed tomography images using an adaptive diffusion flow active contour model. 2015 14th IAPR International Conference on Machine Vision Applications (MVA), 57–60. https://doi.org/10.1109/MVA.2015.7153132
- Kaewlek, T., Koolpiruck, D., Thongvigitmanee, S., Mongkolsuk, M., Thammakittiphan, S., Tritrakarn, S., & Chiewvit, P. (2015). Metal artifact reduction and image quality evaluation of lumbar spine CT images using metal sinogram segmentation. Journal of X-Ray Science and Technology, 23(6), 649–666. https://doi.org/10.3233/xst-150518
- พ.ศ. 2559
- Aootaphao, S., Thongvigitmanee, S. S., Rajruangrabin, J., Thanasupsombat, C., Srivongsa, T., & Thajchayapong, P. (2016). X-Ray Scatter correction on soft tissue images for portable cone beam CT. BioMed Research International, 2016, 1–12. https://doi.org/10.1155/2016/3262795
- พ.ศ. 2560
- Koonsanit, K., Thongvigitmanee, S., Pongnapang, N., & Thajchayapong, P. (2017). Image enhancement on digital X-ray images using N-CLAHE. In 2017 10th Biomedical Engineering International Conference (BMEiCON) (pp. 1–4). IEEE. https://doi.org/10.1109/BMEiCON.2017.8229130
- พ.ศ. 2561
- Thanasupsombat, C., Thongvigitmanee, S. S., Aootaphao, S., & Thajchayapong, P. (2018). A simple scatter reduction method in Cone-Beam computed tomography for dental and maxillofacial applications based on Monte Carlo simulation. BioMed Research International, 2018, 1–15. https://doi.org/10.1155/2018/5748281
- พ.ศ. 2561
- Thanasupsombat, C., Thongvigitmanee, S. S., Aootaphao, S., & Thajchayapong, P. (2018). A simple scatter reduction method in Cone-Beam computed tomography for dental and maxillofacial applications based on Monte Carlo simulation. BioMed Research International, 2018, 1–15. https://doi.org/10.1155/2018/5748281
- พ.ศ. 2562
- Thitiorul, S., Mahakkanukrauh, P., Prasitwattanaseree, S., Sitthiseripratip, K., Iamaroon, A., Lampang, S. N., & Prapayasatok, S. (2019). Three‐Dimensional prediction of the nose for facial approximation in a Thai population. Journal of Forensic Sciences, 65(3), 707–714. https://doi.org/10.1111/1556-4029.14253
- Thitiorul, S., Prapayasatok, S., Lampang, S. N., Prasitwattanaseree, S., Sitthiseripratip, K., Iamaroon, A., & Mahakkanukrauh, P. (2019). Nose width and mouth width predictions in a Thai population using cone-beam computed tomography data. Australian Journal of Forensic Sciences, 1–10. https://doi.org/10.1080/00450618.2019.1701077
- Thitiorul, S., Prapayasatok, S., Lampang, S. N., Prasitwattanaseree, S., Sitthiseripratip, K., Iamaroon, A., & Mahakkanukrauh, P. (2019). Predicting pronasale position in Thais: a test of four updated methods. Australian Journal of Forensic Sciences, 53(2), 211–223. https://doi.org/10.1080/00450618.2019.1671492
- พ.ศ. 2563
- Sinsuebphon, N., Techavipoo, U., Koonsanit, K., Prompalit, S., & Thongvigitmanee, S. (2020). Adaptive multi-scale image enhancement for digital radiography. 2020 42nd Annual International Conference of the IEEE Engineering in Medicine & Biology Society (EMBC), 2190–2193. https://doi.org/10.1109/EMBC44109.2020.9175946
- พ.ศ. 2564
- Jariyapongpaiboon, P., Chartpitak, J., & Jitsaard, J. (2021). The accuracy of computer-aided design and manufacturing surgical-guide for infrazygomatic crest miniscrew placement. APOS Trends in Orthodontics, 11, 48–55. https://doi.org/10.25259/apos_127_2020
- Narkbuakaew, W., Aootaphao, S., Thanasupsombat, C., & Thongvigitmanee, S. S. (2021). Metal artifact reduction based on 2D-projection correction for dental cone-beam CT images. In 2021 13th Biomedical Engineering International Conference (BMEiCON) (pp. 1–4). IEEE. https://doi.org/10.1109/BMEiCON53485.2021.9745206
