ดร.ศิษเฎศ ทองสิมา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพระดับโมเลกุลทางการแพทย์ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้รับรางวัล “Ajinomoto – TSB Award for Outstanding Biotechnologist in Research and Innovation 2025” จากสมาคมเทคโนโลยีชีวภาพแห่งประเทศไทย (TSB) และ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด

วันที่ 29 ตุลาคม 2568 ณ โรงแรมแมนดาริน กรุงเทพมหานคร — สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เชาวรีย์ อรรถลังรอง ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วยคณะนักวิจัย ร่วมแสดงความยินดีกับ ดร.ศิษเฎศ ทองสิมา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพระดับโมเลกุลทางการแพทย์ ไบโอเทค สวทช. ในโอกาสที่ได้รับ รางวัล “Ajinomoto – TSB Award for Outstanding Biotechnologist in Research and Innovation 2025” จากสมาคมเทคโนโลยีชีวภาพแห่งประเทศไทย (TSB) และ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด


รางวัลดังกล่าวมอบให้แก่นักวิจัยผู้มีผลงานโดดเด่นด้านการวิจัยและนวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อการพัฒนาสังคมไทย โดยมีพิธีมอบรางวัลภายในงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติ The 37th Annual Meeting of the Thai Society for Biotechnology (TSB2025) ภายใต้หัวข้อ “Biotechnology in Action”

ผลงานที่ได้รับรางวัล คือ “จากนวัตกรรมสู่การนำไปใช้จริง: การพัฒนาระบบการประมวลผลข้อมูลจีโนมิกส์และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่ออนาคตการแพทย์แม่นยำในประเทศไทย” ผลงานดังกล่าวมุ่งพัฒนา ระบบการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลจีโนมิกส์ (Genomic Data Infrastructure) เพื่อสนับสนุนการแพทย์แม่นยำ (Precision Medicine) ของประเทศไทย โดยสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลและแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ที่มีมาตรฐาน ปลอดภัย และพร้อมประยุกต์ใช้ในระบบสาธารณสุข เพื่อให้แพทย์และนักวิจัยสามารถเข้าถึงข้อมูลพันธุกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันนำไปสู่การวินิจฉัยและการรักษาเฉพาะบุคคลอย่างเหมาะสม

ดร.ศิษเฎศ ทองสิมา เป็นนักวิจัยผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีชีวภาพระดับโมเลกุลและชีวสารสนเทศ (Molecular Biotechnology & Bioinformatics) มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา แพลตฟอร์มข้อมูลจีโนมิกส์ระดับประเทศ (National Genomics Data Infrastructure) เพื่อวางรากฐานสู่ระบบการแพทย์แม่นยำของประเทศไทยอย่างยั่งยืน