- Prompalit, S., Sinsuebphon, N., Thanasupsombat, C., & Thongvigitmanee, S. (2021). A comparative study of digital X-ray software and detectors. In 2021 13th Biomedical Engineering International Conference (BMEiCON) (pp. 1–5). IEEE. https://doi.org/10.1109/BMEiCON53485.2021.9745226
- Techavipoo, U., Sinsuebphon, N., Prompalit, S., Thongvigitmanee, S., Narkbuakaew, W., Kiang-Ia, A., Srivongsa, T., Thajchayapong, P., & Chaumrattanakul, U. (2021). Image quality evaluation of a digital radiography system made in Thailand. BioMed Research International, 2021, 1–12. https://doi.org/10.1155/2021/3102673
- Vejjanugraha, P., Kotani, K., Kongprawechnon, W., Kondo, T., & Tungpimolrut, K. (2021). Automatic screening of lung diseases by 3D active contour method for inhomogeneous motion estimation in CT image pairs. Walailak Journal of Science and Technology (WJST), 18(12). https://doi.org/10.48048/wjst.2021.10573
- พ.ศ. 2565
- Aootaphao, S., Thongvigitmanee, S. S., Puttawibul, P., & Thajchayapong, P. (2022). Truncation effect reduction for fast iterative reconstruction in cone-beam CT. BMC Medical Imaging, 22(1). https://doi.org/10.1186/s12880-022-00881-8
- Banarsarn, D., Narkbuakaew, W., Wangkaoom, K., Iamsiri, S., & Thongvigitmanee, S. S. (2022). Automatic ray-sum panoramic synthesis from cone-beam CT data. In 2022 14th Biomedical Engineering International Conference (BMEiCON) (pp. 1–4). IEEE. https://doi.org/10.1109/BMEiCON56653.2022.10011585
- Kiang-Ia, A., Thanasupsombat, C., Iamsiri, S., Aootaphao, S., & Thongvigitmanee, S. S. (2022). A control system in a micro cone-beam CT machine. In 2022 14th Biomedical Engineering International Conference (BMEiCON) (pp. 1–4). IEEE. https://doi.org/10.1109/BMEiCON56653.2022.10012087
- Mekcha, P., Wongpairojpanich, J., Thammarakcharoen, F., Suwanprateeb, J., & Buranawat, B. (2022). Customized 3D printed nanohydroxyapatite bone block grafts for implant sites: A case series. Journal of Prosthodontic Research, 67(2), 311–320. https://doi.org/10.2186/jpr.jpr_d_22_00037
- Narkbuakaew, W., Wangkaoom, K., Banarsarn, D., Thanasupsombat, C., Iamsiri, S., & Thongvigitmanee, S. S. (2022). A combination of a 3D surface model and CBCT images for dental applications using VTK library. In 2022 14th Biomedical Engineering International Conference (BMEiCON) (pp. 1–4). IEEE. https://doi.org/10.1109/BMEiCON56653.2022.10012067
- Pripatnanont, P., Boonsri, N., & Monmaturapoj, N. (2022). Performance of an alloplastic material versus a mineralized allograft in alveolar ridge preservation: Clinical, micro-CT and histological analyses. Journal of Oral and Maxillofacial Surgery Medicine and Pathology, 34(5), 561–570. https://doi.org/10.1016/j.ajoms.2022.02.012
- พ.ศ. 2567
- Aootaphao, S., Puttawibul, P., Thajchayapong, P., & Thongvigitmanee, S. S. (2024). Artifact suppression for breast specimen imaging in micro CBCT using deep learning. BMC Medical Imaging, 24(1). https://doi.org/10.1186/s12880-024-01216-5
- พ.ศ. 2568
- Roongruangsilp, P., Narkbuakaew, W., & Khongkhunthian, P. (2025). Performance of two different artificial intelligence models in dental implant planning among four different implant planning software: a comparative study. BMC Oral Health, 25(1). https://doi.org/10.1186/s12903-025-06336-0
ตัวอย่างรางวัลที่ได้รับ
- รางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่น ประจำปี 2562 มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ จากโครงการ เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบลำรังสีทรงกรวย 1) เครื่องเดนตีสแกน (DentiiScan) เน้นงานทันตกรรมและศัลยกรรมบริเวณช่องปากและใบหน้า 2) เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบเคลื่อนย้ายได้(MobiiScan) เน้นการแก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ 3) เครื่องมินีสแกน (MiniiScan) เน้นการตรวจหาขอบเขตทางรังสีของก้อนเนื้อเต้านมในห้องผ่าตัด ข้อมูลเพิ่มเติม https://www.nstda.or.th/archives/3dxray-promotion-scitec-award/


แหล่งข้อมูล
- NECTEC. (2564). Cone-beam CT : MobiiScan. [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=fZvVDFwK1mg&ab_channel=NECTEC
- NECTEC. (2561). MiniiScan. [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=5u3xvJooFSE&ab_channel=NECTEC
- NECTEC. (2560). DentiiScan 2.0 เครื่องแรกฝีมือคนไทย ตอบโจทย์ทันตกรรมสามมิติ. [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=FgvMAXwfFZk&ab_channel=NECTEC
- NSTDAChannel TVstation. (2565). เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติสำหรับชิ้นเนื้อ (MiniiScan) รุ่นที่สอง. [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=wjKvFwjw_t8&ab_channel=NSTDAChannelTVstation
- NSTDAChannel TVstation. (2561). DentiiScan งานวิจัยตอบโจทย์ประเด็นมุ่งเน้น “การสร้างเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต”. [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=TITx-3CeTWU&ab_channel=NSTDAChannelTVstation
- NSTDAChannel TVstation. (2557). DentiiScan ซีทีสแกนเพื่อทันตกรรม. [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=5JvCgtslV0U&ab_channel=NSTDAChannelTVstation
- ThaiprincessIT. (2568). พระราชทานเครื่อง MobiiScan เพื่อยกระดับการรักษาผู้ป่วย ณ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร. [Video]. YouTube. https://www.youtube.com/watch?v=pYozx26NRo0&ab_channel=ThaiprincessIT
- The Story Thailand. (2564, 16 มิถุนายน). DentiiScan นวัตกรรม Dental CT สัญชาติไทย (ตอนที่ 1). https://www.thestorythailand.com/16/06/2021/30477/
- The Story Thailand. (2564, 22 มิถุนายน). DentiiScan นวัตกรรม Dental CT สัญชาติไทย (ตอนที่ 2). https://www.thestorythailand.com/22/06/2021/31372/
- ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ. (2561, 19 มีนาคม). “MiniiScan” นวัตกรรมเครื่องตรวจหาหินปูนในชิ้นเนื้อจากเต้านม โดย มอ. ร่วมกับ สวทช.. https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/miniiscan-xray.html
- ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ. (2561, 26 พฤศจิกายน). วิทย์เสริมแกร่ง “DentiiScan” ตอบโจทย์การพึ่งพาเทคโนโลยีภายในประเทศ. https://www.nectec.or.th/news/news-pr-news/dentiiscan-thailand40.html
- ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ. (2559, 3 ตุลาคม). เดนตีสแกน 0 (DentiiScan 2.0). https://www.nectec.or.th/innovation/innovation-hardware-electronics/dentiiscan2.html
- ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ. (2559, 3 ตุลาคม). เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติ MobiiScan. https://www.nectec.or.th/innovation/innovation-hardware-electronics/mobiiscan.html
- สำนักงานนวัตกรรม. (2559, ตุลาคม 3). เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติ MobiiScan. Thailand Innovation Portal. https://www.thailandinnovationportal.com/info/innovation/item/65636
- สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2568, 12 มีนาคม). สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเปิด “ศูนย์พัฒนลักษณ์” พร้อมพระราชทานเครื่อง MobiiScan เพื่อยกระดับการรักษาผู้ป่วย. https://www.nstda.or.th/home/news_post/mobiiscan-250311/
- สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2564, 9 มิถุนายน). DentiiScan 2.0 นวัตกรรมไทยตอบโจทย์งานทันตกรรม. https://www.nstda.or.th/home/performance_post/dentiiscan/
- สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. (2562, 19 ตุลาคม). “เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สามมิติแบบลำรังสีทรงกรวย” ของสวทช. ได้รับพระราชทานรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่น ประจำปี 2562. https://www.nstda.or.th/archives/3dxray-promotion-scitec-award/